เตือน!! อย่าใช้ "ความเงียบ" แก้ปัญหา

14 เม.ย. 2562 | 01:48 น.


จิตแพทย์ห่วงครอบครัวป้ายแดง ย้ำเตือน!! อย่าใช้ "ความเงียบแก้ปัญหา ชี้!! ยิ่งทำให้ความกดดันสะสม พร้อมระเบิด!!

 

เตือน!! อย่าใช้ "ความเงียบ" แก้ปัญหา           

 

วันที่ 14 เมษายน เป็น "วันครอบครัว" สถิติล่าสุด ปี 2560 ไทยมีคู่รักจดทะเบียนสมรสเป็นครอบครัวใหม่เกือบ 3 แสนคู่ เฉลี่ยวันละ 815 คู่ จิตแพทย์แนะใช้ 2 หลักครองเรือน ถนอมรักยั่งยืน ครอบครัวใหม่เข้มแข็ง ให้ซื่อสัตย์ไว้วางใจกัน ไม่ก้าวก่ายพื้นที่ส่วนตัวกัน เปิดใจรับฟังความเห็นต่าง ย้ำเตือนอย่าใช้ความเงียบแก้ปัญหาครอบครัว ชี้ยิ่งส่งผลร้าย ทำให้สะสมความกดดัน พร้อมระเบิดได้ทุกเมื่อ และไม่ใช้ถ้อยคำที่ท้าทายกันด้วยอารมณ์ หรือ ทิฐิ ทำให้ความสัมพันธ์เปราะบาง แตกหักง่าย

นายแพทย์กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการ รพ.จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ จ.นครราชสีมา ให้สัมภาษณ์ว่า วันที่ 14 เมษายนทุกปี เป็นวันครอบครัว ซึ่งครอบครัวนั้นเป็นระบบสังคมที่เล็กที่สุดของมนุษย์ เป็นสถาบันแรกที่มีความสำคัญมากในการพัฒนาคุณภาพประชากรไทยในอนาคต เพื่อให้สังคมไทยเจริญก้าวหน้า ประชาชนทุกคนมีความสุข ซึ่งขณะนี้ แนวโน้มจำนวนเด็กเกิดใหม่ของไทยลดลงเรื่อย ๆ ข้อมูลกระทรวงสาธารณสุขรายงานในปี 2560 มีเด็กเกิดใหม่ทั่วประเทศ เฉลี่ยนาทีละ 1.2 คน ลดลงกว่าปี 2556 ที่เกิดเฉลี่ยนาทีละ 1.4 คน และข้อมูลของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย รายงานล่าสุด ในปี 2560 มีผู้จดทะเบียนสมรสทั่วประเทศ 297,501 คู่ เฉลี่ยวันละ 815 คู่ โดย 3 จังหวัด ที่มีสถิติการจดทะเบียนสมรสมากที่สุดในประเทศ อันดับ 1 คือ กทม. 45,577 คู่ รองลงมา คือ ชลบุรี 15,795 คู่ และนครราชสีมา 10,741 คู่

สิ่งสำคัญที่จะทำให้คน 2 คน ที่มาจากต่างครอบครัว ต่างการเลี้ยงดูกัน มาใช้ชีวิตคู่ร่วมกันอย่างมีความสุขและยืนยาวได้นั้น ทั้ง 2 ฝ่าย จะต้องร่วมมือกันเรียนรู้ ยอมรับซึ่งกันและกัน และปรับตัวเข้าหากัน ซึ่งเป็นพื้นฐานของการใช้ชีวิตคู่ วิธีการที่จะทำให้ครอบครัวมีความมั่นคงและอบอุ่น ไม่มีความขัดแย้งทางความคิดและอารมณ์ มีคำแนะนำให้คู่สมรสใหม่ยึดหลักการครองเรือน 2 ประการ ประการแรก คือ การใช้กฎหลักครอบครัว ได้แก่ 1.ช่วยกันแบ่งเบาภาระในบ้าน ให้รู้หน้าที่ตนเอง 2.บริหารจัดสรรการเงินแต่ละส่วน เช่น เงินออม เงินใช้จ่ายรายวัน ใช้ในยามฉุกเฉิน และกำหนดคนรับผิดชอบ 3.ใส่ใจให้เวลากับครอบครัว ดูแลซึ่งกันและกัน 4.ช่วยกันแก้ปัญหา และ 5.ห้ามทำร้ายร่างกายกันยามโกรธ หรือ ทะเลาะกัน โดยเด็ดขาด

ประการที่ 2 คือ การส่งเสริมให้ความรักมีความหวานชื่นและมั่นคง มี 8 ข้อ ได้แก่ 1.ให้ยึดสัญญาใจและทำตามกฎหลักครอบครัว 2.ชื่นชมเมื่อทำดี ใช้คำขอบคุณและขอโทษให้เป็นนิสัย 3.ทำบ้านให้รื่นรมย์ คือ ทั้งที่พักใจและให้ความอบอุ่น 4.ซื่อสัตย์และไว้วางใจกัน 5.ให้เกียรติและไม่ก้าวก่ายพื้นที่ส่วนตัวของกันและกัน 6.ไม่ควรคาดหวังว่าอีกฝ่ายจะต้องรู้ใจเราเสมอไป 7.คิดว่าครอบครัวของเขา คือ ครอบครัวของเราด้วย และ 8.เปิดใจรับฟังกัน ยอมรับความเห็นต่าง

 

เตือน!! อย่าใช้ "ความเงียบ" แก้ปัญหา

 

"เมื่อมีปัญหาครอบครัว วิธีการแก้ที่ไม่ควรนำมาใช้อย่างยิ่ง คือ ความเงียบ ซึ่งหลายคนยังเข้าใจผิดคิดว่าได้ผลดี แต่ข้อเท็จจริงนั้น วิธีการนี้เปรียบเสมือนเป็นการหนีปัญหา เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้รับการแก้ไขให้คลี่คลาย ยิ่งจะทำให้ปัญหาเกิดการสะสม เสมือนหมกปัญหาไว้ มีความเก็บกดและกดดันในใจมากขึ้น อาจระเบิดได้ตลอดเวลา เมื่อมีสถานการณ์มากระตุ้น วิธีการที่ดีที่สุด ควรหันหน้าเข้าหากัน แม้จะโกรธหรือใช้อารมณ์โต้เถียงกัน แต่ก็นำไปสู่การแก้ปัญหานั้น ๆ ได้" นายแพทย์กิตต์กวี กล่าว

นอกจากนี้ เรื่องใกล้ตัวที่สุดที่ทุกครอบครัวควรให้ความใส่ใจ ก็คือ การสื่อสารพูดคุยกัน การสื่อสารทางบวกถือว่าเป็นกุญแจสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างสามี-ภรรยา ไม่ควรใช้ถ้อยคำในลักษณะท้าทายกันด้วยอารมณ์ หรือ ทิฐิ ที่ได้ยินได้บ่อยในสังคมไทย เช่น ถ้าแน่จริงก็เก็บของออกไปเลย, พูดแบบนี้ก็เลิกกันไปดีกว่า, เงียบไปเลย, ก็เป็นซะแบบนี้ถึงได้ดักดานอยู่แบบนี้, ถ้าฉันแต่งงานกับแฟนเก่า ป่านนี้คงสบายไปแล้ว, ที่มีปัญหาอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะแกนี่แหละ เป็นต้น รวมทั้งการพูดเชิงดูถูกเหยียดหยามพ่อแม่ญาติพี่น้องอีกฝ่าย คำพูดที่กล่าวมานี้จะเสียดแทงบั่นทอนจิตใจอารมณ์ความรู้สึก จะทำให้ความสัมพันธ์เปราะบางลง แตกหักได้ง่ายขึ้น และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการหย่าร้างกัน