ทำไม “มิ่งขวัญ” ไขก๊อก ฤาโดนใคร? ฉีก MOU 7 พรรค
การลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ของ “นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ “ เป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ ในแวดวงการเมืองอย่างมาก
เหตุผลในใบลาออกระบุว่า เนื่องการการบริหารจัดการในพรรคเศรษฐกิจใหม่ ตามที่ข้าพเจ้าได้เคยแถลงข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ว่า การบริหารจัดการในพรรคได้แบ่งแยกภารกิจการทำงานออกเป็น 2 ส่วน อย่างชัดเจน กล่าวคือข้าพเจ้ามีหน้าที่รับผิดชอบในการร่างนโยบายระบบเศรษฐกิจใหม่ การออกไปพูดกับสาธารณชน และสื่อต่างๆ ส่วนการบริหารกิจการภายในพรรค การรับสมัครสมาชิกพรรค คัดเลือกผู้สมัคร การระดมทุน และการบริหารจัดการทางการเงินทั้งหมด เป็นหน้าที่รับผิดชอบของนายสุภดิช อากาศฤกษ์ และทีมบริหารอีกฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ดูแล บัดนี้ได้ผ่านพ้นการเลือกตั้งมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ข้าพเจ้าจึงเห็นว่าเป็นช่วงเวลาอันเหมาะสม จึงขอลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่
เหตุผลในกระดาษกับข้อเท็จจริงทางการเมือง กูรูทางการเมืองต่างไม่เชื่อว่านี่คงไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้ลุงมิ่งของหนูๆลาออกแบบนี้ และพากันตั้งคำถามว่า อะไรที่ทำให้นายมิ่งขวัญตัดสินใจแบบนี้ หรือมีอะไรลึกๆที่ไม่พอใจ หนึ่งในบทวิเคราะห์ของกูรูมุ่งไปที่ “การฉีกเอ็มโอยู” ของ 6+1 พรรคการเมือง
“ฐานเศรษฐกิจ” รวบรวมข้อมูลย้อนให้เห็นTime line จุดยืนทางการเมืองบางอย่างนับตั้งแต่เสร็จสิ้นการลงคะแนนเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562
Time line ที่ 1: วันที่ 25 มีนาคม 2562 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นำแถลงจุดยืนของพรรค 4 ข้อ หนึ่งในนั้นถูกระบุเป็นข้อแรกของจุดยืน คือ “ข้อที่ 1.หลักการจัดตั้งรัฐบาล ยืนยันว่า นายธนาธร พร้อมจะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่พรรคอนาคตใหม่จะไม่เสนอชื่อนายธนาธร เป็นนายกฯ เพราะเราต้องการยืนยันวัฒนธรรมประชาธิปไตยที่ถูกต้อง และเราจะไม่เอาเรื่องนี้เป็นเงื่อนไขไปสู่การที่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้”
“แคนดิเดทของพรรคเพื่อไทย คือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ได้แสดงตัวชัดเจนว่าเข้าสู่กระบวนการการเลือกตั้ง และเป็นผู้สมัครสส.บัญชีรายชื่อลำดับที่สองของพรรคเพื่อไทย กติกาการเลือกตั้งแบบนี้ทำให้คุณหญิงสุดารัตน์ไม่ได้ตำแหน่งสส. น้ำหนักของเรา คือ การหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของคสช.เป็นหลัก” นายธนาธร กล่าว
Time line ที่ 2 : วันที่ 28 มีนาคม 2562 ในพิธีลงสัตยาบัน ของ 6 พรรคการเมือง ที่ที่โรงแรมแลงคาสเตอร์ ประกอบด้วยพรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ พรรคพลังปวงชนชาวไทย และมีชื่อของพรรคเศรษฐกิจใหม่ร่วมในสัตยาบัน โดยที่ นายมิ่งขวัญ ศรีสุวรรณ์ หัวหน้าไม่ได้มาร่วมงาน
นายธนาธร กล่าวย้ำจุดยืนของพรรคอนาคตใหม่ก่อนลงสัตยาบันว่า “ขอยืนยันเหมือนเดิมว่า นายกรัฐมนตรี ต้องมาจากพรรคอันดับหนึ่ง พรรคอนาคตใหม่ จะสนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์ ที่เหมาะสมเป็นนายกฯของประเทศไทยมากที่สุดในวันนี้”
Time line ที่ 3 : วันที่ 27 มีนาคม 2562 นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ แถลงเปิดใจถึงทิศทางการร่วมรัฐบาล หลังพรรคเพื่อไทยนัดกับพรรคการเมือง 6 พรรคลงนามสัตยาบันในการจัดตั้งรัฐบาล หนึ่งในการแถลงสื่อมวลชนถามนายมิ่งขวัญว่ายืนยันที่จะเข้าร่วมการประกาศรวมตัวของ 7 พรรคการเมือง กับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายมิ่งขวัญตอบว่า “ครับ ครับ ครับ อยากได้แค่นี้ใช่ไหม ก็ตอบให้แล้วไง” ส่วนเหตุผลสำคัญในการร่วมจับมือกัน 7 พรรคคืออะไร นายมิ่งขวัญ ตอบว่า หนึ่ง ต้องเป็นระบอบประชาธิปไตย สอง เราก็บอกแล้วว่าถ้าเกิดเศรษฐกิจไม่ดี คนไทยไม่มีความสุข ก็ต้องเปลี่ยนแปลงถูกไหมฮะ สามระบบกติกาจะเป็นอะไร นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
“ข้อสี่ แม้แต่กระทั่งฝั่งเดียวกัน ถ้าคุณพูดแล้วคุณไม่รักษาคำพูดผมก็ไม่ยอมเหมือนกัน จำประโยคนี้ไว้ให้ดีดีนะฮะผมบอกไว้ก่อน ผมบอกว่าผมเป็นคนรักษาคำพูดคือผมเคยพูดยังไงผมก็พูดอย่างงั้น ผมไม่กลับไปกลับมาไง น้องฟังภาษาไทยชัดเจนไหมครับ ผมหมายถึงว่าใครไปพูดอะไร บางคนพูดไปส่งเดช วันนี้พูดอย่างนี้ อย่างนี้ อย่างนี้ ถ้าเป็นคุณคุณรู้สึกยังไงครับ”
นักข่าวถามนายมิ่งขวัญว่า จะไปเซ็นเอ็มโอยูกับพรรคอื่นๆหรือไม่ นายมิ่งขวัญ ตอบว่า “เซ็นหรือไม่เซ็น ถ้าคุณเซ็นแล้วไม่รักษาคำพูดคุณจะมีประโยชน์อะไร”
Time line ที่ 4 : 16 พฤษภาคม 2562 นายธนาธร แถลงว่า พรรคอนาคตใหม่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเอง และนายกรัฐมนตรีจะชื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หลังจากการจัดตั้งรัฐบาลหลังจากการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมา ยังมีความคลุมเครือ ซึ่งยิ่งทำให้พรรคพลังประชารัฐ และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ประโยชน์
"ภายใต้ภาวะสิ้นหวังของประเทศไทยหลังการเลือกตั้ง ฝ่ายที่ได้ประโยชน์มากสุดคือ 'พรรคพลังประชารัฐ' เมื่อไม่มีใครอาสาเป็นแกนนำในการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของคสช.พรรคอนาคตใหม่ขออาสาเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลด้วยตนเอง ผม 'พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี' เพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช." นายธนาธร กล่าวตอนหนึ่งในระหว่างแถลงข่าว
หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวอีกว่า การเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ ไม่ใช่มติของ 7 พรรคแนวร่วม ที่เคยลงนาม MOU จัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด
“ในส่วนพรรคเพื่อไทย พูดหลายครั้งว่าใครเป็นนายกฯก็ได้ มีภารกิจเดียวกันคือหยุดยั้ง คสช.”