ม.หอการค้าไทย ชี้ดัชนี SMEs ไตรมาส 1/62 ปรับลดทุกด้าน

23 พ.ค. 2562 | 06:22 น.

ม.หอการค้าไทย เผยผลสำรวจดัชนีเอสเอ็มอีไตรมาสแรกปรับลดจากไตรมาส 4 ปีก่อนทุกด้าน ทั้งดัชนีสถานการณ์ธุรกิจ ดัชนีความสามารถในการทำธุรกิจ ดัชนีความยั่งยืนของธุรกิจ  และดัชนีความสามารถในการแข่งขัน  ขณะที่ลูกค้า ธพว. ยังแกร่งกว่าค่าเฉลี่ย

ม.หอการค้าไทย ชี้ดัชนี SMEs ไตรมาส 1/62 ปรับลดทุกด้าน
                ผศ.ดร.ธนวรรธน์  พลวิชัย  รองอธิการบดีอาวุโสวิชาการและงานวิจัย  และผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ  มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า  ดัชนีสถานการณ์ธุรกิจ ไตรมาส 1/2562 อยู่ที่ 43.7  ปรับตัวลด 0.3 จุด เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา (4/2561)  และคาดไตรมาส 2/2562 จะอยู่ที่ 43.5 โดยเมื่อลองเปรียบเทียบดัชนีสถานการณ์ธุรกิจ ในกลุ่มที่เป็นลูกค้ากับกลุ่มที่ไม่ใช่ลูกค้าของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank จะพบว่า  กลุ่มที่ไม่ใช่ลูกค้าของ ธพว. ดัชนีสถานการณ์ธุรกิจปรับจากระดับ 37.7 มาอยู่ที่ระดับ 37.4  ส่วนกลุ่มที่เป็นลูกค้า ธพว.  ดัชนีสถานการณ์ธุรกิจ จากระดับ 49.2  มาอยู่ที่ระดับ 49.0

ด้านดัชนีความสามารถในการทำธุรกิจ ไตรมาสที่ 1/2562 อยู่ที่ระดับ 49.9 ปรับตัวลดลง 0.5 จุด  เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา และคาดไตรมาส 2/2562 จะอยู่ที่ 49.6 โดยกลุ่มที่เป็นลูกค้า  ธพว. ดัชนีอยู่ที่ 57.8  สูงกว่ากลุ่มที่ไม่ได้เป็นลูกค้า  ธพว. ดัชนีอยู่ที่ 42.2

ขณะที่ดัชนีความยั่งยืนของธุรกิจ ไตรมาสที่ 1/2562 อยู่ที่ระดับ 52.5 ปรับตัวลดลง 0.3  จุด เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา  และคาดไตรมาส 2/2562 จะอยู่ที่ 52.3  โดยเมื่อแยกเปรียบเทียบกลุ่มที่เป็นลูกค้า  ธพว. กับกลุ่มที่ไม่ได้เป็นลูกค้า  ธพว.  พบว่า กลุ่มที่ไม่ได้เป็นลูกค้า ธพว. ดัชนีจากระดับ 45.6  มาอยู่ที่ระดับ 45.3   ขณะที่กลุ่มที่เป็นลูกค้า ธพว. จากระดับ 60.0  มาอยู่ที่ระดับ 59.6

ม.หอการค้าไทย ชี้ดัชนี SMEs ไตรมาส 1/62 ปรับลดทุกด้าน

ผศ.ดร.ธนวรรธน์  กล่าวต่อไปว่า จาก 3 ดัชนีข้างต้น นำมาสู่ดัชนีความสามารถในการแข่งขันของเอสเอ็มอี (SMEs) ไตรมาสที่ 1/2562 พบว่า อยู่ที่ระดับ 48.7 ปรับตัวลดลง 0.3 จุด เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา และคาดว่าในไตรมาสที่ 2/2562  จะอยู่ที่ระดับ 48.5 โดยเมื่อเทียบระหว่างกลุ่มที่เป็นลูกค้า  ธพว. กับกลุ่มที่ไม่ได้เป็นลูกค้า  ธพว.  พบว่า กลุ่มที่ไม่ได้เป็นลูกค้า ธพว. ดัชนีความสามารถในการแข่งขัน ลดลง 0.5 จุด  จาก 42.1 มาอยู่ที่ 41.6  ด้านลูกค้า ธพว. ดัชนีความสามารถในการแข่งขัน ลดลง 0.4 จุด จาก 55.9 มาอยู่ที่ 55.5

ม.หอการค้าไทยร่วมกับ ธพว. สำรวจสถานการณ์ธุรกิจ SMEs และดัชนีความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ SMEs ประจำไตรมาสที่ 1/2562 จาก 1,249 ตัวอย่างทั่วประเทศ โดยสำรวจ 3 ดัชนี ได้แก่  1.ดัชนีสถานการณ์ธุรกิจ SMEs (SMEs Situation Index) 2.ดัชนีความสามารถในการทำธุรกิจ  (SMEs Competency Index) และ 3.ดัชนีความยั่งยืนของธุรกิจ SMEs (SMEs Sustainability Index)  นำมาประมวลให้เห็นถึงดัชนีความสามารถในการแข่งขันของ SMEs (SMEs Competitiveness Index)

ส่วนความต้องการความช่วยเหลือ สนับสนุนหรือพัฒนากิจการจากภาครัฐนั้น กลุ่มตัวอย่างระบุว่า ด้านภาษี เช่น การลดอัตราภาษี ปรับปรุงโครงสร้างภาษี  ไม่ว่าจะเป็นภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีการค้า และภาษีที่ซ้ำซ้อน ด้านการตลาด เช่น ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพการตลาดทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงออนไลน์ ด้านสินเชื่อ เช่น ลดข้อจำกัดในการอนุมัติสินเชื่อ และการเข้าถึงให้ง่ายขึ้น ทั้งลดขั้นตอน ลดเอกสาร ลดอัตราดอกเบี้ย เป็นต้น  และด้านพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ  เช่น กระตุ้นเศรษฐกิจ    ส่งเสริมอาชีพให้แก่ประชาชน  เป็นต้น

นายพงชาญ  สำเภาเงิน รองกรรมการผู้จัดการ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการ SME D Bank   กล่าวว่า แม้ผลสำรวจดัชนีต่างๆ   ทั้งดัชนีสถานการณ์ธุรกิจฯ   ดัชนีความสามารถในการทำธุรกิจ   ดัชนีความยั่งยืนของธุรกิจฯ  และดัชนีความสามารถในการแข่งขันฯ  ประจำไตรมาสที่ 1/2562  จะปรับลดลง  แต่สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เป็นลูกค้า ธพว. ยังมีค่าเฉลี่ยดัชนีสูงกว่าเกณฑ์ และสูงกว่ากลุ่มที่ไม่ได้เป็นลูกค้า ธพว.  บ่งบอกได้ดีว่า แนวทางสนับสนุนของ SME D Bank ที่มุ่งให้ความรู้คู่เงินทุน ควบคู่สนับสนุนสร้างคุณภาพชีวิต หรือที่เรียกว่า “3เติมเป็นแนวทางที่ถูกต้องแล้ว เพราะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเกิดความเข้มแข็งได้จริง

ม.หอการค้าไทย ชี้ดัชนี SMEs ไตรมาส 1/62 ปรับลดทุกด้าน
                ทั้งนี้ SME D Bank จะเดินหน้ามอบ 3เติม ให้แก่เอสเอ็มอีไทยอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ 1.เติมทักษะผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น อบรมสัมมนา จับคู่ธุรกิจ พี่เลี้ยงมืออาชีพ เป็นต้น ช่วยเพิ่มขีดความสามารถธุรกิจ  เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย   2.เติมทุน ด้วยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ  ซึ่งธนาคารได้รับมอบหมายจากรัฐบาล เช่น สินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน   เพื่อธุรกิจเกษตร แปรรูปอาหาร ท่องเที่ยวชุมชน ค้าปลีก-ค้าส่ง  และอาชีพอิสระ คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำ นิติบุคคล ปีที่ 1-3  เพียง 0.25% ต่อเดือน ส่วนบุคคลธรรมดา ปีที่ 1-3  เพียง 0.42% ต่อเดือน   และ 3.เติมคุณภาพชีวิต ช่วยให้เข้าถึงสิทธิ์ประโยชน์และสวัสดิการภาครัฐ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างความมั่นคงในอาชีพ และลดภาระให้ครอบครัว

จากการมอบ 3 เติมของ SME D Bank ช่วยยกระดับเพิ่มขีดความสามารถให้แก่เอสเอ็มอี แม้ว่าจะมีปัจจัยภายนอกมากระทบ ก็ยังมีภูมิคุ้มกัน  ช่วยให้ธุรกิจเข้มแข็ง และเติบโตยั่งยืนได้อย่างแท้จริง