'เซตซีโร่' บอร์ดตลาดหุ้น 'ก.ล.ต.-คลัง' คุมเบ็ดเสร็จ

19 เม.ย. 2562 | 12:23 น.

คอลัมน์ทางออกนอกตำรา ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3463 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 21-24 เม.ย.2652 โดย...บากบั่น บุญเลิศ

 

'เซตซีโร่' บอร์ดตลาดหุ้น

'ก.ล.ต.-คลัง' คุมเบ็ดเสร็จ

 

                ในที่สุดความพยายามในการออกกฎหมายมาทลายป้อมค่ายความเป็นอิสระของ “ตลาดหลักทรัพย์” ก็สัมฤทธิผลเป็นรูปธรรม

                ราชกิจจานุเบกษา ที่ลงประกาศ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2562 เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2562 คือสิ่งที่ทำให้ป้อมค่าย “ตลาดหุ้น” แตกสลาย และแปรเปลี่ยนไปไม่เหมียนเดิม

                สิ่งแรกที่เกิดขึ้น ภายหลังราชกิจจานุเบกษาประกาศใช้กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2562 ทำมันทันที คือ การโละบอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ ชุดปัจจุบันทิ้งหมดยกแผง แล้วทำการ SET ZERO กันใหม่ทั้งหมด...

                กฎหมายเดิม กำหนดว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ให้มีจำนวนทั้งหมด 11 คน ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับการแต่งตั้งจาก “คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จำนวนไม่เกิน 5 คน บุคคลที่ได้รับการเลือกตั้งจากบริษัทสมาชิกจำนวนไม่เกิน 5 คน และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการ 1 คน”

                แต่ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฉบับใหม่ที่ประกาศใช้ในเมษาฯหน้าร้อนตับแลบนั้น... จัดการผ่าตัดรื้อโครงสร้างตลาดหุ้นใหม่ ยึดอำนาจกลับมาที่กระทรวงการคลัง และ ก.ล.ต.แบบเบ็ดเสร็จ เด็ดขาด ห้ามบ่น ห้ามพึมพำในลำคอ...ได้ยินบ่..หึหึ

                ที่บอกว่า เบ็ดเสร็จเด็ดขาดเพราะ “มาตรา 159 กำหนดว่า...ให้คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกอบด้วย บุคคลที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. แต่งตั้งจำนวนไม่เกิน 6 คน และบุคคลที่บริษัทสมาชิกเลือกตั้งอีกจำนวนไม่เกิน 4 คนเป็นกรรมการ และให้ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เป็นกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯโดยตำแหน่ง...

                วรรคต่อมา ให้คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯเลือกกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯคนหนึ่งนอกจากผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯเป็นประธานกรรมการ และจะเลือกกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯอีกคนหนึ่งเป็น รองประธานกรรมการด้วยก็ได้”

                โดยบุคคลที่คณะกรรมการ ก.ล.ต.แต่งตั้งเป็นกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯต้องเป็นผู้มีความรู้และประสบการณ์อันจำเป็นต่อการดำเนินงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ และต้องมาจากรายชื่อที่เสนอโดยนิติบุคคลหรือคณะบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับตลาดทุน กรรมการตลาดหลักทรัพย์จะดำรงตำแหน่งคราวละ 3 ปี เพิ่มขึ้นจากเดิม 2 ปี แต่จะแต่งตั้งหรือเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกิน 2 วาระมิได้”

                “มาตรา 159/1 บุคคลซึ่งคณะกรรมการ ก.ล.ต. แต่งตั้งเป็นกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องเป็นผู้มีความรู้และประสบการณ์อันจำเป็นต่อการดำเนินงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ และต้องมาจากรายชื่อที่เสนอโดยนิติบุคคลหรือคณะบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับตลาดทุน ให้คณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกและแต่งตั้งกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์ฯตามวรรคหนึ่ง โดยอย่างน้อยต้องระบุรายละเอียดเกี่ยวกับความรู้หรือประสบการณ์ อันจำเป็นต่อการดำเนินงานของตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งประเภทหรือลักษณะของนิติบุคคลหรือคณะบุคคล ที่มีความเกี่ยวข้องกับตลาดทุน ซึ่งมีสิทธิเสนอชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับการคัดเลือกและแต่งตั้งเป็นกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ”

                “มาตรา 160/1 ในกรณีที่สมาชิกเห็นว่า การดำเนินงานของตลาดหลักทรัพย์ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญหรือประสบการณ์เฉพาะด้านของบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย สมาชิกอาจเลือกบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทยจำนวนไม่เกิน 2 คน เป็นกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯก็ได้”

                ชัดมั้ย! สัดส่วนที่ ก.ล.ต.มีอำนาจเคยควบคุมกันอยู่ 5:5 ผันแปรมาเป็น 6:4 แบบไม่มีวีโต้อีกต่อไปเหนือกว่านั้น ยังเปิดทางให้เลือก “ต่างชาติ” มาเป็นบอร์ดตลาดหุ้นก็ได้ แต่ขอโทษ...ต้องได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต.

                เหนือไปกว่านั้นอีกก็คือ กฎหมายใหม่ฉบับนี้ “ยึดดาบคืน” จากสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ฯในส่วนที่เป็น “โบรกเกอร์” แทบจะสิ้นฤทธิ์ เพราะในการคัดเลือกกรรมการตลาดหุ้น 4 คนนั้น ไม่จำกัดวงแคบอยู่แค่โบรกเกอร์เหมือนในอดีตอีกต่อไปแล้วขอรับ

                หากแต่กฎหมายใหม่ เปิดทางให้กระบวนการตั้งคณะกรรมการของตลาดหลักทรัพย์ฯเป็นรูปแบบใหม่ ด้วยการกำหนดให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น กลุ่มบริษัทจดทะเบียน, กลุ่มนักลงทุน และกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ให้สามารถเสนอชื่อกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้ ก.ล.ต.แต่งตั้งได้ด้วย

                ริดใบ ตอนกิ่ง โบรกเกอร์ มาเพิ่มสัดส่วน “บจ.กลุ่มนักลงทุน-บลจ.” เข้าไปแชร์ในการทำหน้าที่กำหนดนโยบายตลาดหุ้นแบบเบ็ดเสร็จ

                คราวนี้มาดูการเซตซีโร่...เมื่อพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2562 มีผลบังคับใช้ ตลาดหุ้น และก.ล.ต.จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายในการสรรหาคณะกรรมการของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(บอร์ด) ในรูปแบบใหม่ทันที ภายในระยะเวลา 120 วัน

                หลังจากวันนี้ไป ก.ล.ต.จะร่างหลักเกณฑ์เพื่อคัดเลือกคุณสมบัติองค์กรหรือสถาบันที่มีบทบาทสำคัญต่อตลาดทุน ให้มีสิทธิในการเสนอชื่อบุคคลที่มีคุณสมบัติที่จะเข้ามาเป็นกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ จากนั้นคณะกรรมการของก.ล.ต.จะเป็นผู้คัดเลือกบุคคล อีก 6 รายที่เหลือ และแต่งตั้งให้เป็นกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ

                เมื่อมีการแต่งตั้งคณะกรรมการของตลาดหลักทรัพย์ฯ ชุดใหม่แล้ว จะมีผลทำให้คณะกรรมการชุดเดิมจะต้องสิ้นสุดการดำรงตำแหน่งทันที

                นับจากนี้ไป คณะกรรมการตลาดหุ้น 10 คน ไม่นับ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกอบด้วย “วินนี่เดอะปุ๊” ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ อดีตรักษาการ รมว.คลัง อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็น ประธานกรรมการ “เจ๊อู้-ภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด “เสี่ยนก-จรัมพรโชติกเสถียร” กรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ “เฮียนกหวีด-ชัยภัทร ศรีวิสารวาจา” รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ฯ “ลูกพี่นอ-นรเชษฐ์ แสงรุจิ” กรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ ภัทรฯ

                “เสี่ยปริญญ์ พานิชภักดิ์” กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ซี แอล เอส เอ จำกัด “คุณนายตู่-วรวรรณ ธาราภูมิ” ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด ดร.เสรี นนทสูติ รองกรรมการผู้จัดการ มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาองค์กรภาครัฐ (สพร.) เจ๊อร-อรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ดร.อนุชิต อนุชิตานุกูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ประธานสายพัฒนาระบบงาน ช่องทางขายและผลิตภัณฑ์ธนาคารเกียรตินาคิน จึงเหลือการทำงานแค่ 120 วัน เท่านั้น

                คนที่จะมากำกับดูแลเพื่อพลิกโฉมตลาดหุ้นไทยหลังจากนี้ไป “หน้าใหม่” แค่ไหนหรือเหล้าใหม่ในขวดเก่า...ชวนติดตามการทำงานของ คณะกรรมการ ก.ล.ต.ที่มี “วรวิทย์ จำปีรัตน์” เป็นประธาน ประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นรองประธาน บุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท.สราวุธ เบญจกุล หยกพร ตันติเศวตรัตน์ วิพุธ อ่องสกุล โดยมี เจ๊แป๋ว-รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต.คอยคัดท้าย...เป็นนายเรือ

                การคุมตลาดหุ้นแบบเบ็ดเสร็จของก.ล.ต.ยังไม่จบ...ไว้ฉบับหน้าผมจะพามาดู...การคุมจนอยู่หมัด!