กองทัพเรือชี้เเจ้งกรณีตั้งถิ่นฐานในทะเลนอกน่านน้ำ

21 เม.ย. 2562 | 07:06 น.

กองทัพเรือชี้แจงกรณีชายสัญชาติอเมริกันและภรรยาชาวไทยก่อสร้างที่พักอาศัยลอยน้ำตามแนวคิดการตั้งถิ่นฐานในทะเลนอกน่านน้ำทะเลอาณาเขต(Seasteading) ในนามของOcean Builders ยันประสานหน่วยเกี่ยวข้องเร่งดำเนินคดีและเคลื่อนย้ายเข้าฝั่ง

พลเรือโทสิทธิพร  มาศเกษม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่3/ผู้บัญชาการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต 3 ได้แถลงข่าวและชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการสร้างบ้านลอยน้ำSeasteading ร่วมกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเจ้าท่าภูมิภาคที่5 สาขาภูเก็ตและกองกำกับการ8 กองบังคับการตำรวจน้ำว่าจากกรณีที่นายเชดแอนดริวเอลวอทอวสกี้(CHAD ANDREW ELWARTOWSKY) อายุ46 ปีสัญชาติอเมริกันและภรรยาชาวไทยประกาศความสำเร็จในการตั้งเขตปกครองตนเองกลางทะเลสากลใกล้ภูเก็ตผ่านทางwebsite YouTube ว่าสองสามีภรรยาดังกล่าวได้ดำเนินการก่อสร้างที่พักอาศัยลอยน้ำตามแนวคิดการตั้งถิ่นฐานในทะเลนอกน่านน้ำทะเลอาณาเขต(Seasteading) ในนามของOcean Builders 

กองทัพเรือชี้เเจ้งกรณีตั้งถิ่นฐานในทะเลนอกน่านน้ำ

โดยมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่าSeasteading ถูกสร้างขึ้นในพื้นที่ของบริษัทPhuket Premier Boatyard Co,Ltd. ตั้งอยู่ที่บ้านหยิดหมู่7 ตำบลไม้ขาวอำเภอถลางจังหวัดภูเก็ตและถูกนำไปติดตั้งสำเร็จในพิกัดละติจูด7 องศา29.37 ลิปดาเหนือลองจิจูด98 องศา34.81 ลิปดาตะวันออกหรือบริเวณทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะราชาใหญ่ระยะห่างประมาณ14 ไมล์ทะเลซึ่งพิกัดดังกล่าวอยู่ในเขตต่อเนื่องของประเทศไทย 

ทั้งนี้กองทัพเรือโดยทัพเรือภาคที่ 3 ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต3 เข้าดำเนินการตรวจสอบอย่างเร่งด่วนโดยมีการดำเนินการที่สำคัญดังนี้วันที่12 เมษายน2562 ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่3 ได้สั่งการให้หมวดบินในสังกัดทัพเรือภาคที่3 นำอากาศยานขึ้นบินลาดตระเวนตรวจการณ์จำนวน3 เที่ยวบินและพบสิ่งปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับแจ้ง

วันที่13 เมษายน2562 ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่3 ได้ประสานหน่วยงานในศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต3 ให้ร่วมเดินทางไปตรวจสอบสิ่งก่อสร้างลอยน้ำด้วยเรือต.991  ผลการตรวจสอบพบเฉพาะสิ่งก่อสร้างมีข้าวของเครื่องใช้อยู่ครบแต่ไม่พบผู้อยู่อาศัย 

 

เวลา14.50 น. ของวันเดียวกันพลเรือตรีกฤษณะ  กุณฑียะ เสนาธิการทัพเรือภาคที่3 ในฐานะหัวหน้าฝ่ายอำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต3 (ศรชล. เขต3 ) ได้ร่วมกับนายอำเภอเมืองภูเก็ต  ผู้กำกับการ8 กองบังคับการตำรวจน้ำ  สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตฝ่ายกฎหมายศรชล. ร่วมแถลงข่าวการเข้าตรวจสอบสิ่งก่อสร้างSeasteading 

ในเวลา17.00 น. หมวดร้อยรักษาความสงบทัพเรือภาคที่3 ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ตสถานีตำรวจภูธรท่าฉัตรไชยกองกำกับการ8 กองบังคับการตำรวจน้ำเข้าตรวจสอบบริษัทDream Yacht Charter ซึ่งเป็นบริษัทรับจ้างสร้างบ้านลอยน้ำในพื้นที่หมู่7 ตำบลไม้ขาวอำเภอถลางจังหวัดภูเก็ตซึ่งมีนายดิพงศ์บุญสูงเป็นเจ้าของแจ้งว่าเป็นผู้เช่าพื้นที่แต่ไม่ระบุวัตถุประสงค์ในการเช่า

 

วันที่15 เมษายน2562 ทัพเรือภาคที่3 ได้มอบหมายให้นายทหารพระธรรมนูญเข้าดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับนายเชดแอนดริวเอลวอทอวสกี้(CHAD ANDREW ELWARTOWSKY) ในข้อกล่าวหากระทำการใดๆเพื่อให้ประเทศชาติหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของประเทศตกไปอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐต่างประเทศหรือเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อมเสียไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา119

 

วันที่17 เมษายน2562 พลเรือโทสิทธิพรมาศเกษมผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่3/ผู้บัญชาการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต3 ได้แถลงข่าวติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการสร้างบ้านลอยน้ำSeasteading ร่วมกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเจ้าท่าภูมิภาคที่5 สาขาภูเก็ตและกองกำกับการ8 กองบังคับการตำรวจน้ำ

สำหรับความคืบหน้าการดำเนินการเอาผิดกับเจ้าของบ้านลอยน้ำนั้นหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องได้เร่งดำเนินการโดยมีผลการปฏิบัติดังนี้

- สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ตได้ดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวของนายเชดแอนดริวเอลวอทอวสกี้พร้อมทั้งปิดหมายแจ้งคำสั่งปกครองให้คนต่างด้าวทราบและขอให้บันทึกรายชื่อลงระบบข้อมูล(ระบบPIBICS) เป็นบุคคลต้องห้าม

- สถานีตำรวจภูธรวิชิตรับแจ้งความจากทัพเรือภาคที่3/ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต3 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา119 พร้อมทั้งดำเนินการสอบปากคำนายทหารพระธรรมนูญทัพเรือภาคที่3 ซึ่งเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษโดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อนำส่งให้อัยการสูงสุดซึ่งเป็นเจ้าพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา20

- จังหวัดภูเก็ตประสานกระทรวงการต่างประเทศในการเตรียมชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานทูตสหรัฐอเมริกาให้รับทราบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนอกจากนั้นได้สั่งการให้อุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ตเข้าทำการตรวจสอบโรงงานที่ผลิตโครงสร้างซึ่งผลการตรวจสอบโรงงานดังกล่าวไม่มีใบอนุญาตจึงสั่งให้หยุดการดำเนินงานทันทีรวมถึงให้พาณิชย์จังหวัดศุลกากรจังหวัดและองค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาวเข้าตรวจสอบโรงงานว่ามีการดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมายหรือไม่

- สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตออกประกาศแจ้งเตือนชาวเรือให้ระมัดระวังในการเดินเรือหลีกเลี่ยงไม่เข้าใกล้บริเวณที่ติดตั้งSeasteading และในส่วนของการเคลื่อนย้ายSeasteading เนื่องจากเป็นพยานวัตถุแห่งคดีอาญาและพยานหลักฐานต้องสมบูรณ์และพร้อมนำสืบในบริเวณพื้นที่ที่กระทำความผิดวัตถุลอยน้ำSeasteading จึงต้องห้ามยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานซึ่งจะส่งผลเสียรูปคดีและเป็นความผิดหากเจ้าท่ากระทำโดยพลการปราศจากอำนาจหน้าที่การนี้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตจะดำเนินการหารือกรมเจ้าท่าเพื่อพิจารณาสั่งการให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตใช้อำนาจตามมาตรา121 แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทยพ.ศ.2456 ในการออกคำสั่งทางปกครองให้เจ้าของSeasteading เคลื่อนย้ายวัตถุพยานออกไปภายใน30 วันซึ่งยังไม่ได้ดำเนินการ

กองทัพเรือชี้เเจ้งกรณีตั้งถิ่นฐานในทะเลนอกน่านน้ำ

โดยสรุปแนวทางการดำเนินการต่อไปคือให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรวิชิตส่งสำนวนการสอบสวนให้อัยการสูงสุดดำเนินการรับเป็นคดีแล้วจึงจะดำเนินการยึดของกลาง(บ้านลอยน้ำ) ได้โดยการดำเนินการเคลื่อนย้ายบ้านลอยน้ำกลับเข้าสู่ฝั่งทัพเรือภาคที่3 เจ้าท่าภูมิภาคที่5 สาขาภูเก็ตสถานีตำรวจภูธรวิชิตสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ตและจังหวัดภูเก็ตเตรียมวิธีการลากบ้านลอยน้ำดังกล่าวโดยมีขั้นตอนการปฏิบัติงานดังนี้ขั้นที่1 วางแผนเตรียมการตรวจสอบโครงสร้างบ้านลอยน้ำ

 

ขั้นที่2 ออกเรือนำทีมเจ้าหน้าที่จากองโรงงานฐานทัพเรือพังงาและชุดปฏิบัติการพิเศษทัพเรือภาคที่3 เข้าตรวจสอบโครงสร้างขั้นที่3 ปรับแผนการปฏิบัติและเตรียมอุปกรณ์ในการลากบ้านลอยน้ำขั้นที่4 ดำเนินการเคลื่อนย้ายบ้านลอยน้ำกลับเข้าฝั่งขั้นที่5 ดำเนินการเก็บรักษาบ้านลอยน้ำณสถานที่เก็บโดยทำการส่งมอบให้กับสถานีตำรวนภูธรวิชิตเพื่อดำเนินการเก็บรักษาเป็นของกลางในการดำเนินคดีต่อไป

 

กองทัพเรือขอเรียนให้ทราบว่ากองทัพเรือซึ่งมีหน้าที่ในการรักษาเอกราชอธิปไตยและความมั่นคงของชาติทางทะเลจากเหตุการณ์ดังกล่าวผู้กระทำการเป็นกลุ่มบุคคลที่มีแนวความคิดจะสร้างถิ่นฐานถาวรกลางทะเลนอกเขตอำนาจอธิปไตยของรัฐต่างๆโดยพยายามอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายมาดำเนินการโดยมิได้ดำเนินการขออนุญาตต่อทางการของประเทศไทยแต่อย่างใดรวมทั้งยังเชิญชวนให้กลุ่มคนที่มีแนวความคิดเดียวกันเข้ามาพักอาศัยหรือสร้างเพิ่มเติมซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวแสดงออกถึงความมีเจตนาไม่เคารพต่อกฎหมายของประเทศไทยในฐานะรัฐชายฝั่งและจะทำให้เกิดรัฐใหม่ในอาณาเขตทางทะเลของประเทศไทยซึ่งหากไม่มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอาจจะขยายวงกว้างและยากที่จะแก้ไขอันจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศไทยรวมทั้งจะส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจสังคมและผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างมหาศาลเพื่อเป็นการพิทักษ์ไว้ซึ่งเอกราชอธิปไตยและความมั่นคงของชาติทางทะเลที่ผู้ใดจะละเมิดมิได้กองทัพเรือจึงได้ประสานกับหน่วยงานต่างๆที่มีหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายเข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหานี้ตามตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป 

โดยกองทัพเรือขอยืนยันว่ากองทัพเรือได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายซึ่งเมื่อตรวจพบการกระทำผิดก็ได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการไปตามกระบวนการตามอำนาจหน้าที่โดยปัจจุบันเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรวบรวมพยานหลักฐาน 

 

ทั้งนี้กองทัพเรือไม่ได้ส่งกำลังพลติดตามหรือคุกคามตามที่นายเชดแอนดริวเอลวอทอวสกี้และภรรยาให้ข่าวกับสื่อต่างประเทศแต่อย่างใดทั้งสิ้นโดยการดำเนินการทุกอย่างจะเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายกองทัพเรือจึงขอความกรุณาให้ท่านช่วยนำเสนอข้อเท็จจริงดังกล่าวให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไปและหากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมขอความกรุณาติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานโฆษกกองทัพเรือโดยตรง

กองทัพเรือชี้เเจ้งกรณีตั้งถิ่นฐานในทะเลนอกน่านน้ำ