‘บิ๊กตู่’เปิดหน้าลุย ตั้งรัฐบาลเสียง ‘ปริ่มนํ้า’

18 พฤษภาคม 2562

 

“บิ๊กตู่” เลือกวิธีสืบทอดอำนาจตามแนวคิดของกลุ่มทุนการเมืองใน “มาเลย์ - สิงคโปร์” เพื่อให้รัฐบาลมีเสถียรภาพและมีความมั่นคงยาวนาน ช่วงนี้ ใคร?จะมาร่วมรัฐบาลก็ได้ ที่มีนโยบายพรรคไม่เอา “ระบอบทักษิณ” แม้ “พลังประชารัฐ” รวบรวมเสียงไม่ถึง 251 เสียง ก็จะดึงส.ว.ร่วมโหวตในสภา เกิน 375 เสียง รวมทั้งดึง “งูเห่า”และขจัดคู่แข่งให้อ่อนแอหลังเป็นรัฐบาล!?!?

“พวกกูไม่ได้ ก็อย่าหมายว่ามึงจะได้...” คำพูดวรรคนี้ คงจะไร้มนต์ขลังในครั้งนี้ เมื่อมีแนวโน้ม ว่า “ปลา” จะไม่ยอมงับเหยื่อ (ล่อ) เหมือนเคย แม้จะใช้ความพยายามปลุก “ปั่น” กระแสอย่างไร?ปลา คือ พรรคประชาธิปัตย์กับภูมิใจไทย ก็ไม่ “หลงกล” มาจับมือร่วมตั้งรัฐบาล “ขั้วที่ 3” ง่ายๆ

ทั้งที่ ยอมอ่อนข้อ ประเคน “เงื่อนไข” ยกให้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้-ตำแหน่ง “นายกฯ คนที่ 30” จนกระทั่ง “ประธานสภาผู้แทนราษฎร” แต่ก็ยังไม่สำเร็จ ซํ้าร้ายกว่านั้นยังดูว่า(จะ) แห้วรับประทานซะด้วยสิ เพราะระยะหลังๆ มานี้ จะใช้กลยุทธ์อะไร?ออกมาก็มักเป็นฝ่ายแพ้พ่าย “เกม” การเมืองฝ่ายตรงข้ามเสมอ...

ทำได้แค่สร้างความ “สะใจ” ให้คอการเมืองได้เพียงบางห้วง-บางเวลา?เท่านั้น

เช่นเดียวกับวาทกรรม “ปิดสวิตช์ ส.ว.” ของพรรคอนาคตใหม่ ที่หัวหน้าพรรค คือ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประกาศตัวอาสาเป็นคนไปเจรจากับ 2 พรรค เพื่อพลิก “เกม” การเมืองด้วยการ “เชิดอนุทินสู้กับบิ๊กตู่” ที่เป็นการสานต่อแนวคิดจัดตั้งรัฐบาล “ขั้วที่ 3” ก็มีแนวโน้มว่าแห้วรับประทานอีกเช่นกัน

หลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2562 เป็นต้นไป พูดภาษาชาวบ้าน แปลว่า “สภาเปิด” แล้ว...ต่อนี้ไป ชะตาอนาคตของชาติบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร? ขึ้นสวรรค์หรือลงนรก อยู่ในกำมือ “ท่านส.ส.ผู้ทรงเกียรติ” ที่จะเป็นผู้ดลบันดาลให้เป็นไปทุกอย่าง

‘บิ๊กตู่’เปิดหน้าลุย  ตั้งรัฐบาลเสียง ‘ปริ่มนํ้า’

โดยวันเดียวกันนั้น ก็มีประกาศราชกิจจานุเบกษาแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภาหรือ ส.ว. ตามมาตรา 269 จำนวน 250 คน สรุปว่า ถึงตอนนี้ ประเทศไทยมีสมาชิกรัฐสภาครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ 2560 จำนวน 748 คนแล้ว เป็นส.ว. 250 คน กับส.ส.เขตและส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ที่ กกต.ประกาศรับรองรายชื่อ จำนวน 498 คน....ส่วนอีก 2 คนที่ขาดรออีกแป๊บนึง!!

เนื่องจากกำลังจะมีการเลือกตั้งใหม่ แทนคนเดิมของพรรคเพื่อไทยที่ได้ใบส้มในเขต 8 จ.เชียงใหม่ วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคมนี้

 

จากนั้น เมื่อครบกำหนด 15 วัน นับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนฯ ให้มีการเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อให้สมาชิกได้มาประชุมเป็นครั้งแรก ตามมาตรา 121 และ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” เสด็จฯ ไปทรงเปิดรัฐสภานัดปฐมฤกษ์ วันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคมแล้ว

“ขั้นตอน” ถัดไป ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันที่ 25 พฤษภาคม ก็จะเป็นวันประชุมเลือกประธานสภาผู้แทนฯ และรองประธานสภาผู้แทนฯ ต่อจากนั้นก็...ประชุมรัฐสภาโหวต “นายกฯคนที่ 30”

ดู “นาฬิกาการเมือง” ที่ไล่เลียงมาตั้งแต่ กกต.ประกาศรับรองรายชื่อ ส.ส.เขต ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2562 ซึ่งเป็นวันเดียวกับคณะทหารที่เรียกสั้นๆ ว่า คสช.ปฏิวัติยึดอำนาจรัฐบาล “น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 กระทั่งถึงการคลอด ส.ว.250 คน

 

ทำให้เห็น “เกม” การเมืองของ “รัฐบาลและคสช.” อย่างชัดเจนว่าจะขับเคลื่อนประเทศชาติบ้านเมืองไปในทิศทางใด? โดยมิพักต้องให้ความสนใจใดๆ กับการเคลื่อนไหวต่างๆ ไม่เว้นกระทั่งสมการการเมืองการจัดตั้งรัฐบาล “ขั้วที่ 3” รวมทั้งการตัดสินร่วม - ไม่ร่วมรัฐบาลกับ “พรรครวมพลังประชารัฐ” ของพรรคประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย

นั่นคือ เป็น “จระเข้” อยู่ดีๆ แต่อยากข้ามสายพันธ์ุตัดสินใจไปผสมพันธ์ุ กับ “ตะกวด” ก็ปล่อยไปตามใจ เมื่อ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. มองข้ามช็อต “ขั้วที่ 3” ไปแล้ว โดยพร้อมที่จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย หรือ “ปริ่มนํ้า” ด้วยวิธีให้ ส.ว.ที่คสช.ตั้งขึ้นร่วมโหวตเลือกนายกฯ รอบ 2

เปิด “เกม” เดินหน้าเข้าแลกหมัดกับ “ขั้ว-ฝ่าย” ตรงข้ามแบบตรงๆ เลย ส่วนอะไร?จะเกิดก็ให้มันเกิด เพื่อไม่ให้รัฐธรรมนูญที่ใช้เวลาร่างมา 5 ปีเสียประโยชน์?? 

อยู่กับปัจจุบัน โดย พงษ์ศักดิ์ ศรีสด

หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3471 ระหว่างวันที่ 19 - 22 พฤษภาคม 2562

‘บิ๊กตู่’เปิดหน้าลุย  ตั้งรัฐบาลเสียง ‘ปริ่มนํ้า’