COCO Rabbit ผงาดส่งออกโกยรายได้ทะลุ50%
แบรนด์โคโคแรบบิท เผยกลยุทธ์ยังเน้นตลาดต่างประเทศเป็นหลัก เล็งขยายตลาดเพิ่มเติมที่จีน และฮ่องกง พร้อมขยายตลาดใหม่ไปอินเดีย และมัลดีฟส์ ควบคู่การทำตลาดในประเทศผ่านออนไลน์ ระบุรายได้ปีนี้โตเกิน 50% เชื่อตลาดยังเติบโตได้อีกมาก
นางนภาพร คูศิริวานิชกร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคโค แรบบิท จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายนํ้ามันมะพร้าวออร์แกนิก และผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวแบรนด์ “COCO Rabbit” (โคโค แรบบิท) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า กลยุทธ์การทำตลาดของบริษัทปีนี้ จะยังคงมุ่งเน้นการทำตลาดต่างประเทศเป็นหลัก โดยประเทศจีนยังเป็นตลาดที่บริษัทจะเข้าไปทำตลาดเพิ่มเติม รวมถึงที่ประเทศฮ่องกง เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคในประเทศดังกล่าวยังมีอีกมาก ซึ่งบริษัทยังสามารถขยายฐานลูกค้าได้อีก
ส่วนตลาดใหม่ที่จะนำผลิตภัณฑ์เข้าไปจำหน่ายได้แก่ประเทศอินเดีย ซึ่งจากการสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคพบว่า ชื่นชอบการใช้ผลิตภัณฑ์จาก นํ้ามันมะพร้าว ทั้งเพื่อใช้ในการบำรุงผิว และใส่บนเส้นผม นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมขยายตลาดไปยังสาธารณรัฐมัลดีฟส์ (Republic Of Maldives) โดยล่าสุดกำลังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจาทางธุรกิจ จากเดิมที่ผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีวางจำหน่ายแล้วที่ประเทศมาเลเซีย, สิงคโปร์, รัสเซีย, กัมพูชา, ลาว, เมียนมา และเยอรมนี
“จากการศึกษาหาข้อมูลพบว่าปีนี้มีการคาดการณเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกว่าประเทศที่ยังสามารถส่งออกไปได้ เพราะเศรษฐกิจยังคงเติบโตอยู่ ได้แก่ จีน กัมพูชา และสหรัฐอเมริกา ดังนั้นบริษัทจึงเลือกที่จะขยายตลาดเพิ่มเติมที่ประเทศจีน ซึ่งยังมีอีกหลายพื้นที่ที่บริษัทยังไม่ได้เข้าไปทำตลาด”
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทจะเริ่มทำตลาดในประเทศ ไทยมากขึ้น โดยผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากผู้บริโภค ซึ่งบริษัทจะใช้กลยุทธ์การถ่ายทอดสด (LIVE) เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมโปรโมชันที่บริษัทจะนำเสนอ เพื่อดึงดูดใจลูกค้า เนื่องจากบริษัทมองว่าผู้บริโภคคนไทยให้การยอมรับผลิตภัณฑ์นํ้ามันมะพร้าวจากผู้ผลิตในประเทศดีขึ้น จากเดิมที่กระแสข่าวนํ้ามันมะพร้าวผสมส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ประเภทดังกล่าวมากพอสมควร จนผู้บริโภคเกิดความไม่เชื่อมั่น
“ช่องทางออนไลน์ของบริษัทจะดำเนินการผ่านทางเว็บไซต์ โดยมีออร์เดอร์จำนวนมากจากต่างประเทศ และชัดเจนกว่าในประเทศ เนื่องจากคนไทยไม่เชื่อมั่นต่อผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศ โดยผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ประกอบด้วย นํ้ามันมะพร้าวสกัดเย็น, ลิป บาล์ม, สบู่, Q10 ครีมสำหรับบำรุง ใบหน้าผิวหน้า, โลชั่นบำรุงผิว, แชมพูและครีมนวดและครีมบำรุงเท้า”
นางนภาพร กล่าวต่อไปอีกว่า จากกลยุทธ์ในการทำตลาดดังกล่าวเชื่อว่าจะสามารถทำให้บริษัทมีรายได้เติบโตขึ้นมากกว่า 50% จากปีที่ผ่านมา โดยมองว่าตลาดผลิตภัณฑ์นํ้ามันมะพร้าวยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก เนื่องจากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจากประเทศไทยค่อนข้างมีชื่อเสียงอย่างมากในต่างประเทศ หรือทั่วโลก โดยจะเห็นได้จากการที่บริษัทไปออกงานแสดงสินค้าที่ต่างประเทศหลายครั้ง ทุกครั้งจะมีผู้บริโภคที่ตั้งใจมาที่บูธจากประเทศไทยภายในงาน เพื่อหาผลิตภัณฑ์นํ้ามันมะพร้าวโดยเฉพาะจำนวนมาก
สำหรับจุดเด่น ของผลิตภัณฑ์แบรนด์ COCO Rabbit อยู่ที่แพ็กเกจจิ้งที่บริษัทเลือกใช้ให้ดูเป็นแบบพรีเมียม โดยเลือกใช้โทนสีขาว กับดำ เพื่อสร้างความแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ในรูปแบบเดียวกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกใช้โทนสีเขียว เพื่อต้องการสื่อถึงมะพร้าว อีกทั้งยังมีเรื่องของคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่บริษัทการันตีได้อย่างมั่นใจว่าเป็นนํ้ามันมะพร้าวสกัดแบบเกรด A ที่นำมาจำหน่าย ไม่มีนํ้ามันมะพร้าวสกัดเกรดอื่นที่รองลงมาเจือปน โดยผู้บริโภคที่ใช้นํ้ามันมะพร้าวอยู่เป็นประจำจะสามารถสัมผัสได้
หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,468 วันที่ 9 - 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2562
