สงครามการค้ายกระดับ: endgame จะลงเอยอย่างไร?

16 พ.ค. 2562 | 07:55 น.

โดย บล.ไทยพาณิชย์

 

บทสรุปผู้บริหาร

สงครามการค้ายกระดับขึ้น แต่เชื่อว่าจะไม่เกิดสงครามการค้าอย่าง เต็มรูปแบบ เนื่องจากเศรษฐกิจจีนจะแย่ลงมากหากเกิดสงครามการค้าเต็มรูปแบบ ส่วนในฝั่งสหรัฐอเมริกา ในช่วงสั้นจะได้ประโยชน์จากสงครามการค้าจากคะแนนนิยมทางการเมืองที่มากขึ้น แต่ในระยะยาวสหรัฐฯจะเสียประโยชน์มากขึ้น ดังนั้น สหรัฐฯ จึงมีแนวโน้มที่จะยุติสงครามการค้าเมื่อเวลาผ่านไป 

สงครามการค้ายกระดับ: endgame จะลงเอยอย่างไร?

• เชื่อว่า มีโอกาส 50% ที่ทั้งสองประเทศจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าร่วมกันในที่ประชุม G-20โดยจีนจะยินยอมแก้ไขกฎหมายเพื่อบังคับใช้ประเด็นสำคัญๆ เช่น สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา การบังคับถ่ายโอนเทคโนโลยี และการเปิดเสรีภาคบริการ ในขณะที่สหรัฐฯ จะยินยอมลดภาษีนำเข้าที่ประกาศไปเมื่อไม่นานนี้ลง ในขณะที่มองว่า มีความเป็นไปได้ 20% ที่จะเกิดสถานการณ์กลางๆ (Moderate case) คือทั้งสองฝ่ายไม่ได้ขึ้นหรือลดภาษีสินค้านำเข้าเพิ่มเติมนอกเหนือไปจากที่ประกาศไปแล้ว กรณีสุดท้าย เป็นสถานการณ์รุนแรง (Severe case) (ความเป็นไปได้ 30%) ที่สหรัฐฯ จะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเติมอีก 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเป็น 25% ตามคำขู่

 

วิเคราะห์ผลกระทบของสงครามการค้าต่อสินทรัพย์เพื่อการลงทุนภายใต้การดูแลของ SCBS ตลาดหุ้น: เชื่อว่าตลาดหุ้นทั่วโลกมีโอกาสที่จะปรับตัวลงต่อในกรณีกลางๆ รวมถึงกรณีรุนแรง แต่ความเสี่ยงขาลงของราคาหุ้นมีจำกัด เนื่องจาก valuation ปัจจุบันไม่แพง ส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เชื่อว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันไว้ ยกเว้นในกรณีรุนแรงที่เฟดจำเป็นต้องลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างน้อย 50 bps เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ ด้านผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ในกรณีพื้นฐาน ผลตอบแทนของพันธบัตรระยะสั้นกับพันธบัตรระยะยาวจะฟื้นตัวดีขึ้น ในกรณีกลางๆ ผลตอบแทนพันธบัตรจะทรงตัวอยู่ที่ระดับปัจจุบัน แต่จะลดลงอย่างมากในกรณีรุนแรง 

 

นอกจากนี้ ในส่วนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ คาดว่าราคาน้ำมันดิบและราคาทองคำจะลดลงในกรณีกลางๆ และกรณีรุนแรง แต่คาดว่าราคาน้ำมันจะลดลงมากกว่าราคาทองคำ เนื่องจากราคาน้ำมันขึ้นอยู่กับกิจกรรรมทางเศรษฐกิจ ในขณะที่ราคาทองคำถูกจัดเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย



 

สงครามการค้ายกระดับความร้อนแรงมากขึ้น - อีกครั้ง

 

สงครามการค้ายกระดับ: endgame จะลงเอยอย่างไร?

เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2562 สหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน มูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สู่ 25% ตามคำขู่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อมาเมื่อวันที่ 13 พ.ค. ทางการจีนออกมากล่าวว่า จีนจะตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ มูลค่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจะปรับขึ้นสู่ 10%, 20%และ 25% จากระดับปัจจุบันที่ 5% และ 10% เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. และในวันเดียวกัน สหรัฐฯ ก็ประกาศแผนขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนที่เหลืออีก 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  ทั้งนี้ ทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ก็มีแผนจะเจรจากันนอกรอบการประชุม G-20 ในช่วงปลายเดือนมิ.ย.

สงครามการค้ายกระดับ: endgame จะลงเอยอย่างไร?