บีโอไอ ดึงจับคู่ธุรกิจ8พันคู่ ”ซับคอน ไทยแลนด์”เงินสะพัด 1.4 หมื่นล.

22 เม.ย. 2562 | 09:40 น.

บีโอไอ พร้อมจัดงาน “ซับคอน ไทยแลนด์ 2019” คู่ขนานไปกับงาน งาน อินเตอร์แมค-เอ็มทีเอ 2019 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 ชูไฮไลท์การจับคู่ธุรกิจ 8,000 คู่ คาดเงินสะพัดกว่า 14,000 ล้านบาท ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางการจัดซื้อชิ้นส่วนอุตสาหกรรมของภูมิภาคอาเซียน

 

นางสาวบงกช อนุโรจน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตไทยมีอัตราการเติบโตในทุกปีและมีมูลค่าหลายแสนล้านบาทต่อปี นับเป็นฟันเฟืองสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแห่งอนาคต (New S-curve) ด้วยความสำคัญดังกล่าวทางบีโอไอจึงมีแผนที่จะสนับสนุนการลงทุนและพัฒนาอุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตอย่างต่อเนื่องผ่านการจัดงาน ซับคอนไทยแลนด์ (SUBCON THAILAND 2019) ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 13 โดยมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อส่งเสริมการจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการชาวไทยและบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่จากทั้งในและประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก และสนับสนุนให้เกิดการต่อยอดธุรกิจจากการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่

นางสาวบงกช อนุโรจน์

งานซับคอนไทยแลนด์ 2019 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันพุธที่ 8 ถึง เสาร์ที่ 11 พฤษภาคม 2562 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ปีนี้มุ่งเป้าให้ประเทศไทยเป็น “ศูนย์กลางการจัดซื้อชิ้นส่วนอุตสาหกรรมของภูมิภาคอาเซียน” โดยมีกิจกรรมสนับสนุนมากมาย อาทิ งานแสดงนิทรรศการของอุตสาหกรรมสนับสนุนของไทย การจับคู่ธุรกิจ นำผู้ซื้อจากกว่า 400 บริษัท 30 ประเทศ โดยความร่วมมือของสำนักงานบีโอไอในต่างประเทศมาพบกับผู้ผลิตภายในงาน การจัดงานสัมมนาเชิงวิชาการ รวมทั้ง Buyers’ Village ที่จะนำผู้ซื้อชิ้นส่วน จากกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ New S-Curve กว่า 15 ราย อาทิ จากประเทศสหรัฐอเมริกา เยอรมัน ฝรั่งเศส อังกฤษ อิตาลี ออสเตรีย สวีเดน เกาหลี เนเธอร์แลนด์ จีน อินเดีย เข้าร่วมงาน

บีโอไอ ดึงจับคู่ธุรกิจ8พันคู่ ”ซับคอน ไทยแลนด์”เงินสะพัด 1.4 หมื่นล.

สำหรับไฮไลท์ปีนี้ ได้จัดให้มีโซนพิเศษขึ้น คือ โซน Innovation to Business ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับจัดแสดง ผลงานวิจัยและนวัตกรรม เป็นการเชื่อมโยงหน่วยงานวิจัยและสถาบันการศึกษากับภาคอุตสาหกรรมการผลิต การรวมกลุ่มของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์อนาคต อุตสาหกรรมการบินและอากาศยาน ระบบราง และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เข้าร่วมแสดง

 

นอกจากนี้ในส่วนของ สมาคมเครื่องจักรกลระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ไทย จะมีการนำเสนอ TARA Showcase นำเสนอการทำงานในไลน์การผลิตของระบบ Automation and Robotic รวมทั้งอุตสาหกรรมผู้ผลิตเครื่องแพทย์และสุขภาพ ที่พร้อมนำเสนอนวัตกรรมด้านอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ซึ่งสอดรับกับนโยบายของภาครัฐที่ต้องการสร้างประเทศไทยให้เป็น ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) โดยงานซับคอนไทยแลนด์ในปี 2019 ได้มีการตั้งเป้าที่จะจับคู่ธุรกิจกว่า 8,000 คู่ และคาดว่าจะเกิดธุรกรรมทางธุรกิจมูลค่า ไม่น้อยกว่า 14,000 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ ยอดของการจับคู่ทางธุรกิจผ่านงานซับคอนไทยแลนด์ ในปีที่ผ่านมา (2018) สามารถจับคู่ทางธุรกิจได้ถึง 7,211 คู่ ก่อให้เกิดธุรกรรมกว่า 12,706 ล้านบาท ซึ่งยอดการจับคู่นั้นมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยในปีนี้คาดว่าจะยอดผู้ซื้อจากอุตสาหกรรมแห่งอนาคตเข้าร่วมเพิ่มขึ้น อาทิ กลุ่มอุตสาหกรรมการบินชั้นนำกว่า 40 ราย อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ ซึ่งมาจากการเชิญของสำนักงาน BOI ในและต่างประเทศทั้ง 14 แห่ง

บีโอไอ ดึงจับคู่ธุรกิจ8พันคู่ ”ซับคอน ไทยแลนด์”เงินสะพัด 1.4 หมื่นล.

นอกจากนี้ ภายในงานจัดให้มี กิจกรรมสัมมนาส่งเสริมองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับธุรกิจภาคอุตสาหกรรมการผลิตทุกภาคส่วน กว่า 100 หัวข้อ อาทิ การลงทุนในตลาด CLMV, สัมมนาอากาศยานและศูนย์ซ่อมบำรุง Aerospace & MRO Summit Bangkok, Aerospace Manufacturing in Thailand: The View from OEMs, Aviation Industry in Thailand: Preparing for the future, สัมมนาเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ (Medical Device Seminar), สัมมนาอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่-EV (สัมมนาภาษาญี่ปุ่น) ฯลฯ โดยทั้งหมดครอบคลุมต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ

 

นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธานบริหาร บริษัทยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) กล่าวว่า งาน อินเตอร์แมค-เอ็มทีเอ 2019 จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 36 โดยมีงานซับคอนไทยแลนด์จัดคู่ขนานกันมาอย่างยาวนานต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 ซึ่ง งานอินเตอร์แมค-เอ็มทีเอ 2019 เป็นงานแสดงนวัตกรรมเครื่องจักรกล หุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติ เพื่ออุตสาหกรรมการผลิต รวบรวมเทคโนโลยีจาก 1200 แบรนด์ 45 ประเทศ และ มีประเทศผู้ผลิตนำผลงานมาจัดแสดงในรูปแบบพาวิลเลียน จำนวน 5 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลี ไต้หวัน และจีน

 

นอกจากนี้ยังจัดให้มีการสาธิตระบบการผลิตอัจฉริยะ ที่รวบรวมเทคโนโลยีการผลิตจากแบรนด์ชั้นนำในโซน (RO) Bots Hub มาทำงานร่วมกันด้วยซอฟท์แวร์ที่ออกแบบใหม่เพื่อการประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับไลน์การผลิตและเครื่องจักรที่มีอยู่ต่างชนิดได้อย่างลงตัว โดย บริษัท โรบอท ซีสเท็ม จำกัด (ROBOTSYSTEM) บริษัทของผู้เชี่ยวชาญชาวไทย หรือเจ้าของฉายา ไอรอนแมน เมืองไทย ที่ปัจจุบันได้รับการยอมรับในระดับสากล อาทิ การวางระบบงานขัดอุปกรณ์เครื่องบินจากอุตสาหกรรมอากาศยาน ไลน์การชงกาแฟจากโรบอทอาร์ม ซอฟแวร์เกี่ยวกับอุตสาหกรรมการแพทย์และยานยนต์อนาคต เป็นต้น

บีโอไอ ดึงจับคู่ธุรกิจ8พันคู่ ”ซับคอน ไทยแลนด์”เงินสะพัด 1.4 หมื่นล.

อีกทั้ง ยังมี โซนโชว์เคสนวัตกรรม และระบบอัตโนมัติที่จะนำผลงานการออกแบบระบบซอฟท์แวร์จากบริษัทข้ามชาติ โดย บริษัทเจอแรงการ์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด ที่ผู้เข้าชมงานสามารถทดลองใช้งานโปรแกรมให้หุ่นยนต์ทำงานร่วมกับเครื่องควบคุมโดยอัตโนมัติ เพื่อสัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่เชื่อมโยงเครื่องจักรให้ทำงานร่วมกันผ่านระบบ IOT อาทิ การสร้างภาพการผลิตที่สามารถตรวจสอบการทำงานได้จริงแบบเรียลไทม์ ไปจนถึงโซลูชั่นที่สมบูรณ์แบบ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในอุตสาหกรรมการผลิตทุกประเภทตั้งแต่อุตสาหกรรมขนาดย่อยไปจนถึงอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อีกด้วย

 

งานแสดงเครื่องจักรอุตสาหกรรมงานแรกที่ยิ่งใหญ่ของปี ภายในงานจะมีผู้ผลิตชิ้นส่วนร่วม 400 รายจากทั้งประเทศไทยและต่างประเทศเข้าร่วมจัดแสดง และคาดการณ์จะมีผู้ซื้อจากทั่วโลกกว่า 45,000 ราย ที่สำคัญมีกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคด้วยโปรแกรมจับคู่ธุรกิจสำหรับผู้แสดงสินค้าของงานซับคอน ไทยแลนด์ เพื่อเชื่อมโยงทางธุรกิจและสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทยและชาวต่างชาติต่อยอดสู่ความร่วมมือในอนาคต

บีโอไอ ดึงจับคู่ธุรกิจ8พันคู่ ”ซับคอน ไทยแลนด์”เงินสะพัด 1.4 หมื่นล.