เนสกาแฟ ดึง “โป๊ป – เจมส์จิ” นั่งพรีเซนเตอร์ ปั้นสูตรใหม่ เบลนด์ แอนด์ บรู

         “เนสท์เล่” รุกหนักเปิดตัว‘เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู’ พร้อมทุ่มงบตลาดกว่า 1,200 ล้าน ดึง 2 ซุปตาร์ “โป๊ป-เจมส์จิ”  นั่งแท่นพรีเซนเตอร์ ย้ำผู้นำตลาดกาแฟเมนสตรีมเมืองไทย

            นางสาวนาริฐา วิบูลยเสข ผู้จัดการธุรกิจกาแฟปรุงสำเร็จ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทรนด์ของผู้บริโภคกาแฟเปลี่ยน การดื่มกาแฟเป็นมากกว่าการดื่มทั่วไป บริษัทเห็นโอกาสของกาแฟปรุงสำเร็จเมนสตรีม ที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงใช้กาแฟเพียงสายพันธุ์เดียวนั่นคือโรบัสต้าล้วน จึงเป็นครั้งแรกในไทยที่นำกาแฟคั่วบดละเอียดสองสายพันธุ์มารวมกัน โดยใช้เทคโนโลยีพิเศษเอกสิทธิ์เฉพาะของเนสกาแฟจึงเปิดตัว “เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู” สูตรใหม่ นวัตกรรมกาแฟปรุงสำเร็จ ผสมกาแฟคั่วบดละเอียดจาก 2 สายพันธุ์คือโรบัสต้าที่ให้รสชาติเข้ม และอาราบิก้าที่ให้รสชาตินุ่มละมุน

                                                           นาริฐา วิบูลยเสข

โดยเนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู ใหม่นี้ถือเป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 ของเนสกาแฟปรุงสำเร็จที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และเป็นการเปิดตัวกาแฟปรุงสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของเนสกาแฟในรอบ 3 ปีอีกด้วย จนประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในปีที่ผ่านมาด้วย ส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 52.9% และมียอดการดื่มเนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู สูงถึง 1,500 ล้านแก้วต่อปี            

ด้านกลยุทธ์การทำตลาด บริษัทแต่งตั้ง 2 ซูเปอร์สตาร์ระดับแม่เหล็กอย่าง โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ เป็นตัวแทนของกาแฟโรบัสต้าที่เข้มเต็มรสกาแฟ และ เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข เป็นตัวแทนของกาแฟอาราบิก้าที่นุ่มละมุน ทั้งสองคนจะร่วมกันถ่ายทอดความเข้มและความนุ่มของเนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู ใหม่ผ่านทางภาพยนตร์โฆษณาและเว็บฟิล์มชุดใหม่จากผู้กำกับภาพยนตร์มือหนึ่งอย่างนายนิธิวัฒน์ (ต้น) ธราธร พร้อมกับเพลงดังอย่าง “เอาไปเลย” ที่นำมาคัฟเวอร์ใหม่ อีกทั้งยังจัดงานเปิดตัว เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู สูตรใหม่ อย่างเป็นทางการขึ้นในวันศุกร์ที่ 26 เมษายน ที่พาร์คพารากอน พร้อมจัดกิจกรรมแจกผลิตภัณฑ์ เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู สูตรใหม่ถึง 10 ล้านแก้วให้กับผู้บริโภคทั่วประเทศ และตอกย้ำเนสกาแฟในการเป็นแบรนด์กาแฟอันดับหนึ่งของไทยอย่างต่อเนื่อง คาดว่างานเปิดตัว จะสามารถเข้าถึงผู้บริโภคกว่า 10,000 คนอีกด้วย

            อย่างไรก็ตามบริษัทได้ทุ่มงบการตลาดไปกว่า1,200 ล้านบาท เพื่อแคมเปญสื่อสารการตลาดของ เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรูใหม่ โดยปัจจุบันเนสกาแฟมีสัดส่วนรายได้จากประเภทมิกซ์เซทอยู่ที่ 80% เติบโต 6.2% ในขณะที่ตลาดรวมอยู่ที่ 4.2% ซึ่งสูงกว่าตลาดรวมซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท ส่วนประเภทผงชงมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 20% เติบโต 4.8%  ซึ่งปัจจุบันเนสกาแฟถือมาร์เก็ตแชร์ของตลาดกาแฟเป็นอันดับหนึ่งอยู่ที่ 56%  และคาดการณ์ต่อที่จะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดให้เพิ่มมากขึ้น พร้อมผลักดันให้เนสกาแฟมียอดขายที่สูงขึ้นเพื่อขยายตลาดกาแฟให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง