Who am I? นายทุนสุทัศน์ดับ”เจ๊มิ่ง

18 เม.ย. 2562 | 11:07 น.

     อุ๊ยตาย..อกอีแป้นจะแตก ตะลึงพรึงเพริศไปตามๆกันเมื่อ น.ส.อุลัยพร ไตรวงศ์ย้อย ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 จังหวัดสกลนคร พรรคเศรษฐกิจใหม่ พร้อมพวกประกอบด้วย นายประยงค์ สร้างศรีหา และ นายคมกฤษ สุภักดี เข้ายื่นเรื่องต่อประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ยุบพรรคเศรษฐกิจใหม่ ที่มี”เจ๊มิ่ง-มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์”เป็นหัวหน้าพรรค
     ผู้สมัครพรรคเศรษฐกิจใหม่ ได้ร้องขอให้กกต.พิจารณาระงับการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.พรรค เนื่องจากมีการครอบงำพรรคการเมืองจากบุคคลภายนอก ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92(3) ประกอบมาตรา 28 มาตรา 29 และมาตรา 30

Who am I? นายทุนสุทัศน์ดับ”เจ๊มิ่ง
    หนังสือร้องเรียนระบุว่า เนื่องด้วยวันที่ 28-30 ม.ค.2562 พรรคเศรษฐกิจใหม่ ได้จัดให้มีการถ่ายรูปผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งทั่วประเทศ 350 เขต พร้อมให้เงินค่าสมัครคนละ 15,000 บาท โดยนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ได้แถลงว่า เมื่อผู้สมัครฯ ได้รับการรับรองจาก กกต.ประจำจังหวัดแล้ว จะนัดประชุมอีกครั้ง เพื่อแนะนำแนวทางปฏิบัติ ต่อมาวันที่ 15 ก.พ.2562 หลังจาก กกต.ประจำจังหวัดประกาศรับรองแล้ว พรรคเศรษฐกิจใหม่ก็ไม่ได้มีการจัดประชุมตามที่ได้แถลงกับผู้สมัครฯ ไว้จนถึงวันเลือกตั้ง
     ต่อมาผู้สมัครได้สืบทราบมาว่า การที่นายมิ่งขวัญ ไม่ได้นัดประชุมผู้สมัคร เป็นเพราะนายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ กรรมการบริษัทไทยวัฒนา แอสเซ็ท จำกัด พร้อมพวก ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค ได้บงการควบคุม ครอบงำ ชี้นำพรรค ไม่ให้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอย่างเป็นอิสระ เช่น การสนับสนุนงบหาเสียงของผู้สมัคร การจัดทำป้ายหาเสียง รวมถึงจัดตั้งแกนนำต่างๆ เกิดจากการกระทำของนายสุทัศน์ทั้งสิ้น

     การที่มีบุคคลภายนอกที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคบงการ ควบคุม ครอบงำ ชี้นำพรรค มิให้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอย่างอิสระ ซึ่งขัดต่อกฎหมาย ทำให้เส้นทางการเมืองของพรรคเศรษฐกิจใหม่จึงยืนอยู่บนหุบเหว       เพราะข้อร้องเรียนต่อกกต.ของสมาชิกพรรคนั้นแต่ละข้อ “ยุบพรรค” ทั้งสิ้น

     กล่าวคือ มาตรา 28 “ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม”
     มาตรา 29 “ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม”


     มาตรา 30 “ห้ามมิให้พรรคการเมืองหรือผู้ใดให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงินทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อมเพื่อจูงใจให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดสมัครเข้าเป็นสมาชิก ทั้งนี้ เว้นแต่สิทธิหรือประโยชน์ซึ่งบุคคลจะพึงได้รับในฐานะที่เป็นสมาชิก”
     พฤติกรรมแบบนี้ตาม มาตรา 92 ระบุว่า “เมื่อคณะกรรมการมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น
     (1) กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
     (2) กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
     (3) กระทำการฝ่าฝืนมาตรา 20 วรรคสอง มาตรา 28 มาตรา 30 มาตรา 36 มาตรา 44 มาตรา 45 มาตรา 46 มาตรา 72 หรือมาตรา 74
     อัยหยา! ยุ่งละสิเจ๊ คะแนนเสียงที่ได้มาพร้อมกับจำนวนปาร์ตี้ลิสต์รวม 6 คน ประกอบด้วย 1.”เจ๊มิ่ง” 2.สุภดิช อากาศฤกษ์ 3.นิยม วิวรรธนดิฐกุล 4.ภาสกร เงินเจริญกุล 5.มนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ 6.มารศรี ขจรเรืองโรจน์ อาจหลุยลอยไปจากการเป็นสมาชิกรัฐสภา 500 คน ถ้าหากหลักฐานผูกมัด
     อย่างไรก็ตาม เกิดคำถามมากมายว่า นายทุนพรรคที่ชื่อ สุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ กรรมการบริษัทไทยวัฒนา แอสเซ็ท จำกัด พร้อมพวก 4 คน  ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค ได้บงการควบคุม ครอบงำ ชี้นำพรรค ไม่ให้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอย่างเป็นอิสระนั้น เป็นใคร ทำไมถึงมีบารมีเหนือพรรคและเจ๊มิ่ง
     ค้นไปค้นมาข้อมูลที่เกี่ยวพันสะท้อนถึงบารมีและเงินในกระเป๋าของ สุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ พบแค่ 5 เรื่อง
     เรื่องแรก นายสุทัศน์ เข้าไปเกี่ยวพันกับการซื้อที่ดินที่เกาะลันตาใหญ่ 53 ไร่วงเงิน 100 ล้านบาท แล้วถูกเรียเงินปากถุง 20 ล้านบาท จึงร้องกับป.ป.ช.และในวันที่ 18 ก.ค.2559 พ.ต.อ.อิทธิพล กิจสุวรรณ ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่ง ชาติ (ป.ป.ช.) พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ บุญแก้ว ผกก.สภ.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ พร้อมชุดสืบสวน เข้าจับกุมนายอนุสรณ์ หวังผล อายุ 49 ปี รองนายก อบต.เกาะลันตาใหญ่ ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิ พร้อมของกลาง 6 รายการ เงินสด 2 ล้านบาท ถุงกระดาษ 1 ถุง มือถือ 2 เครื่อง และเช็ค 3 ฉบับ วงเงิน 18 ล้านบาท

     เหตุเกิดจาก นายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ กรรมการบริษัทไทยวัฒนา แอสเซ็ท จำกัด เข้าแจ้งเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ว่า ได้ซื้อที่ดินจากนางวราภรณ์ หัวเถาลม ผู้จัดการมรดกของนายหมีด กสิกุล จำนวน 2 แปลง เนื้อที่ 53 ไร่ มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท ต่อมามีเจ้าหน้าที่รัฐคือนายอนุสรณ์ รองนายก อบต.เกาะลันตาใหญ่ กับพวกได้เรียกเงินจากนายสุทัศน์ 20 ล้านบาท โดยอ้างว่าที่ดินตามโฉนดทั้ง 2 แปลง อยู่ในพื้นที่สาธารณประโยชน์ หรือที่ นสล. (หนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง) จะต้องมีการรังวัดชี้แนวเขตกันใหม่ หากไม่จ่ายเงิน 20 ล้านบาท นายอนุสรณ์ กับพวกจะรังวัดชี้แนวเขตว่า ที่ดินอยู่ในเขตพื้นที่สาธารณประโยชน์ ซึ่งจะมีผลต่อการออกโฉนด

     จากนั้นนัดหมายมอบเงินที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.เมืองกระบี่ และให้เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมพร้อมของกลาง
     เรื่องต่อมา นายสุทัศน์ เข้าไปเกี่ยวพันกับเรื่องการนำเข้ารถหรูราคาแพงและเลี่ยงการจ่ายภาษี เรื่องแดงขึ้นเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2559 นายวิชัย มากวัฒนสุข ผู้อำนวยการส่วนคดีแพ่งและคดีปกครอง ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมศุลกากร ได้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการกองข้อมูลธุรกิจ เพื่อขอให้ระงับการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีและระงับการขีดชื่อออกจากทะเบียนนิติบุคคล 47 รายโดยให้เหตุผลว่า “เพื่อประโยชน์แก่ทางราชการในการติดตามหนี้ค่าภาษีอากรจากนิติบุคคลดังกล่าว”
     2 บริษัท ใน 47 บริษัท ที่กรมศุลกากรส่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าระงับรับจดทะเบียน คือบริษัท จูบิลี่ไลน์ จำกัด กับ บริษัท เมก้า เวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่มีนายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

     เรื่องที่สาม ที่สะท้อนบารมีของนายสุทัศน์ว่าใหญ่จริงแค่ไหนจึงชี้นำบงการพรรคเศรษฐกิจใหม่ที่มีนายสุภกิจ อากาศฤกษ์ เคยเป็นหัวหน้าพรรค ก่อนส่งมอบให้เจ๊มิ่งนำทัพ พบว่า นายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ เป็น 1 ในกลุ่มผู้ถือหุ้น KC พร็อพเพอร์ตี้ ที่ติดดอย โดยถือหุ้นอยู่ 1.68% คิดเป็นเงิน 14.7 ล้านบาท
     เรื่องที่สี่ เมื่อตรวจสอบไปในชื่อนายสุทัศน์  สิวาภิรมย์รัตน์ พบว่ามีตำแหน่งเป็น เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุและผู้พิการ เมื่อปี 2555 ในชุดที่มี น.ส.อรุณี  ช านาญยา เป็นประธานคณะกรรมาธิการ  นางสาวปาริชาติ  ชาลีเครือ เป็นรองประธานฯ คนที่หนึ่ง นายยุรนันท์ ภมรมนตรี เป็นรองประธานฯ คนที่สอง นางสาวพัชรี โพธสุธน รองประธานฯ คนที่สาม นางโสภา  กาญจนะ รองประธานฯ คนที่สี่  และนายพลภูมิ  วิภัติภูมิประเทศ เป็นเลขานุการ
    เรื่องที่ห้า นายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ เป็นกรรมการบริษัท ไทยวัฒนา แอสเศ็ท จำกัด ที่ทำธุรกิจซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ มีรายได้ 3 ปี 2559-2561 เป็นศูนย์ แต่พิลึกมีทรัพย์สินหมุนเวียน 89-100 ล้านบาท และมีญาติ คือ มนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ อยู่ในบัญชีรายชื่อพรรคเศรษฐกิจใหม่ คนที่ 5

    นายทุนสุทัศน์ ผู้ถูกกล่าวหาว่าบงการ ชี้นำพรรคเศรษฐกิจใหม่ ใหญ่คับพรรคที่ตั้งขึ้นไม่นานนักแต่ได้คะแนนมาอื้อซ่า จะจริงหรือไม่!

     นายทุนสุทัศน์ Who am I? จะล้มคว่ำใส่พรรคเศรษฐกิจใหม่ได้หรือไม่

     ชวนติดตามยิ่งนัก!

Who am I? นายทุนสุทัศน์ดับ”เจ๊มิ่ง