TKN ขนทัพสาหร่ายบุกแดนอิเหนา

“เถ้าแก่น้อย” เปิดเกมรุกตลาดสาหร่ายปรุงรสเต็มสูบ หลังส่ง “สาหร่ายเทมปุระไข่เค็ม” หลังชิมลางตลาด 6 เดือนแรกกวาดยอดทะลุ 2 ล้านซอง พร้อมส่งออกเจาะตลาดอินโดฯ วางเป้าสิ้นปีกำรายได้ตระกูลสาหร่ายเทมปุระ 80 ล้านบาท

นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนงานขยายตลาดผลิตภัณฑ์เถ้าแก่น้อยในรูปแบบต่างๆออกมารุกตลาดทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ที่ 1 หมื่นล้านบาทในปี 2567 และล่าสุดหลังจากที่บริษัทเปิดได้เปิดตัว “เถ้าแก่น้อยสาหร่ายเทมปุระไข่เค็ม” เป็นอีกหนึ่งสินค้าหลักในการทำตลาด โดยเริ่มลองวางจำหน่ายเมื่อปลายปีที่ผ่านมา พร้อมกับมียอดขาย 2 ล้านซองทั่วโลก ภายในระยะเวลาแค่ 6 เดือน

                                                                   อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์

ล่าสุดบริษัทได้เตรียมขายเข้าไปในตลาดอินโดนีเซีย หลังจากประสบความสำเร็จในประเทศจีน มาเลเซีย ฮ่องกง สิงคโปร์ กัมพูชา เวียดนาม ขณะที่ในส่วนของการทำตลาดในประเทศปีนี้ได้เปิดตัวโปรโมชันพิเศษฉลองยอดขาย 2 ล้านซองกับโปรโมชันสาหร่ายเทมปุระไข่เค็ม ขนาด 25 กรัม ราคา 25 บาท จากปกติราคา 39 บาท ตั้งแต่วันนี้-พฤษภาคม 2562 โดยตั้งเป้าหมายที่จะมียอดขายเถ้าแก่น้อยสาหร่ายเทมปุระไข่เค็มในประเทศไทยสิ้นปีนี้ไว้ที่ 50 ล้านบาท และเติบโตเพิ่มขึ้น 183% พร้อมกันนี้ยังวางเป้าหมายยอดขายสาหร่ายเทมปุระในประเทศไทย 80 ล้านบาทในสิ้นปีนี้

ทั้งนี้บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของตลาดในประเทศ 10% และต่างประเทศอีก 10% จากปีที่ผ่านมาที่สามารถปิดรายได้ 5,663 ล้านบาท เติบโต 8% จากปี 2560 แบ่งเป็นการเติบโตในประเทศ 7% หรือคิดเป็นรายได้ 3,442 ล้านบาท และต่างประเทศเติบโต 8% หรือคิดเป็นรายได้ 2,221 ล้านบาท ซึ่งจีนถือเป็นตลาดหลักของบริษัทในต่างประเทศและสามารถปิดรายได้ 2,195 ล้านบาท เติบโต 5%

สำหรับตลาดสาหร่ายปรุงรสในปีที่ผ่านมามีมูลค่าตลาดรวม 3,032 ล้านบาท เติบโต 5.2% โดย “เถ้าแก่น้อย” เป็นผู้นำตลาด ด้วยส่วนแบ่งตลาด 69% ประกอบไปด้วยสาหร่ายประเภททอด อบ ย่าง และเทมปุระ ซึ่งสาหร่ายเทมปุระถือเป็นกลุ่มน้องใหม่ของตลาดสาหร่ายมีสัดส่วนประมาณ 1% ซึ่งในปีที่ผ่านมาพบว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศทำให้มีการเติบโต 134% เมื่อเทียบกับปี 2560 

หน้า 24 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3462 ระหว่างวันที่ 18-20 เมษายน 2562