ราคาน้ำมันดิบผันผวน จากภาวะอุปทานน้ำมันดิบที่ยังคงตึงตัว ขณะเดียวกันสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงยืดเยื้อ
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 59 - 64 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 68 - 73 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (13 - 17 พ.ค. 62)
ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มผันผวน หลังอุปทานน้ำมันดิบยังคงตึงตัวจากกำลังการผลิตน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงของเวเนซุเอลาสืบเนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ และปัญหาความไม่สงบในประเทศ ขณะที่อิหร่านมีแนวโน้มส่งออกน้ำมันดิบในปริมาณที่ลดลงจากการที่สหรัฐฯ ประกาศยกเลิกการผ่อนปรนการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านสำหรับ 8 ประเทศ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มถูกกดดัน หลังตลาดยังกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่อาจอ่อนตัวลงจากผลของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ยังคงยืดเยื้อ หลังสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ระดับร้อยละ 25 นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่สหรัฐฯ และรัสเซียมีแนวโน้มปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบมากขึ้น
ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (6 – 10 พ.ค. 62)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลง 0.28 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 61.66 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในขณะที่ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับลดลง 0.23 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 70.62 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 69.89 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยตลาดได้รับแรงกดดันหลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) ประกาศปรับตัวเลขคาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.49 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งจะแตะระดับ 13 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในสิ้นปีนี้ และจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 13.38 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปี 2563 ประกอบกับนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจ หลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สู่ระดับร้อยละ 25 จากเดิมที่ระดับร้อยละ 10 ในวันศุกร์ที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากเหตุการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง หลังสหรัฐฯ ได้ส่งเรือบรรทุกเครื่องบินพร้อมฝูงบินทิ้งระเบิดไปยังศูนย์บัญชากลางในตะวันออกกลาง เพื่อส่งสัญญาณเตือนอิหร่านว่า หากคิดโจมตีแหล่งผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และพันธมิตร จะมีการตอบโต้ทันควัน
ราคาน้ำมันดิบผันผวน จากภาวะอุปทานน้ำมันดิบที่ยังคงตึงตัว ขณะเดียวกันสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงยืดเยื้อ
บทวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำสัปดาห์ โดย บมจ.ไทยออยล์: ฉบับวันที่ 13 พฤษภาคม 2562
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 59 - 64 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 68 - 73 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (13 - 17 พ.ค. 62)
ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มผันผวน หลังอุปทานน้ำมันดิบยังคงตึงตัวจากกำลังการผลิตน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงของเวเนซุเอลาสืบเนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ และปัญหาความไม่สงบในประเทศ ขณะที่อิหร่านมีแนวโน้มส่งออกน้ำมันดิบในปริมาณที่ลดลงจากการที่สหรัฐฯ ประกาศยกเลิกการผ่อนปรนการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านสำหรับ 8 ประเทศ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มถูกกดดัน หลังตลาดยังกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่อาจอ่อนตัวลงจากผลของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ยังคงยืดเยื้อ หลังสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ระดับร้อยละ 25 นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่สหรัฐฯ และรัสเซียมีแนวโน้มปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบมากขึ้น
ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (6 – 10 พ.ค. 62)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลง 0.28 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 61.66 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในขณะที่ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับลดลง 0.23 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 70.62 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 69.89 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยตลาดได้รับแรงกดดันหลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) ประกาศปรับตัวเลขคาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.49 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งจะแตะระดับ 13 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในสิ้นปีนี้ และจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 13.38 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปี 2563 ประกอบกับนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจ หลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สู่ระดับร้อยละ 25 จากเดิมที่ระดับร้อยละ 10 ในวันศุกร์ที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากเหตุการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง หลังสหรัฐฯ ได้ส่งเรือบรรทุกเครื่องบินพร้อมฝูงบินทิ้งระเบิดไปยังศูนย์บัญชากลางในตะวันออกกลาง เพื่อส่งสัญญาณเตือนอิหร่านว่า หากคิดโจมตีแหล่งผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และพันธมิตร จะมีการตอบโต้ทันควัน
ที่มา : บทวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำสัปดาห์ โดย บมจ.ไทยออยล์ ฉบับวันที่ 13 พฤษภาคม 2562