ศาลอาญารับฟ้อง "วรวิทย์ สุขบุญ" คดีละเว้นสอบปมสินบนปาล์มอินโดฯ

01 พ.ค. 2562 | 09:31 น.

      ศาลอาญาคดีทุจริตฯ รับคดี”นิพิฐ”ฟ้อง “วรวิทย์ สุขบุญ”เลขาฯป.ป.ช. ฐานละเว้นการสอบสวนปมสินบนข้ามชาติปาล์มอินโดฯ-ส่อช่วยเหลือ “สุภา” ไว้พิจารณา

ศาลอาญารับฟ้อง "วรวิทย์ สุขบุญ" คดีละเว้นสอบปมสินบนปาล์มอินโดฯ

      เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ได้มีคำสั่งรับฟ้องไว้พิจารณา คดีหมายเลขดำที่ อท.3/2562 ที่นายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. ในข้อหา เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมป.ป.ช. ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ศาลได้พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ฟ้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 มาตรา 15 จึงรับฟ้องไว้พิจารณา

ศาลอาญารับฟ้อง "วรวิทย์ สุขบุญ" คดีละเว้นสอบปมสินบนปาล์มอินโดฯ

      คดีนี้สืบเนื่องจากนายนิพิฐ ได้ยื่นฟ้องนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช มีข้อความบางช่วงบางตอน ว่าจำเลยเป็นผู้ได้รับมอบหมายโดยตรงจากคณะกรรมการป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีนางสาวสุภา ปิยะจิตติ และคณะป.ป.ช.ซึ่งเดินทางไปสอบข้อเท็จจริงที่ประเทศอินโดนีเซีย และผู้เกี่ยวข้องในการสอบสวนพยานที่ประเทศอินโดนีเซียที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย และดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีนางรสยา เธียรวรรณ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทพีทีที กรีนเอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ซึ่งมีพฤติการณ์เข้าไป ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และมอบถุงสินบนให้แก่พยานปากสำคัญ เพื่อให้พยานปากสำคัญ นายเบอร์ฮันนุดดิน (Burhanuddin)ให้ถ้อยคำบิดเบือนข้อเท็จจริงโดยมุ่งหมายที่จะให้ร้ายโจทก์

ศาลอาญารับฟ้อง "วรวิทย์ สุขบุญ" คดีละเว้นสอบปมสินบนปาล์มอินโดฯ

      อีกทั้งโจทก์ยังได้ทำหนังสือถึงประธานกรรมการป.ป.ช. , กรรมการป.ป.ช. และจำเลย เพื่อให้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวด้วยความสุจริต บริสุทธิ์ยุติธรรม ความโปร่งใส และตรงไปตรงมา แล้วหลายครั้งหลายหน จำเลยจึงได้รับรู้รับทราบข้อเท็จจริงเป็นอย่างดีว่า การที่นางสาวสุภา ปิยะจิตติ และเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ที่ร่วมกันเดินทางไปสอบพยานที่ประเทศอินโดนีเซีย ได้แจ้งกำหนดการ วันและเวลาการสอบสวนนายเบอร์ฮันนุด อันเป็นการเปิดเผยความลับของทางราชการให้กับนางรสยา เธียรวรรณ ทราบล่วงหน้าก็ดี

ศาลอาญารับฟ้อง "วรวิทย์ สุขบุญ" คดีละเว้นสอบปมสินบนปาล์มอินโดฯ

      ทั้งนี้การที่นางรสยา เธียรวรรณ ได้เดินทางนำถุงสินบนไปให้นายเบอร์ฮันนุดดิน เพื่อให้การบิดเบือนกับข้อเท็จจริงก่อนที่นางสาวสุภา ปิยะจิตติ และคณะเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.จะทำการสอบสวนประมาณ 2 วันก็ดี และกรณีที่นางสาวสุภา ปิยะจิตติ และคณะเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ใช้คำถามฝ่ายเดียวซึ่งเป็นคำถามนำที่จะโน้มน้าวชี้นำให้พยานให้การยืนยันหรือสอดคล้องกับเอกสารฉบับลงวันที่ 14 มกราคม 2556 ซึ่งมีข้อความอันเป็นเท็จและใส่ร้ายป้ายสีโจทก์ก็ดี และการที่นางรสยา เธียรวรรณ ได้เดินทางไปประเทศอินโดนีเซียในช่วงระยะเวลาเดียวกันกับนางสาวสุภา ปิยะจิตติ และเดินทางกลับพร้อมกับคณะเจ้าหน้าที่ป.ป.ช. นั้น ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน

      การกระทำทั้งหมดดังกล่าว เป็นการกระทำที่นางสาวสุภา ปิยะจิตติ และคณะเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำของนางรสยา เธียรวรรณ ที่นำถุงสินบนให้กับนายเบอร์ฮันนุดดิน เพื่อจูงใจให้ถ้อยคำที่บิดเบือนข้อเท็จจริง และมีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน

      สำหรับคดีนี้ เป็นผลพวงมาจากคดีทุจริตปาล์มอินโด ที่มีการยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมพร้อมทั้งพยานหลักฐานที่สำคัญในคดี ที่ปรากฏอย่างชัดเจนว่ามีกลุ่มบุคคลที่ทำให้เกิดความเสียหายที่แท้จริงต่อ ปตท. และ PTTGE ถึง นางสาวสุภา ปิยะจิตติ เจ้าของสำนวน , พลตำรวจเอกวัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป.ป.ช.และกรรมการ ป.ป.ช. ไม่น้อยกว่า 16 ครั้ง แต่เพิกเฉยไม่ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง เป็นเหตุให้นายนิพิฐ ได้ฟ้องคดีอาญาต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางถึง 5 คดี และต่อมาได้ฟ้องเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ในที่สุด