“มิ่งขวัญ”ย้ำไม่ร่วมพปชร. อ้างอุดมการณ์ต่างกัน

19 เม.ย. 2562 | 07:45 น.

“มิ่งขวัญ”ยันไม่ร่วมตั้งรัฐบาลกับ “พปชร.”อ้างอุดมการณ์การเมืองต่างกัน  ปฎิเสธมีบุคคลภายนอกครอบงำพรรค

  “มิ่งขวัญ”ย้ำไม่ร่วมพปชร. อ้างอุดมการณ์ต่างกัน

เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น.วันที่ 19 เม.ย.62 นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรค , นายสุภดิช อากาศฤกษ์ รองหัวหน้า และผู้ร่วมก่อตั้งพรรค พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรคเศรษฐกิจใหม่ ร่วมแถลงข่าวกรณีถูกผู้สมัครของพรรค ยื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยุบพรรคตัวเอง อ้างว่าถูกครอบงำจากบุคคลภายนอก

 

นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ขอยืนยันว่าสถานภาพของตน คือ เป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ส่วนนายสุภดิช เป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรค และเป็นหัวหน้าพรรคคนแรก ซึ่งนายสุภดิชเชิญตนมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ซึ่งตนยอมรับเงื่อนไข เพราะให้อิสระในการเขียนนโยบาย ซึ่งตนอยากทำเรื่องเศรษฐกิจ จึงเข้าร่วมกับทางพรรค นอกจากนี้นายสุภดิชบอกว่าตนมีชื่อเสียง จะเสนอเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีของพรรคเพียงคนเดียว และจากนั้นก็ให้ตนเป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งจริงๆตนไม่ได้อยากเป็นหัวหน้าพรรคอะไรทั้งนั้น เพียงแต่เงื่อนไขและอุดมการณ์ตรงกัน จึงยอมรับ

 

นายมิ่งขวัญ กล่าวอีกว่า ก่อนเป็นหัวหน้าพรรค ตนได้หารือกับนายสุภดิช โดยตนบอกว่าการบริหารจัดการภายในพรรค ขอแบ่งเป็นปีกซ้ายและปีกขวา โดยปีกหนึ่ง คือ การออกนโยบาย ออกพบมวลชน ตนจะอยู่ฝั่งนี้ ส่วนการบริหารกิจการภายใน การคัดเลือกผู้สมัคร มอบให้ทีมของนายสุภดิช ดำเนินการ สรุปคือตนออกดีเบต ออกหาเสียงโดยภาพรวม ส่วนทีมของนายสุภดิช บริหารจัดการภายในพรรค เรื่องนี้จะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือไม่ ผมไม่ทราบ ตอบไม่ได้ จะไปสืบสวนราวเรื่องก็ไม่ใช่หน้าที่ เพราะเป็นหน้าที่ของ กกต.

 

เมื่อถามว่า พรรคเศรษฐกิจใหม่จะไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ตนไม่ไปร่วม เพราะว่าได้มีการออกแถลงออกไปแล้วก่อนหน้านี้แล้ว อย่างไรก็ตามตนไม่ได้มีความรังเกียจ โกรธ พรรคพลังประชารัฐ เพราะถือเป็นคนรู้จักในวงการ แต่อุดมการณ์ทางการเมืองต่างกัน คิดไม่เหมือนกัน และการที่ทุกคนบอกมีงูเห่าในพรรค มีการเปลี่ยนแปลง และอยู่ระหว่างการเจรจากับพรรคพลังประชารัฐ  ตนยืนยันว่าไม่มี และไม่เข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ  รวมถึงไม่ร่วมโหวตชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ต่อ และจะยังอยู่กับพรรคเพื่อไทย ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

ด้านนายสุภดิช กล่าวว่า พรรคเศรษฐกิจใหม่ก่อตั้งขึ้นจากกลุ่มเพื่อนสนิท ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นพูดตรงๆคือช่วยๆกันออก ส่วนที่ที่เชิญนายมิ่งขวัญมาร่วมและเป็นหัวหน้าพรรค เพราะเห็นว่ายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพิสูจน์แล้วว่ามีความซื่อสัตย์สุจริต มีแนวคิดเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งพรรคแทบไม่มี เงินสนับสนุน ไม่มีการปราศรัย ไม่มีรถแห่ การหาเสียงเกิดจากการใช้เวทีดีเบตต่างๆ

 

นายสุภดิช กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องที่มีผู้สมัครของพรรคไปยื่นยุบพรรคอ้างว่าไม่มีการจัดประชุม และมีบุคคลภายนอกครอบงำนั้น ตอบง่ายๆว่าเรามีการจัดการประชุมผู้สมัคร ส.ส. นายมิ่งขวัญก็ถูกเชิญไปอบรมเป็นภาคๆ สิ่งที่มีผู้ไปยื่น กกต.ไม่เป็นความจริง

 

“การอ้างว่ามีบุคคลภายนอกครอบงำพรรคก็ไม่จริง คนที่ถูกกล่าวอ้างคือเพื่อนสนิทของผม และเป็นคนที่ร่วมก่อตั้งพรรค เป็นสมาชิกพรรคด้วย พี่ชายของเขาก็เป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของเราด้วย และการที่ผู้ไปยื่นทำผิดข้อบังคับพรรค เราขอดูกฎหมายเพื่อดำเนินการต่อไป” นายสุภดิช กล่าว

 

ส่วนโฆษกพรรคเศรษฐกิจใหม่ กล่าวว่า มี2 ประเด็นที่ผู้สมัครไปยื่น กกต.ยุบพรรคตัวเอง คือ 1.หลังจากไปยื่นแล้ว ปรากฏว่าช่วงบ่ายวันนั้นมีสมาชิก 3 ราย ที่มีรายชื่อเป็นพยานในเอกสารที่ยื่นให้ กกต. ได้ยื่นขอถอนชื่อจากการเป็นพยานแล้ว เพราะไม่ทราบที่มาที่ไปว่าการไป กกต.เพราะจะไปเรื่องการยุบพรรคตัวเอง 2.เจ้าของบ้านที่ถูกอ้างในเอกสารได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้แล้วว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว

“มิ่งขวัญ”ย้ำไม่ร่วมพปชร. อ้างอุดมการณ์ต่างกัน