เกษตรฯ ใส่เกียร์เดินหน้าประชาสัมพันธ์ต้อนเกษตรกร 1.2 ล้านรายขึ้นทะเบียนมิ.ย.นิ้ เร่งจัดตารางเปิดอบรมใช้ 3 สารเคมี เข้มต้องมีใบประกาศรับรองเท่านั้น ชี้มีเงินก็ซื้อไม่ได้ หากร้านขายก็ผิดโดนเล่นหนักร้ายแรงทั้งปรับ ถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาต
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกประกาศกระทรวง 5 ฉบับเกี่ยวกับการจำกัดการใช้สารเคมี 3 ชนิดได้แก่ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอสประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 62 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในอีก 180 วันหลังวันประกาศ ซึ่งในวันที่ 21 ตุลาคมกฎหมายจะบังคับใช้
นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่ามิถุนายนจะเปิดให้เกษตรกรที่ปลูกปาล์มน้ำมัน, มันสำปะหลัง, ข้าวโพด, ไม้ผล, อ้อย และไม้ดอกไม้ประดับ มาขึ้นทะเบียนเกษตรที่สำนักงานเกษตรอำเภอ ส่วนยางพาราขึ้นทะเบียนได้ที่การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ทุกจังหวัด ซึ่งจะต้องผ่านการอบรมและทดสอบหลักสูตรการใช้ 3 สารเคมี คือ สารพาราควอต ไกลโฟเสตและคลอร์ไพริฟอส ที่ถูกต้องและปลอดภัย
“เกษตรกรจะต้องผ่านการอบรม ผ่านการทดสอบ ถึงจะมีสิทธิในการซื้อตามปริมาณที่ได้รับการควบคุม ดังนั้นเกษตรกรที่จำเป็นในการใช้ 3 สาร ลำดับแรกต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกร เพื่อแสดงสิทธิ์ในการเข้ารับการอบรม การทดสอบและการซื้อ สารดังกล่าว”
นายสำราญ กล่าวว่า หลังจากที่กฎหมายมีผลบังคับใช้เกษตรกรที่ต้องแสดงหลักฐานว่าได้ผ่านการอบรม ชนิดพืชที่ปลูก พร้อมจำนวนพื้นที่ปลูกเพื่อกำหนดปริมาณสารเคมีที่จะซื้อไปให้มีความเหมาะสมกับความต้องการใช้ เพื่อนำไปแสดงเป็นหลักฐานในการซื้อสารเคมีเท่านั้น หากไม่มีก็ไม่สามารถที่จะซื้อสารเคมีได้ เพราะร้านจะไม่สามารถขายให้ได้
ปัจจุบันกรมส่งเสริมการเกษตรได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ทุกสำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานเกษตรอำเภอและศูนย์ปฏิบัติการของกรมส่งเสริมการเกษตร จำนวน 1,625 คน เพื่อเป็นวิทยากรอบรมและให้ความรู้กับเกษตรกร ให้รีบขึ้นทะเบียนเกษตรกรเพื่อรองรับประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการควบคุมการขายวัตถุอันตราย 3 ชนิด คือ พาราควอต, ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
● แฉเบื้องหลัง!จำกัดการใช้ 'สารเคมี' ก.เกษตรฯ
● ราชกิจจาฯ ประกาศ!!จำกัดใช้ 3 สารเคมีเกษตร
● จุดจบ! 3 สารเคมีพิษสิ้นแผ่นดินไทย
● ผวา 3 สารเคมีเกษตรทะลัก‘ตลาดมืด’ถูกจำกัดนำเข้าสกัดเก็งกำไร
● จี้!เกษตรกรขึ้นทะเบียนอบรมก่อนถึงจะมีสิทธิ์ซื้อสารเคมี
● ไขปม? ทำไม ‘เกษตรฯ ยังไม่แบน 3 สารเคมีเกษตร