จองกฐิน สูตรปาร์ตี้ลิสต์ กกต. แห่ร้อง 2 ศาล

10 พ.ค. 2562 | 10:38 น.

คันฉ่องส่องการเมือง ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,649 หน้า 16 ระหว่างวันที่ 12-15 พ.ค.2562 โดย... นาย NO VOTE

 

จองกฐิน

สูตรปาร์ตี้ลิสต์ กกต.

แห่ร้อง 2 ศาล

 

          เรื่องสูตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) ยังจบไม่ลง "พี่ศรี-ศรีสุวรรณ จรรยา" ประเดิมแล้ว บุกยื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อให้เสนอเรื่องพร้อมความเห็นศาลปกครอง เพื่อร้องศาลรัฐธรรมนูญ 

          ปาดหน้า "พี่เรือง-เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ" ที่เช้าวันเดียวกัน เข้าให้ถ้อยคำกกต.ที่กล่าวหา 4 แกนนำ 4 พรรคใหญ่ ว่าติดบ่วง “ถือหุ้นสื่อ” แต่ก็ย้ำกับนักข่าวบอกเป็นผู้มีส่วนได้เสีย ในฐานะผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จากนี้จะไปร้องศาลปกครอง ขอไต่สวนฉุกเฉิน ให้ระงับประกาศกกต.รับรอง 149 ส.ส.บัญชีรายชื่อ และขอสั่งให้กกต.คำนวณใหม่

          เนื่องจากเห็นว่าสูตรคำนวณของ กกต. ที่จัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อให้ 11 พรรคเล็ก ที่ได้คะแนนไม่ถึงจำนวน ส.ส.พึงมี หรือที่ 71,168.5141 คะแนน ต่อ ส.ส.พึงมี 1 คน นั้น น่าจะขัดกับรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 (5)

 

          ขณะที่ "ส้มหวาน" พรรคอนาคตใหม่ ที่โวยหนักเรื่องสูตรคำนวณ ดักคอ กกต.ตั้งแต่ก่อนจะประกาศรายชื่อ 149 ส.ส. ย้ำว่าจะยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญแน่ ช่วง 13-17 พฤษภาคมนี้เช่นกัน

          ทันทีที่ กกต.ประกาศรับรอง ส.ส. บัญชีรายชื่อ 149 คน จาก 26 พรรค (เพื่อไทยกินแห้วเพราะ ส.ส.เขตเกินจำนวน ส.ส.พึงมีแล้ว) แกนนำพรรคใหญ่ดาหน้าโวย เพราะตามสูตรนี้ทำให้ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคใหญ่ต่างหดหาย เพื่อไปเกลี่ยให้ 11 พรรคเล็ก ที่ได้คะแนนต่ำกว่าเกณฑ์ ส.ส.พึงมี

          การคำนวณของ กกต.เมื่อจัดสรรให้พรรคตามสัดส่วน ส.ส.พึงมีแล้วไม่ลงตัว ต้องปัดเศษเรียงอันดับทศนิยมนับไล่ไปเรื่อย ๆ จนครบ 150 คน (ครั้งนี้รับรองแค่ 149 คน เพราะยังรอผลการเลือกตั้งใหม่ 1 เขตที่เชียงใหม่) โดยนับเลยลงไปถึงคะแนนพรรคเล็กที่ได้ต่ำกว่าเกณฑ์คะแนน ส.ส.พึงมี จน 11 พรรคเล็กได้อานิสงส์เป็น ส.ส.ไปด้วย

          การเรียงอันดับทศนิยมคือส่วนที่ได้คะแนนไม่เต็ม 71,168.5141 คะแนน ที่ใช้เป็นฐานคิดจำนวน ส.ส.พึงมี ถ้าไม่จัดให้พรรคเล็กได้เรียงอันดับด้วย เท่ากับคะแนนของกลุ่มพรรคเล็กทั้งหมดเป็นอันตกน้ำ

          ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่โวย บอกทำให้ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคที่ควรได้หายไปถึง 8 คน เท่ากับผู้ออกเสียงให้พรรคคะแนนตกน้ำไปถึง 568,000 คะแนน ด้าน ราเมศ รัตนะเชวง รักษาการ ก.ก.บริหารพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่พอใจ บอกอย่างนี้ไม่แค่คะแนนตกน้ำ แต่ตกทะเลเป็นล้านคะแนน

          เช่นกัน "สมชัย ศรีสุทธิยากร" ผู้สมัครส.ส.ประชาธิปัตย์ อดีต กกต. ก็ชี้ว่าสูตรของ กกต.ไม่ถูกต้อง ควรมีแค่ 14 พรรคเท่านั้นที่ได้รับการจัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 

          หรือ "นิกร จำนง" ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคชาติไทยพัฒนา ก็รับว่าวิธีคำนวณของกกต.มีปัญหา ทำให้ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคที่ควรได้ 5 คน หายไปเหลือแค่ 4 คน แต่ก็บอกว่า "พร้อมยอมรับและหาทางแก้ไขกันต่อไป"

          ปัญหาสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อมีมาตั้งแต่ก่อน กกต.ประกาศรับรองรายชื่อ และศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัย เช้าวันที่ 8 พฤษภาคม ก่อน กกต.จะประกาศรับรองรายชื่อในตอนเย็น ว่ามาตรา 128(5) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ไม่ขัดมาตรา 91 ของรัฐธรรมนูญ

          แต่นักการเมืองที่ค้านสูตร กกต.ประสานเสียงว่า ศาลรัฐธรรมนูญรับรองมาตรา 128 ของกฎหมายลูก ที่ระบุรายละเอียดวิธีการคำนวณเมื่อได้จำนวน ส.ส.ไม่ลงตัวต้องปัดเศษ ว่าไม่ขัดหรือแย้งรัฐธรรมนูญ แต่เวลานี้ปัญหาอยู่ที่วิธีการคำนวณของ กกต. ที่ปัดเศษเลยลงไปถึงพรรคที่คะแนนต่ำกว่าจำนวน ส.ส.พึงมี ทั้งที่ควรจะปัดเศษนับเฉพาะพรรคที่ได้คะแนนเกินจำนวน ส.ส.พึงมีเท่านั้น

          เลยต้องจองกฐิน “กกต.” ต่อ ให้รู้ดำรู้แดงกันไป...