‘ดันน์ฮัมบี้’เผยผลวิจัยคนไทย เห่อช็อป FMCG ในร้านสะดวกซื้อ

ดันน์ฮัมบี้ เผยพฤติกรรม นักช็อปไทยเห่อใช้ร้านสะดวกซื้อเพิ่ม เหตุสะดวก สบาย ขณะที่กลุ่มค้าปลีกเร่งปรับโซนอาหาร รับไลฟ์สไตล์นักชิม เผยแผนธุรกิจเตรียมเจาะกลุ่มเอสเอ็มอีเพิ่ม 50 ราย แนะใช้กลยุทธ์ออมนิ แชนเนลบาลานซ์ออนไลน์-ออฟไลน์

ในยุคที่ผู้บริโภคมีความเฉลียวฉลาดมากขึ้นและคอยมองหาคุณค่าที่เพิ่มเข้ามาของสินค้าหรือบริการอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชันการทำงานที่เหนือกว่า หรือการสรรหาสิ่งที่จะตอบโจทย์และสอดคล้องกับค่านิยมของผู้บริโภคได้ เช่นเดียวกับเทรนด์ที่เห็นได้อย่างชัดเจนในหลายตลาดคือ การขยายตัวของ สังคมเมือง (urbanization) และการเปิดรับต่อเทคโนโลยีใหม่ที่มาพร้อมกับการเข้าถึงของสมาร์ทโฟน หรืออินเตอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทำให้เกิดความต้องการด้านความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้น

ขณะที่ผู้บริโภคในประเทศไทย ของเมืองที่มีขนาดกลาง มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหรือมากกว่า 62% ในปี 2558-2568 อีกทั้งที่ผ่านมายังพบว่าผู้บริโภคในประเทศไทยยังมีพฤติกรรมการจับจ่ายซื้อสินค้ามากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หรือสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปในชีวิตประจำวัน (Fast Moving Consumer Goods : FMCG) ที่ผู้บริโภคมักเลือกซื้อสินค้าผ่านทางร้านสะดวกซื้อ (คอนวีเนียนสโตร์) มากขึ้น

นายธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ ประธานกรรมการฝ่ายมีเดีย บริษัท ดันน์ฮัมบี้ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทวิจัยการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากผลสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในไตรมาส 1 ที่ผ่านมาพบว่ามีอัตราการซื้อสินค้าผ่านช่องทางคอนวีเนียนสโตร์ในแต่ละครั้งมียอดการซื้อสินค้าลดลง 3-5% แต่มีความถี่ในการมาใช้บริการ 4 ครั้งต่อเดือนต่อคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ที่มีความถี่ 3 ครั้งต่อเดือนต่อคน และเมื่อเฉลี่ยแล้ว จะพบว่ามียอดใช้จ่ายการซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นราว 5-10%

“ผู้บริโภคคนไทยชื่นชอบความสะดวกสบาย และความรวดเร็ว ดังนั้นจึงส่งผลให้เทรนด์การจับจ่ายใช้สอยผ่านช่องทางคอนวีเนียนสโตร์เพิ่มมากขึ้น ที่ผ่านมาดันน์ฮัมบี้พบว่าผู้บริโภคไทยในปัจจุบันยังคงตัดสินใจซื้อสินค้ากลุ่ม FMCG ผ่านช่องทางออฟไลน์ หรือห้างค้าปลีกจำนวนมากโดยกว่า 76% ตัดสินใจซื้อจากสื่อ ณ จุดขาย ขณะที่ช่องทางออนไลน์ผู้บริโภคจะเลือกใช้วิธีการค้นหาข้อมูลสินค้า และเลือกนำเครื่องมือออนไลน์มา เป็นองค์ประกอบในการซื้อเท่านั้น”

ขณะเดียวกันที่ผ่านมาดันน์ฮัมบี้ยังพบว่าค้าปลีกหลายแห่งเริ่มขยายหรือเพิ่มพื้นที่โซนของ Foods Now Corner มากขึ้นเพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารจานด่วนมากขึ้นทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

ทั้งนี้จากภาพรวมของสื่อ ณ จุดขาย ซึ่งอยู่ในเทสโก้ โลตัสทั่วประเทศ พบว่า ปัจจุบันมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 29% และในปีนี้จากการขยายสาขาของเทสโก้ โลตัสที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ภาพรวมรายได้ของดันน์ฮัมบี้ปีนี้เติบโตไม่ตํ่ากว่า 30% พร้อมทั้งบริษัทได้วางแผนการตลาดเพิ่มฐานลูกค้าใหม่มากขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มแบรนด์ขนาดเล็ก เช่น กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี จนถึงระดับกลางเนื่องจากบริษัทมองว่ากลุ่มแบรนด์ขนาดเล็กยังขาดความเข้าใจว่าการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคมาจากปัจจัยหลายด้านทั้งในรูปแบบของออนไลน์และออฟไลน์ โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายที่จะมีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น 50 ราย จากในอดีตบริษัทจะเน้นเพียงแค่กลุ่มแบรนด์ระดับกลาง-ใหญ่ซึ่งมีอยู่ราว 300 ราย

“ที่ผ่านมาอยากให้นักการตลาดทำความเข้าใจเรื่องการทำตลาด รูปแบบ Omni Channel หรือ การจัดหาความสมดุลในการวางแผนการตลาด เช่นเดียวกับดันน์ฮัมบี้ ที่ ผ่านมาก็เลือกใช้กลยุทธ์นี้ ไม่อยาก ให้มุ่งไปที่ออนไลน์ทั้งหมด แต่อยากให้ทุกแบรนด์ให้ความสำคัญกับข้อมูลของแต่ละแบรนด์ให้ดี เพราะทุก Data จะทำให้ทุกแบรนด์สามารถวิเคราะห์ข้อมูลดัง กล่าว รวมถึงหาจุดสมดุลของการวาง แผน การตลาดของแต่ละแบรนด์ได้” 

หน้า 24 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3462 ระหว่างวันที่ 18-20 เมษายน 2562