แรบบิทจันท์ลุยกรุงโกยรายได้1.5ล้าน

23 พ.ค. 2562 | 01:40 น.

 

แบรนด์แรบบิทจันทร์เตรียมเปิดตลาดเข้าสู่กรุงเทพ มหานคร เผยเจรจาทางธุรกิจไว้แล้ว 5 แห่ง ชี้ใช้นํ้าส้มมะปี๊ด
กรุยทางสู่ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เล็งออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในเดือนพฤษภาคมเสริมทัพ เชื่อรายได้ปีนี้แตะ 1.5 ล้านบาท

นางสาววรพชร  วงษ์เจริญ  เจ้าของกิจการ  ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากส้มมะปี๊ดแบรนด์ “แรบบิทจันท์” (Rabbit Chan) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในปีนี้แบรนด์มีแผนที่จะขยายตลาดเพื่อเพิ่มฐานลูกค้าเข้าสู่กรุงเทพ มหานคร โดยล่าสุดได้มีการเจรจาทางธุรกิจไปแล้ว 5 แห่ง  เพื่อนำผลิตภัณฑ์เข้าไปวางจำหน่าย ประกอบด้วย เลมอน ฟาร์ม (Lemon Farm), สันติอโศก, โกลเด้นเพลซ (Golden Place), คิงเพาเวอร์  และฐานธรรมธุรกิจพระราม 9 ซึ่งปัจจุบันแบรนด์ได้มีการส่งผลิตภัณฑ์นํ้าส้มมะปี๊ดเข้าไปเปิดตลาดเพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองผลิตภัณฑ์แล้ว

แรบบิทจันท์ลุยกรุงโกยรายได้1.5ล้าน

วรพชร  วงษ์เจริญ 

 

ทั้งนี้ หลังจากที่ผลิตภัณฑ์นํ้าส้มมะปี๊ดเป็นที่คุ้นเคยและได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคแล้ว  แบรนด์จะทยอยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นเครื่องสำอางเข้าสู่ตลาดเป็นลำดับต่อไป  ได้แก่ สบู่เหลวส้มมะปี๊ด, สบู่ก้อน  ,โลชั่น  ,แชมพู  และมาร์คหน้าเวลากลางคืนแบบไม่ต้องล้างออก (Sleeping Mask) จากเดิมที่ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์จะมีจำหน่ายที่ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติโป่งแรด  จังหวัดจันทบุรี

“แบรนด์เลือกที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นของรับประทานเพื่อปูทางการทำตลาดก่อน  เนื่องจากเป็นวิธีในการเข้าหาผู้บริโภคได้ง่ายกว่าการนำเสนอผลิตภัณฑ์เป็นของใช้  เพราะหากผู้บริโภคได้ชิมแล้วถูกใจการนำผลิตภัณฑ์อื่นเข้าไปเพิ่มเติมก็จะทำได้ง่ายขึ้น”

อย่างไรก็ตาม แบรนด์ยังเตรียมนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาด 2 รูปแบบ ได้แก่ เยลลี่ส้มมะปี๊ดที่สามารถดื่มได้พร้อมกับเนื้อส้มมะปี๊ด และสเปรย์ ระงับกลิ่นเท้าจากส้มมะปี๊ด  โดยขั้นตอนปัจจุบันผ่านการพัฒนาและวิจัย (R&D) เรียบร้อยแล้ว  เหลือเพียงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้มีความเหมาะสม  และการขอใบรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งคาดว่าทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์จะสามารถออกสู่ตลาดเพื่อจำหน่ายได้ประมาณปลายเดือนพฤษภาคมนี้

แรบบิทจันท์ลุยกรุงโกยรายได้1.5ล้าน

นอกจากนี้ที่ศูนย์กสิกรรมฯของแบรนด์บนพื้นที่ 5 ไร่นั้น  แบรนด์ยังเปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้เชิงเกษตรอินทรีย์  โดยภายในศูนย์จะมีการทำปุ๋ยหมัก การปลูกพืชสมุนไพร ผัก และผลไม้แบบ ออร์แกนิกเพื่อจำหน่ายด้วย  ซึ่งแบรนด์เองก็เป็นสมาชิกลุ่มการรับรองเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม (PGS) โดยกลุ่มจะมีคลังสินค้าออร์แกนิกที่จะรับผลผลิตจากเกษตiกรที่เป็นสมาชิก ซึ่งแบรนด์จะมีการส่งผลผลิตไปให้ตามความต้องการ ตามที่ศูนย์มีผลผลิต  อีกทั้งยังมีกาiจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านเพจแรบบิทจันท์ด้วย  โดยที่ภายในเพจจะเป็นการให้องค์ความรู้ทางด้านการทำเกษตรอินทรีย์  ซึ่งมีผู้ติดตามอยู่เป็นจำนวนมาก

นางสาววรพชร กล่าวต่อไปอีกว่าจากกลยุทธ์ในการทำตลาดดังกล่าวเชื่อว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับแบรนด์ได้ประมาณ 1.5 ล้านบาทในปี 2562 

 

หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,472 วันที่ 23 - 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

แรบบิทจันท์ลุยกรุงโกยรายได้1.5ล้าน