‘SCN’ไล่ซื้อหุ้นโซลาร์ฟาร์ม รุกธุรกิจไฟฟ้าเต็มตัวลดความเสี่ยงธุรกิจก๊าซ

21 พ.ค. 2562 | 08:35 น.

 

เอสซีเอ็น รุกธุรกิจไฟฟ้าเต็มตัว ไล่ซื้อหุ้นโซลาร์ฟาร์มในเมียนมาเพิ่มอีก 10% ลดความเสี่ยงจากธุรกิจก๊าซธรรมชาติ หลังยอดการใช้ปรับตัวลดลง พร้อมลุยตั้งโรงงานประกอบรถโดยสารรับงานประมูลรถเมล์เอ็นจีวี

ราคานํ้ามันที่ปรับตัวลดลงตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา ส่งผลให้ยอดการใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์หรือเอ็นจีวี ปรับตัวลดลงมาเป็นจำนวนมากจากที่ทั้งประเทศมียอดการใช้สูงสุดในช่วงปี 2558 ถึง 2.84 แสนตันต่อเดือน และในเดือนมกราคม 2562 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 1.7 แสนตันต่อเดือน ส่งผลให้บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัทเอกชนชั้นนำธุรกิจก๊าซธรรมชาติ มีสถานีบริการก๊าซเอ็นจีวีที่เปิดดำเนินการ 10 แห่ง และรอการเปิดดำเนินการอีก 3 แห่ง ต้องหันไปรุกธุรกิจจำหน่ายก๊าซฯให้กับกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น

ขณะเดียวกัน ได้มองหาธุรกิจใหม่อย่างการเข้าไปลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ปัจจุบันจ่ายไฟฟ้าแล้ว 2 แห่ง รวมกำลังผลิต 5 เมกะวัตต์ และเมื่อปี 2561 ได้ตัดสินใจซื้อหุ้นในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังผลิต 220 เมกะวัตต์ มูลค่าการลงทุนรวม 1 หมื่นล้านบาท บนเนื้อที่กว่า 3 พันไร่ ที่ตั้งอยู่ในเมืองมินบู ประเทศเมียนมา ของบริษัท พลังงานเพื่อโลกสีเขียว (ประเทศไทย) จำกัด ในสัดส่วน 30% คิดเป็นมูลค่าราว 235.5 ล้านบาท

‘SCN’ไล่ซื้อหุ้นโซลาร์ฟาร์ม  รุกธุรกิจไฟฟ้าเต็มตัวลดความเสี่ยงธุรกิจก๊าซ

 

 

นายฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือเอสซีเอ็น เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทประกอบธุรกิจใน 3 กลุ่ม ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ ยานยนต์ และพลังงานหมุนเวียน ซึ่งหลังจากบริษัทได้เข้าไปถือหุ้นในโซลาร์ฟาร์ม ที่เมียนมา ในสัดส่วน 30% แล้วและได้ให้สิทธิบริษัทซื้อหุ้นได้เพิ่มขึ้นอีก 10% หลังจากโซลาร์ฟาร์มระยะที่ 1 ขนาดกำลังผลิต 50 เมกะวัตต์ จะจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในเดือนพฤษภาคมนี้หรือต้นเดือนมิถุนายน 2562 ซึ่งบริษัทได้เตรียมเงินในส่วนที่ซื้อหุ้นเพิ่มอีก 2.22 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 71 ล้านบาท(อัตราแลกเปลี่ยน 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ) เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 40% หรือคิดเป็นสัดส่วนในกำลังผลิต 88 เมกะวัตต์ เมื่อรวมกับที่มีอยู่ในไทย บริษัทจะมีกำลังผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 93 เมกะวัตต์ ภายในปี 2565 ซึ่งจะทำให้ขึ้นมากลายเป็นธุรกิจหลักในอนาคต จากการขายไฟฟ้าที่ 4.60 บาทต่อหน่วย

‘SCN’ไล่ซื้อหุ้นโซลาร์ฟาร์ม  รุกธุรกิจไฟฟ้าเต็มตัวลดความเสี่ยงธุรกิจก๊าซ

 

นอกจากนี้ บริษัทมีความพร้อมที่จะรุกธุรกิจยานยนต์เพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ได้ส่งมอบรถโดยสารปรับอากาศใช้ก๊าซเอ็นจีวีให้กับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 489 คัน มูลค่า 1,891 ล้านบาท และยังได้สัญญาในการซ่อมบำรุงเป็นระยะเวลา 10 ปี คิดเป็นมูลค่าราว 2,730 ล้านบาท โดยจะมีการลงทุนตั้งโรงงานประกอบรถโดยสารที่ใช้ก๊าซและนํ้ามันดีเซลขึ้นมา เพื่อที่จะรองรับงานประมูลรถโดยสารของขสมก.จำนวน 700 คัน ในปีนี้ รวมถึงการประกอบรถโดยสารขนาดเล็กหรือมินิบัส เบื้องต้นราว 300-400 คัน เพื่อมารองรับการยกเลิกใช้รถตู้โดยสาร ดังนั้น ในปีนี้ บริษัท จึงตั้งงบการลงทุนในส่วนของธุรกิจไฟฟ้าและยานยนต์ไว้ราว 1.5 พันล้านบาท

‘SCN’ไล่ซื้อหุ้นโซลาร์ฟาร์ม  รุกธุรกิจไฟฟ้าเต็มตัวลดความเสี่ยงธุรกิจก๊าซ

ส่วนธุรกิจก๊าซธรรมชาตินั้นในส่วนของสถานีบริการก๊าซเอ็นจีวีที่เปิดดำเนินงานอยู่ 10 แห่ง หลังจากนี้ไปคงจะไม่มีการลงทุนเพิ่มอีก เนื่องจากยอดใช้ก๊าซเอ็นจีวีลดลงมาก แต่บริษัท จะมุ่งไปเพิ่มยอดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติให้กับกลุ่มโรงงานอุตสาห กรรมแทน เนื่องจากพบว่ามีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่คาดว่าปีนี้ตลาดจะเติบโตอีกราว 50% และเป็นสัดส่วนของบริษัทที่จะเติบโตได้อีก 30% โดยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้มียอดขายเติบโตแล้ว 10%

ดังนั้น จากภาพรวมทั้งหมดแล้ว คาดว่าปีนี้จะมีรายได้เติบโตราว 30 % จากปีก่อนมีรายได้ 3,121 ล้านบาท มีกำไร 179 ล้านบาท 

 

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,471 วันที่ 19-22  พฤษภาคม 2562

                                                    ‘SCN’ไล่ซื้อหุ้นโซลาร์ฟาร์ม  รุกธุรกิจไฟฟ้าเต็มตัวลดความเสี่ยงธุรกิจก๊าซ