ภาครัฐระดมสมองรับมือยานยนต์อนาคต

21 พ.ค. 2562 | 06:38 น.

หน่วยงานรัฐระดมความเห็นทิศทางยานยนต์ไทยในอนาคต “กระทรวงอุตสาหกรรม”ชูรถยนต์ไฟฟ้าจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ด้านสวทช.เน้นเพิ่มขีดความสามารถและวิจัยพัฒนา-อัพเดทเทรนด์ของตลาด ขณะที่สถาบันยานยนต์ชี้ต้องเตรียมความพร้อมบุคลากรเพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลก

 

ในงานสัมมนา “EVolution of Automotive” จัดขึ้นโดย บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์  (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเวทีเพื่อระดมความคิดเห็น มุมมองความพร้อมของประเทศไทยในการก้าวสู่ยานยนต์แห่งอนาคต โดยได้รับการตอบรับจากภาครัฐและภาคเอกชนที่มาสะท้อนความคิดเห็น รวมไปถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับนโยบายของไทยเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์

ภาครัฐระดมสมองรับมือยานยนต์อนาคต

นาย ศิริรุจ จุลกะรัตน์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยผลักดันนโยบายรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งนี้ได้ตั้งเป้าหมายว่าอีก 10 ปีข้างหน้าจะมีรถรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle หรือ EV) 25% ของรถยนต์ทั้งหมด  ซึ่งการเตรียมความพร้อมของรัฐในตอนนี้ได้ผลักดันความต้องการของตลาดในประเทศ และสิทธิประโยชน์ทั้งหลาย และปัจจัยที่สำคัญต่างๆ ในการผลิตรถยนต์อย่างชิ้นส่วนรถยนต์สนามทดสอบ ศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่และอื่นๆ

ภาครัฐระดมสมองรับมือยานยนต์อนาคต

นอกจากนั้นแล้วยังได้เปิดโอกาสให้ภาครัฐทุกหน่วยซื้อรถยนต์ระบบไฟฟ้าไปใช้เพื่อทำให้รถยนต์ EV ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายมากขึ้น  รวมไปถึงการปรึกษากับกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องว่าจะมีการบริหารจัดการแบตเตอรี่อย่างไรเพื่อไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

 

 “ทำอย่างไรให้รถยนต์ระบบไฟฟ้าเป็นทางเลือกของผู้บริโภคมากขึ้นเป็น “Eco Electric Vehicle” ที่ประหยัด ปลอดภัยและคุ้มค่า ไม่เพียงเท่านั้นเรายังมองว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยยังคงสถานะเป็นศูนย์การประกอบรถยนต์ Next Generation เมื่อมาถึง EV เพราะเดิมประเทศไทยถือว่าเป็น Detroit of Asia ในการประกอบรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย  ”      

ดร. เจนกฤษณ์ คณาธารณา รองผู้อำนวยการ สายงานกิจการพิเศษ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า  สวทช. จะสร้างขีดความสามารถในการวิเคราะห์และทดสอบศักยภาพของรถยนต์ไฟฟ้า รวมไปถึงการวิจัยเพื่อพัฒนาและอัพเดทเทรนด์หรือกระแสในตลาด พร้อมทั้งพัฒนาคนให้มีองค์ความรู้พร้อมรับเทคโนโลยี  หลักๆ คือ จะทดสอบอย่างไร และรูปแบบไหนถึงจะเกิดประสิทธิผลมากที่สุดเพื่อให้ได้มาตรฐาน 

ภาครัฐระดมสมองรับมือยานยนต์อนาคต

นายอดิศักดิ์ โรหิตะศุน ผู้ทำการแทนผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ในอีก 10 ปีข้างหน้าในประเทศไทย จะเป็นประเทศที่ให้ความสนใจกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และจะเป็นสังคมที่เข้าสู่ประชากรสูงอายุมากถึง 30% ของประชากรไทยทั้งหมด

 

นอกจากนี้ ระบบ Robots and Automations จะเข้ามามีบทบาทอย่างมากในประเทศไทย มีการพัฒนาเรื่อง 5G ให้รองรับอย่างทั่วถึง และทางภาครัฐจะพัฒนาเป็นอี-โกฟเวอร์เมนต์ ส่งผลให้เศรษฐกิจจะพลิกโฉมมาเป็นอี-คอมเมิร์ซมากขึ้น สังคมจะพัฒนาเป็นสังคมเมืองและก้าวไปสู้การเป็นสมาร์ทซิตี้  

 

“สมาร์ทโมบิลิตี้ต้องเข้าถึง ได้ง่าย ,เชื่อมต่อกัน ,สะดวกสบายและปลอดภัย ,เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และคุ้มค่าในเรื่องของราคา ซึ่งสิ่งที่จะมารองรับสมาร์ทโมบิลิตี้นั้นคือเทคโนโลยี อันได้แก่ รถยนต์ระบบไฟฟ้า ยกตัวอย่าง รถยนต์ EVs ที่ในอีก 10 ปีข้างหน้าจะมีอัตราการผลิตถึง 53% (มากกว่ารถยนต์แบบสันดาปภายใน) ระบบอัตโนมัติ ที่จะมีถึง 6 ระดับด้วยกัน ไล่จากระดับ 0 คือไม่อัตโนมัติจนถึงระดับ 5 คือควบคุมอัตโนมัติ อย่างสมบูรณ์แบบและในปี  2030 คาดว่าจะสามารถพัฒนาระบบ autonomous ได้ในระดับที่ 3 ซึ่งเป็นระดับที่สามารถขับขี่ได้อัตโนมัติ”           

ภาครัฐระดมสมองรับมือยานยนต์อนาคต

นายอดิศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันไทยอยู่ในกระบวนการของการสู้กับความท้าทาย ดังนั้นสิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมคือ คน (Human Resource Development) ว่าเมื่อโลกเปลี่ยนไปจะปรับตัวอย่างไรให้เหมาะสม ซึ่งหลักๆ จะแบ่งออกเป็นสองส่วน ตัวรถยนต์ระบบไฟฟ้าและการผลิต ที่ในอนาคตสังคมไทยจะขาดแคลนแรงงานมากขึ้น รวมไปถึงเรื่องของ Autonomous และ Robots จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยเพิ่มผลผลิตสู่ท้องตลาด

 

ดังนั้นจำเป็นอย่างมากที่จะต้องต่อยอดการศึกษาเพื่อเพิ่มองค์ความรู้ใหม่แก่ประชาชนโดยทั่วเกี่ยวกับเรื่องตัวรถยนต์ระบบไฟฟ้ารวมถึงกระบวนการการผลิตรถยนต์ระบบไฟฟ้าอีกด้วย สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมากก็คือ ทักษะด้าน Soft Skills ที่ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) ไม่สามารถทำได้ ทำให้ต้องมีการฝึกอบรมเกี่ยวกับพื้นฐานหลัก การดำเนินงาน เทคโนโลยีและแบตเตอรี่ของรถยนต์ระบบไฟฟ้า เป็นต้น ที่ศูนย์ EV Technology & Innovation Center