ไขกลยุทธ์ไข่ทองคำG&E Food3ปีตลาดขานรับเร่งขยายเพิ่ม3เท่าตัว

25 พ.ค. 2562 | 04:55 น.

 

แบรนด์ “G & E Food” เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ ไข่เยี่ยวม้าธรรมชาติปลอดสารตะกั่ว หรือ อีกชื่อที่เรียกกันติดปากว่า “ไข่ทองคำ” ที่เกิดจากข้อสงสัยและความที่เป็นคนไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ทำให้วันนี้คนไทยได้ลิ้มลองไข่เยี่ยวม้า ที่ไม่เหมือนไข่เยี่ยวม้าทั่วไป

ช่วงเปิดตัวหลายคนตั้งคำถามว่าทำไมถึงต้องเป็นชื่อ ไข่ทองคำ ผู้ที่จะตอบคำถามนี้ได้ดีที่สุดคือ “เอ้ง” นภัทรินทร์ รัตนพรนภาพันธ  เจ้าของแบรนด์ “G & E Food” จากบริษัท G & E Food จำกัด เปิดเผยผ่าน “ฐานเศรษฐกิจ”ถึงความเป็นมาว่า เดิมที G & E Food เป็นชื่อร้านอาหารและร้านกาแฟเล็กๆ ที่เปิดร่วมกันในครอบครัว ที่จังหวัดเชียงราย และจุดเริ่มต้นของไข่ทองคํา ก็เกิดจากที่ครอบครัวได้มีโอกาสไปเยี่ยมญาติที่เมืองจีน

“จำได้ว่า ครั้งนั้นคุณแม่ได้เตรียม อาหารไปทําให้ญาติๆทานกันซึ่งหนึ่งในเมนูนั้นคือไข่เยี่ยวม้า ทําให้เป็นประเด็นพูดกันบนโต๊ะอาหารว่า สมัยอากง อาม่าทํางานอยู่ในวังของจีนจะมีไข่เยี่ยวม้า แต่เป็นสีทอง ไม่ใช่สีด

ไขกลยุทธ์ไข่ทองคำG&E Food3ปีตลาดขานรับเร่งขยายเพิ่ม3เท่าตัว

นภัทรินทร์ รัตนพรนภาพันธ 

 

 

 

บ่อเกิดมาจากข้อสงสัยล้วนๆ

จากข้อสงสัยว่ามันมีจริงหรือไข่เยี่ยวม้าสีทอง เพราะที่เห็นอยู่ ก็มีแต่ ไข่เยี่ยวม้าสีดํา พอกลับมาไทยก็มาลองหาข้อมูลดู เริ่มจากการตะเวนไปตามโรงงานที่ทําไข่เยี่ยวม้าสีดํา สอบถามว่า ทําอย่างไรบ้าง แต่ก็โดนตอบกลับมาว่าลงทุนไม่คุ้มเสีย ต้องควบคุมอะไรหลายๆอย่าง สูตรก็ไม่แน่นอน คนที่ทํามา 10 ปียังขาดทุนได้ ไข่เน่าเสียยกล็อตเพราะการทําไข่เยี่ยวม้าแต่ละครั้ง ต้องใช้เวลา 30-35 วัน ซึ่งนานกว่าจะรู้ผล

คำเตือนทั้งหมดนี้ ไม่ได้ทำให้ “เอ้ง”กลัว กลับตรงกันข้าม เขามุ่งศึกษาหาคำตอบถึงวิธีการทำไข่ทองคำ ช่วงแรกๆ ก็เจอแต่ความเสี่ยง ผิดหวัง จากการนำสูตรมาลองผิดลองถูก จนค้นพบว่าจะต้องใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติมาแทนสารเคมี จนออกมาเป็นไข่ทองคําได้และตลาดกำลังไปด้วยดีจากการตอบรับของกลุ่มผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ

“เอ้ง”เล่าอีกว่า ไข่ทองคำที่ทำ จะนำเอาหลักวิทยาศาสตร์การทดลอง ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการอบบ่ม อีกทั้งปรับสูตรสารทดแทนต่างๆจากธรรมชาติมาแทนเคมี เพื่อปรับเปลี่ยนให้ได้ไข่สีทองที่ ทรงคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน และมี สี กลิ่น รส ที่ต่างจากไข่เยี่ยวม้าเดิมๆ ที่เคยรับประทาน โดย “เอ้ง” มองว่ามันคือ food innovation อย่างนึง โดยสินค้าที่ผลิตจะมีความต่างจากไข่เยี่ยวม้าตรงที่ปลอดสารตะกั่ว วิตามินจากไข่ยังคงอยู่ รวมถึงมีโซเดียมตํ่าเมื่อเทียบกับไข่เยี่ยวม้า

ไขกลยุทธ์ไข่ทองคำG&E Food3ปีตลาดขานรับเร่งขยายเพิ่ม3เท่าตัว

 

ควักทุนขยายโรงงานแห่งใหม่

ล่าสุดธุรกิจไข่เยี่ยวม้าปลอดสารตะกั่ว ค่อยๆ เติบโต หลังจากที่ตลาดเริ่มขานรับมากขึ้นเรื่อยๆ จากที่มีความสามารถผลิตได้จริงตั้งแต่ 15,000-20,000 ฟองต่อวันที่โรงงานเชียงรายโดยใช้ไข่เป็ดทั้งหมด และเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคโดยเพิ่งเปิดตัวไข่เยี่ยวม้านกกระทาออกมาเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา ที่ปริมาณ 20,000-30,000 ฟองต่อวันที่ส่วนใหญ่จะทำตาม ออร์เดอร์ของลูกค้ามากกว่า

ปี 2562 วางแผนไว้ว่า หลังจากที่ 3 ปีที่ผ่านมาตลาดค่อยๆ ขานรับมากขึ้น จึงต้องกระจายตลาดให้ทุกคนในไทยและอาเซียนรู้จักไข่ทองคำมากยิ่งขึ้น โดยล่าสุดยอมควักทุนจำนวนหนึ่ง อยู่ระหว่างขยายโรงงานผลิตแห่งใหม่ที่จังหวัดลพบุรี ขยายกำลังการผลิตไข่ทองคำจากไข่เป็ดพิ่มขึ้นอีก 3 เท่าตัว หรือผลิตเพิ่มเป็น 50,000 ฟองต่อวัน และเดินแผนเปิดกลยุทธ์บุกตลาดไข่ทองคำ“G& E Food”  อย่างจริงจัง อย่างมีเป้าหมาย เช่น ขยายตลาดส่งออกให้ได้ถึง 5%ในปี 2563 โดยเปิดตลาดญี่ปุ่น ไต้หวัน สิงคโปร์ จากปัจจุบันมีออร์เดอร์จาก ฮ่องกง อยู่แล้วราว 300 กล่องต่อเดือน และขยายตลาดภายในประเทศไปยังห้าง ร้านค้า และร้านอาหารภัตตาคาร ร้านโจ๊ก รวมถึงร้านอาหารญี่ปุ่น มากขึ้น เนื่องจากไข่ทองคำนี้ สามารถรับประทานโดยมีนํ้าจิ้มซีฟู้ด หรือวาซาบิได้ รวมถึงนำไปประกอบอาหารประเภทยำ ก็ได้ความอร่อยอย่างลงตัว โดยมีช่องทางติดต่อทางเวปไซต์ www.gandefood.com  ,WeChat ID : naphad_gandefoods , Line ID : naphatharin ,Tel. 063-1283139 ,Email : [email protected]  และสินค้ามีวางจำหน่ายแล้วที่ท้อปส์ 30 สาขา  บิ๊กซี  30 สาขา และที่ ริมปิงพลาซ่าเชียงใหม่ 9 สาขา

 

ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติปลอดภัย100%

สำหรับช่วงเวลาการผลิตไข่ทองคำนี้ถ้านับตั้งแต่ช่วงผลิตจนถึงนำออกมาขายได้ จะใช้เวลา 25 วัน และมีอายุเก็บรักษาได้นานถึง 3 เดือน โดยใช้นวัตกรรมการผลิตที่นำวัตถุดิบจากธรรมชาติมาเทียบเคียงส่วนผสมเคมีบางชนิดเพื่อให้ปลอดสารตะกั่ว สารโลหะหนัก สารปรอทที่อาจมีปนอยู่ ทำให้ปลอดภัย 100% โดยการผลิตทั้งหมดจะผ่านการตรวจสอบจาก
เซ็นทรัลแล็บไทยและผ่านการวิจัยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

 

  สุดท้าย “เอ้ง” บอกว่าที่ลองถูกลองผิดมาทั้งหมด จนมาถึงความสำเร็จในวันนี้ได้ ส่วนหนึ่งมาจากความสงสัยและถูกสบประมาท “ผมไม่ใช่คนเก่งครับ ผมแค่แพ้ไม่เป็น จากประโยค นี้ทำให้ผมอยากจะทำให้ไข่ทองคำนี้เป็นไข่ที่ทุกๆ บ้านมีติดครัวไว้” นั่นคือความมุ่งมั่นที่ไข่เยี่ยวม้า หรือไข่ทองคำแบรนด์ “G & E Food” มองไว้ถึงการเติบโตในอนาคต

นอกจากนี้หน่วยงานภาครัฐยังมอบโอกาสดีๆให้ ต้องขอขอบคุณ กองโลจิสติกส์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ที่ได้มอบโอกาสให้เข้าร่วมโครงการโลจิสติกส์เสริมแกร่ง ทำให้บริษัทได้รับคำปรึกษา แนะนำจากที่ปรึกษาอย่างดี ส่งผลให้สามารถลดต้นทุนด้านจิสติกส์ได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงสามารถวางแผนการจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย

 

เรื่อง : งามตา สืบเชื้อวงค์ 
ภาพ : สิทธิศักดิ์ วงศ์ปรากฏ

 

หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,473 วันที่ 26 - 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2562


ไขกลยุทธ์ไข่ทองคำG&E Food3ปีตลาดขานรับเร่งขยายเพิ่ม3เท่าตัว