พาณิชย์เดินหน้า MOU ความตกลงฉบับใหม่ ยกระดับภาคบริการอาเซียน

23 เม.ย. 2562 | 08:20 น.

 

พาณิชย์ ประชุมAEM ลงนามความตกลงการค้าบริการอาเซียน หวังช่วยยกระดับมาตรฐานการจัดทำกฎระเบียบด้านบริการให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งขยายโอกาสทางการค้าบริการและการลงทุนของไทย ทั้งบริการด้านสุขภาพ การท่องเที่ยว โรงแรม และร้านอาหาร

นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) ได้ลงนามความตกลงการค้าบริการอาเซียน (ASEAN Trade in Services Agreement: ATISA) เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2562 ในช่วงการประชุม AEM Retreat ครั้งที่ 25 ที่กระทรวงพาณิชย์ไทยเป็นเจ้าภาพ ณ จังหวัดภูเก็ต โดยความตกลงดังกล่าว จะนำมาใช้แทนกรอบความตกลงว่าด้วยบริการของอาเซียนฉบับปัจจุบัน (ASEAN Framework Agreement on Services: AFAS) ที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2538  ความตกลง ATISA จะครอบคลุมหลักการในเรื่องที่จำเป็นต่อการค้าบริการ ไม่ว่าจะเป็น การปฏิบัติกับธุรกิจต่างชาติเท่าเทียมกับธุรกิจของชาติตน การเสริมสร้างการจัดทำกฎระเบียบภายในประเทศที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจบริการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การเสริมสร้างความโปร่งใส และการมีส่วนร่วมของวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อยในอาเซียน

รวมถึงการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการระหว่างกัน ทั้งนี้ ประเทศสมาชิกอาเซียนที่ต้องการคงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องบางสาขาบริการ สามารถเขียนสงวนกฎระเบียบดังกล่าวได้ ซึ่งจะทำให้ประเทศสมาชิกอื่นทราบเงื่อนไขการเข้าไปลงทุนประกอบธุรกิจในแต่ละประเทศ ซึ่งความตกลงฉบับนี้ให้เวลาประเทศสมาชิกถึง 5 ปี ในการพิจารณากฎระเบียบที่ต้องการสงวนไว้ หลังจากที่ความตกลงฯ มีผลใช้บังคับแล้ว

พาณิชย์เดินหน้า MOU ความตกลงฉบับใหม่ ยกระดับภาคบริการอาเซียน

“ความตกลง ATISA จะช่วยยกระดับมาตรฐานการจัดทำกฎระเบียบด้านบริการของสมาชิกอาเซียนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดอุปสรรคทางการค้าบริการที่เกินความจำเป็น รวมทั้งช่วยเพิ่มความโปร่งใสในการใช้มาตรการทางการค้าบริการของประเทศสมาชิกอาเซียน เนื่องจากกำหนดให้ต้องเผยแพร่ระเบียบกฎเกณฑ์ด้านการลงทุนต่อสาธารณะ นำไปสู่การสร้างบรรยากาศทางการค้าบริการที่สามารถคาดการณ์ได้ ซึ่งจะช่วยขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุน โดยเฉพาะในสาขาที่ไทยมีศักยภาพและสามารถเติบโตได้ในประเทศอาเซียน เช่น บริการด้านสุขภาพ บริการด้านการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร บริการด้านก่อสร้าง บริการด้านการจัดประชุม และการจัดนิทรรศการ เป็นต้น เพื่อให้ภายในภูมิภาคเกิดการรวมตัวด้านบริการที่กว้างและลึกขึ้น ซึ่งจะสามารถบรรลุหนึ่งในเป้าหมายของ AEC Blueprint 2025”

ทั้งนี้ ความตกลง ATISA จะมีผลบังคับใช้ 180 วัน หลังการลงนาม โดยประเทศสมาชิกอาเซียนที่ดำเนินการภายในเสร็จแล้ว จะต้องแจ้งสำนักเลขาธิการอาเซียนต่อไป

 นอกจากนี้ได้ลงนามพิธีสารแก้ไขความตกลงการลงทุนอาเซียน (ACIA) ฉบับที่ 4 ในช่วงการประชุม AEM Retreat เพื่อปรับปรุงความตกลงฯ ให้สามารถดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในภูมิภาคมากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนไทยที่จะลงทุนในประเทศสมาชิกอาเซียน  โดยการปรับปรุงความตกลง ACIA จะกำหนดให้ประเทศสมาชิกอาเซียนต้องผูกพันไม่กำหนดเงื่อนไขที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการลงทุนของนักลงทุน เช่น การห้ามเชื่อมโยงการขายสินค้ากับปริมาณหรือมูลค่าส่งออก และการห้ามรัฐบาลกำหนดว่าสินค้าที่นักลงทุนจากประเทศสมาชิกอาเซียนผลิตจะต้องถูกส่งไปยังตลาดใดตลาดหนึ่งเท่านั้น นอกจากนี้ ความตกลงฯ ได้เปิดช่องทางให้สมาชิกอาเซียนยังคงใช้มาตรการหรือเงื่อนไขฯ ที่อาจไม่สอดคล้องกับข้อกำหนดข้างต้นได้ โดยให้ระบุไว้ในรายการข้อสงวนของตนได้ และนักลงทุนจะไม่สามารถฟ้องรัฐบาลผู้รับการลงทุนได้ ทั้งนี้ การจัดทำพิธีสารดังกล่าวไม่มีผลให้ไทยต้องแก้ไขกฎหมาย

พาณิชย์เดินหน้า MOU ความตกลงฉบับใหม่ ยกระดับภาคบริการอาเซียน

ทั้งนี้ ASEAN Investment Report ปี 2561 ระบุว่า ในปี 2560 การลงทุนในภูมิภาคอาเซียนมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องมีมูลค่ากว่า 137 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยแบ่งเป็นการลงทุนระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนด้วยกันเอง ซึ่งถือเป็นสัดส่วนใหญ่ที่สุด มีมูลค่ากว่า 27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วนกว่า 19 % ของการลงทุนรวม โดยประเทศที่มีการลงทุนในอาเซียนสูงสุด ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย สำหรับการลงทุนจากต่างประเทศ มีมูลค่ากว่า 110 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นักลงทุนต่างประเทศสำคัญในอาเซียน ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน ประเทศจากสหภาพยุโรป ออสเตรเลีย และอินเดีย ซึ่งให้ความสนใจขยายการลงทุนในอาเซียน เช่น สาขาการผลิต ก่อสร้าง เหมืองแร่ การเงิน การวิจัยและพัฒนา การค้าปลีกค้าส่ง และเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น

พาณิชย์เดินหน้า MOU ความตกลงฉบับใหม่ ยกระดับภาคบริการอาเซียน