ธนาคารกรุงไทย ระบุว่า เงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 31.54 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 31.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ในวันก่อนหน้าและคืนที่ผ่านมา รายงานข้อมูลเศรษฐกิจทั่วโลกค่อนข้างน่าผิดหวัง
เริ่มจากฝั่งเอเชีย รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของจีนล้วนออกมาแย่กว่าคาด โดย ยอดการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร (Fixed Asset Investment) ขยายตัวเพียง 6.1% ยอดค้าปลีก (Retail Sales) เติบโตเพียง 7.2% และยอดการผลิตอุตสาหกรรม (Industrial Production) เพิ่มขึ้นเพียง 5.4% ทำให้ตลาดไม่มั่นใจว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะสามารถหนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนให้ขยายตัวต่อได้หรือไม่
ฝากฝั่งสหรัฐ ยอดค้าปลีก (Retail Sales) ในเดือนเมษายน ก็หดตัว 0.2% กลับทิศกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 0.2% พร้อมกับผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) ที่ลดลง 0.5% จากเดือนก่อนหน้า ชี้ให้เห็นว่าสงครามการค้าก็สร้างแรงกดดันให้กับเศรษฐกิจสหรัฐเช่นกัน
ส่วนของค่าเงินบาท เชื่อว่าวันนี้ความผันผวนจะลดลงจากช่วงกลางสัปดาห์หลังปัญหาสงครามการค้าไม่ถูกขยายวงกว้าง จุดที่ต้องจับตาต่อคือทิศทางของบอนด์ยีลด์สหรัฐ ที่ปัจจุบัน บอนด์ยีลด์ตั้งแต่ 2ปี ไปจนถึง 10ปี ถูกกดดันหนักจากตลาดให้อยู่ต่ำกว่าดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด (2.50%) ทั้งหมด ด้วยความคาดหวังว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย ดังนั้น ถ้าในท้ายที่สุดเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวดี และเฟดส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะไม่ลดดอกเบี้ย ก็อาจกลับเป็นแรงกดดันให้บอนด์ยีลด์ปรับตัวขึ้นดึงให้ดอลลาร์แข็งค่ากลับขึ้นได้เร็วเช่นกัน
กรอบค่าเงินบาทวันนี้ 31.50- 31.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ