ธอส.โอด LTV ฉุดสินเชื่อพลาดเป้า ลุ้นธปท.ดึงแบงก์รัฐพ้นบ่วง

23 พ.ค. 2562 | 11:08 น.

พิษ LTV ฉุดสินเชื่อธอส.พลาดเป้า 6 หมื่นล้านบาท จากเป้าทั้งปี 2.03 แสนล้านบาท ลุ้นคลังนำข้อเสนอแนะไปหารือ เพื่อยกเว้นแบงก์รัฐ”ธอส.-ออมสิน”ให้เข้าเกณฑ์ เหตุดูแลผู้มีรายได้น้อย

               นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.)เปิดเผยว่า การปล่อยสินเชื่อของธอส.ในปีนี้มีแนวโน้มที่จะต่ำกว่าเป้าหมาย 6 หมื่นล้านบาท จากที่ตั้งไว้ 2.03 แสนล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่คุมเข้มสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ (LTV) ซึ่งทำให้ลูกค้าที่เป็นผู้มีรายได้น้อยและปานกลางที่ไม่มีเงินเก็บไม่สามารถซื้อบ้านได้ เพราะต้องมีเงินดาวน์ก่อน โดยปกติเดือนเมษายน แม้จะมีวันหยุดเยอะ แต่ธนาคารจะปล่อยสินเชื่อได้ประมาณ 1.3-1.5 หมื่นล้านบาท แต่หลัง LTV มีผลบังคับใช้ สามารถปล่อยสินเชื่อได้เพียง 9 พันล้านบาท หายไปประมาณ 30%

ธอส.โอด LTV ฉุดสินเชื่อพลาดเป้า  ลุ้นธปท.ดึงแบงก์รัฐพ้นบ่วง

               อย่างไรก็ตาม สัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้เรียกธอส.และธนาคาร ออมสินไปหารือถึงผลกระทบดังกล่าว ซึ่งธอส.มีข้อเสนอแนะ เพื่อให้นำไปหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เพื่อแก้ไขผลกระทบที่เกิดขึ้น เพราะมาตรการของ ธปท.ทำให้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ ซึ่งมีหน้าที่ดุแลผู้มีรายได้น้อย ทำตามเป้าหมายได้ยาก ขณะเดียวกันธนาคารรัฐไม่มีบริการสินเชื่อประเภทอื่นที่จะมาชดเชยได้  เช่นสินเชื่อบัตรเครดิต หรือสินชื่อส่วนบุคคลที่สามารถ Top up ได้ถึง 95% ของหลักประกัน
               “ทางคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้เรียก ธอส. และ ธนาคารออมสินไปหารือถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้ต้องรอทางคลังสรุปว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งทาง ธอส. ก็ได้เสนอไปหลายแนวทาง โดยทางคลังก็จะนำไปพิจารณา แล้วคงนำไปหารือกับ ธปท.ต่อไปนายฉัตรชัยกล่าว

สำหรับผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562 ธอส.สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ทั้งสิ้น 44,041 ล้านบาท 35,971 บัญชี โดยเป็นการเพิ่มโอกาสให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยและปานกลางได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในวงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท จำนวน 21,319 ราย หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 61 ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างรวม 1,128,493 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.88% สินทรัพย์รวม 1,167,362 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.95% เงินฝากรวม 945,294 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.58% หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 49,295 ล้านบาท คิดเป็น 4.37% ของยอดสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้น 0.03% อัตราส่วนการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (Provision to NPL) อยู่ที่ 166.81% เพิ่มขึ้น 9.60% มีรายได้ดอกเบี้ย 12,971 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย 5,432 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 2,866 ล้านบาท

               และล่าสุด ณ วันที่ 30 เม.ย.62 ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้แล้ว 53,348 ล้านบาท โดยคาดว่าเมื่อถึง ณ สิ้นไตรมาส 2/62 ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่จะเพิ่มขึ้นไปใกล้เคียงกับเป้าหมาย 6 เดือนที่ตั้งไว้ 100,000 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปี 2562 ที่ 203,000 ล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐ เช่น การลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับการซื้อบ้านพร้อมที่ดิน หรือคอนโดมิเนียมที่มีมูลค่าไม่เกิน 5 ล้านบาท มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองของที่อยู่อาศัยราคาซื้อขายไม่เกิน 1 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 1 ล้านบาท
               รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านต่าง ๆ เพิ่มเติมของรัฐบาลที่คาดว่าจะทยอยประกาศในช่วงไตรมาสที่ 3-4 ของปี 62 ซึ่งสินเชื่อที่อยู่อาศัยในช่วงครึ่งปีหลังของทุกปีจะเร่งตัวขึ้นจากครึ่งปีแรกตามภาวะการแข่งขันของตลาดที่อยู่อาศัย เพราะผู้ประกอบการจะจัดทำโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขายและปิดยอดให้ได้ตามเป้าหมายในช่วงดังกล่าว


 

ธอส.ยังประสบความสำเร็จในการนำระบบปฏิบัติงานหลัก GHB System ขึ้นใช้งานได้สำเร็จตามกำหนดและสามารถให้บริการลูกค้าได้ต่อเนื่อง ซึ่ง GHB System จะสามารถรองรับการดำเนินธุรกิจไปได้อีกอย่างน้อย 10 ปี พร้อมรับกับการแข่งขันในธุรกิจสถาบันการเงินการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี และความต้องการของลูกค้าที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วในการใช้บริการ โดยเฉพาะการยกระดับบริการดิจิทัลด้วยเทคโนโลยี และภายในเดือนมิถุนายนนี้ ธอส.มีกำหนดเริ่มให้บริการ Phase 2 ของ Mobile Application : GHB ALL ที่จะมีฟังก์ชั่นการให้บริการเพิ่มเติมประกอบด้วย การยื่นกู้สำหรับลูกค้าที่มีสวัสดิการกับธนาคาร บริการแจ้งเตือนให้ชำระหนี้ เชื่อมต่อกับระบบค้นหาและโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ซื้อทรัพย์ และการเชื่อมต่อกับระบบสะสมแต้ม Online ของลูกค้าเพื่อลุ้นรับของรางวัลต่าง ๆ ในโครงการ GHB Reward ซึ่งภายหลังจากที่เปิดตัวเมื่อวันที่ 1 พ.ย.61 ล่าสุดมีลูกค้าดาวน์โหลดและลงทะเบียนใช้งานแล้วกว่า 100,000 ราย
               ส่วนแนวทางการดำเนินงานสำคัญช่วงที่เหลือปีนี้ ธอส.ยังจะจัดทำสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ Reverse Mortgage ภายใต้กรอบวงเงิน 1,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยของตนเองและปลอดภาระหนี้ สามารถนำมาจำนองกับธนาคารเพื่อรับเงินเป็นรายเดือนสำหรับการดำรงชีพเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น กำหนดพื้นที่นำร่องที่อยู่อาศัย(หลักประกัน) ต้องตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล
               ส่วนความคืบหน้าโครงการบ้านล้านหลัง ขณะนี้มีการปล่อยไปได้แล้วราว 4,500 ล้านบาท เฉลี่ยกู้รายละ 850,000 ล้านบาท จากที่จองสิทธิ์ 127,000 ราย ซึ่งทาง ธอส. ได้เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบขยายโครงการจากเดิมสิ้นสุดปี 2562 เป็นปี 2564 แล้ว เนื่องจากผู้จองสิทธิ์ต้องอาศัยเวลาในการยื่นกู้ นอกจากนี้ ในเดือน กันยายน จะเปิดให้มีการจองสิทธิ์กู้ในเฟส 2 ต่อไป

ธอส.โอด LTV ฉุดสินเชื่อพลาดเป้า  ลุ้นธปท.ดึงแบงก์รัฐพ้นบ่วง