Strategy Moves ของธุรกิจครอบครัว

06 พ.ค. 2562 | 06:05 น.

มีคำกล่าวจากผู้เชี่ยว ชาญว่าธุรกิจครอบครัวมักแสดงให้เห็นว่าชอบหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและไม่เต็มใจที่จะทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ แต่ในความเป็น จริงแล้วธุรกิจครอบครัวเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทที่มีการปรับตัวมากที่สุดในโลกเลยทีเดียว ด้วยกระบวน การตัดสินใจและความสามารถในการตอบสนองต่อเทรนด์ใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วไม่เพียงช่วยให้ธุรกิจครอบครัวจำนวนมากสามารถปรับตัวได้เท่านั้น แต่ยังสร้างความเจริญรุ่งเรืองผ่านทศวรรษแห่งการเปลี่ยนแปลงมาหลายชั่วอายุคนได้อีกด้วย ดังนั้นการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยน แปลงในอนาคตจึงมีความสำคัญมากต่อธุรกิจครอบครัว

ซึ่งจากรายงานความร่วมมือของ European Family Businesses (EFB) และ KPMG Enterprise1 ได้ทำการสำรวจออนไลน์ธุรกิจ ครอบครัว 1,576 ราย จาก 26 ประเทศ ในยุโรปในช่วงวันที่ 7 พฤษภาคม- 7 กรกฎาคม ค.ศ. 2018 ได้เปิดเผยว่า สิ่งที่ธุรกิจครอบครัวให้ความสำคัญมากที่สุดในอีก 2 ปีข้างหน้า คือการเพิ่มความสามารถในการทำกำไร (49%) และการเพิ่มยอดขาย (38%) ซึ่งการที่จะทำทั้ง 2 อย่างนี้ได้อาจต้องอาศัยสิ่งสำคัญลำดับถัดไป นั่นคือ การสร้างสรรค์นวัตกรรมมากขึ้น (27%) และการดึงดูดคนเก่งใหม่ๆ เข้ามาในองค์กร (24%) (ดูภาพประกอบ) ทั้งนี้การมีนวัตกรรมทางกลยุทธ์ (Strategic Innovation) มากขึ้นควบคู่ไปกับการมีคนที่เหมาะสมถือว่ามีความสำคัญที่สุดสำหรับธุรกิจครอบครัวเลยทีเดียว

 

Strategy Moves  ของธุรกิจครอบครัว

โดยธุรกิจครอบครัวเองก็ตระหนักถึงความสำคัญของนวัตกรรมว่าเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนการเติบโต ดังจะเห็นได้จากผลสำรวจที่พบว่า 24%  ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าการสร้างนวัตกรรมมากขึ้นเป็น 1 ใน 2 สิ่งที่ให้ความสำคัญสูงสุด ขณะที่จากการศึกษาที่ผ่านมาระบุ ว่า 45%  ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นว่าธุรกิจอื่นทั่วไปเป็นผู้สร้างนวัตกรรม ขณะที่มีเพียง 15%  ที่เห็นว่าธุรกิจครอบครัวมีคุณสมบัตินี้2 ซึ่งในความเป็นจริงแล้วนวัตกรรมและความเป็นผู้ประกอบการเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จของธุรกิจครอบครัวเสมอ ทั้งนี้การที่ธุรกิจครอบครัวจำนวนมากสามารถดำเนินกิจการมา หลายชั่วอายุคนได้จะเห็นว่าความสำเร็จนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถในการปรับตัวของพวกเขา โดยอาจ กล่าวได้ว่าความยืนยาวของกิจการมาจากแนวคิดแบบผู้ประกอบการและความสามารถในการตรวจติดตามสัญญาณการเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไปและปรับธุรกิจให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงนั้น อย่างไรก็ตามอัตราการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในปัจจุบันไม่เหมือนสิ่งที่ครอบครัวธุรกิจเคยประสบมาในอดีต ทำให้ธุรกิจครอบครัวที่ใช้วิธี การเพิ่มนวัตกรรมแบบค่อยเป็นค่อยไปกำลังถูกท้าทายด้วยความต้องการนวัตกรรมที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 

ดังนั้นความสามารถในการเปลี่ยนแปลงจึงไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่ความสามารถเปลี่ยน แปลงได้อย่างรวดเร็วเพียงพอที่จะตอบสนองต่อแรงกดดันของโลก ธุรกิจในปัจจุบันต่างหากที่สำคัญกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่สามารถดำเนินกิจการมายาวนาน มักจะทำตัวสอดคล้องกับการเปลี่ยน แปลงในตลาด ธุรกิจเหล่านี้จะไม่รอให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแต่จะมองหาตัวบ่งชี้ที่เป็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงล่วงหน้า โดยธุรกิจครอบครัวที่มุ่งเน้นอนาคตเหล่านี้จำนวนมากได้รับการสนับสนุนจากโครงสร้างองค์กรและวัฒนธรรมที่เอื้อต่อการตัดสินใจ การทดลองและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว  

Strategy Moves  ของธุรกิจครอบครัว

อย่างไรก็ตามความสามารถของธุรกิจครอบครัวที่จะเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมในที่สุดจะถูกกำหนดโดยวิธีการที่พวกเขาแข่งขันในสงครามแย่งชิงคนเก่งมาสู่องค์กร โดยส่วนใหญ่มักไม่ดิ้นรนที่จะจ้างแรงงานหรือคนงานที่ไม่มีทักษะ แต่จะถูกท้าทายให้ค้นหาคนเก่งที่มีทักษะจำเป็นต่อการประสบความสำเร็จเมื่อโลกดิจิทัลและเทคโนโลยีมีวิวัฒนาการมากขึ้นและความต้องการของลูกค้าเปลี่ยน ไป ซึ่งเจ้าของธุรกิจจำนวนมากตระหนักถึงจุดอ่อนของตนในเรื่อง นี้ดีโดย 53% ของผู้ตอบแบบ สอบถามระบุว่าสงครามแย่งชิงคนเก่งเป็น 1 ใน 3 ข้อกังวลสูงสุดของพวกเขา ทั้งนี้นอกเหนือจากการนำคนเก่งที่เหมาะสมเข้ามาแล้ว ธุรกิจครอบครัวยังตระหนักถึงความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของนวัตกรรมอีกด้วยซึ่งเห็นได้จากผล การสำรวจ 83% ระบุว่าแผนกลยุทธ์ของตนมีการลงทุนด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้วย โดย ธุรกิจครอบครัวในปัจจุบันกำลังมองหาวิธีใหม่ๆ ในการสร้างกระแส นวัตกรรมและหลีกเลี่ยงการล้นตลาดเพื่อให้สามารถเติบโตทางธุรกิจและสร้างความรุ่งเรืองให้คน รุ่นต่อไปได้ ซึ่งความต้องการที่จะ ลงทุนในนวัตกรรมควบคู่ไปกับประสบการณ์ความเป็นผู้ประกอบการที่ดีจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและนวัตกรรมทางอุตสาหกรรมต่อไปได้ 

คอลัมน์ หน้า 31 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3467 ระหว่างวันที่ 5-8 พฤษภาคม 2562

Strategy Moves  ของธุรกิจครอบครัว