ผวาเลวร้ายสุด ส่งออกไทยโตตํ่า3% 3 ปัจจัยลบตามหลอน !!
สรท.ชี้กรณีเลวร้ายสุด ส่งออกไทยปี 62 อาจโตตํ่ากว่า 3% หากไตรมาส 2 ตัวเลขยังติดลบ ผวาสัญญาณจากส่งออกจีนเดือนมกราคมติดลบ 10% และเกินดุลการค้าลดลง กระทบนำเข้าจากไทยวูบ ขณะทีดีอาร์ไอชี้ความเป็นไปได้ 3 ทาง สงครามการค้ายื้อต่อ
จากที่หลายสถาบันได้ออกมาปรับลดคาดการณ์การส่งออกของไทยในปี 2562 ลง เช่น สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ปรับลดคาดการณ์มูลค่าการส่งออก(รูปดอลลาร์สหรัฐฯ) ทั้งปีลงจาก 5% เหลือ 3%, คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)ปรับลดจาก 5-7% เหลือ 3-5% และEconomic Intelligence Center(EIC) ของธนาคารไทยพาณิชย์จาก 3.4% เหลือ 2.7% ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของไทยจะขยายตัวไม่ถึง 4%
ในปีนี้นั้น
นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธาน สรท. เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การปรับลดคาดการณ์ส่งออกของไทยลงเหลือ 3% ปีนี้ได้พิจารณาจากหลายปัจจัย ที่สำคัญคือ สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนที่ยังยืดเยื้อ ซึ่งส่งผลกระทบทางอ้อมต่อภาคส่งออกของไทย จากสินค้าส่งออกของจีนไปสหรัฐฯมีกำแพงภาษี 10-25% ทำให้จีนส่งออกไปสหรัฐฯได้ลดลง กระทบต่อการส่งออกสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูปของไทยไปจีนเพื่อผลิตสินค้าสำเร็จรูปส่งออกไปสหรัฐฯได้ลดลง (2 เดือนแรกปีนี้การส่งออกไทยไปจีนติดลบ 9.2%)
ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF)คาดการณ์จีดีพีจีนซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯในปีนี้จะขยายตัวลดลงเหลือ 6.3% จากปีที่แล้วขยายตัว 6.5% ส่วนจีดีพีสหรัฐฯจากขยายตัว 3% ในปีที่ผ่านมาจะลดเหลือ 2.1% ในปีนี้ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบจากสงครามการค้าทำให้สินค้านำเข้าจากจีนมีราคาสูงผู้บริโภคชะลอซื้อ ส่งผลให้จีดีพีโลกจะลดลงจาก 3.5% ในปีที่ผ่านมาเหลือ 3.3% ในปีนี้
ปัจจัยต่อมาคือ ราคาสินค้าเกษตรในประเทศของไทย และราคาส่งออกหลายรายการยังไม่ดี เช่น ยางพารา นํ้าตาล ทำให้มูลค่าส่งออกลดลง ในสินค้าข้าวส่งออกได้ลดลงในตลาดหลักเช่น แอฟริกา ผลจากจีนเทขายข้าวส่วนเกินในสต๊อกแย่งตลาดข้าวไทยไปได้จำนวนมาก และเงินบาทที่ยังมีทิศทางแข็งค่ากระทบต่อความสามารถในการแข่งขันส่งออกของผู้ประกอบการไทย ซึ่งจากการประชุมหารือกับหลายกลุ่มสินค้าที่เป็นสมาชิกของ สรท.อาจจะต้องปรับลดเป้าหมายลงอีก หากตัวเลขการส่งออกในไตรมาส 2 ของปีนี้ยังติดลบหรือขยายตัวตํ่ากว่าที่คาดการณ์
“ภาพรวมการส่งออกของไทยในไตรมาสแรกปีนี้คงติดลบ ส่วนไตรมาสที่ 2 หากยังติดลบ หรือขยายตัวในอัตราตํ่า ตัวเลขที่ สรท.คาดการณ์ไว้ทั้งปีที่ 3% อาจจะไม่ถึง สัญญาณจากตัวเลขการส่งออกของจีนในเดือนมกราคมปีนี้ติดลบ 10% จากปกติเขาจะขยายตัวเป็นบวก และเกินดุลการค้าจำนวนมาก แต่เวลานี้เขาเกินดุลการค้าลดลง ทำให้ไม่น่าไว้ใจ และอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยหากสงครามการค้ายังไม่คลี่คลาย”
ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ) เผยว่า จากสงครามการค้าสหรัฐฯที่อยู่ระหว่างเจรจาเพื่อคลี่คลายสถานการณ์มองว่า ความตกลงที่น่าจะเกิดขึ้นได้แก่ จีนนำเข้าถั่วเหลือง ข้าวโพดและข้าวเพิ่ม 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี ก๊าซเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มไม่เกิน 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 6 ปี, จีนคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาเพิ่ม โดยแก้กฎหมายการลงทุนห้ามรัฐบาลจีนบังคับถ่ายทอดเทคโนโลยี (มีผล ม.ค. 2563) ขณะที่จีนไม่ปล่อยให้เงินหยวนอ่อน และสหรัฐฯ ไม่ขึ้นภาษีนำเข้าเป็น 25% และไม่ขยายภาษีไปยังสินค้าจีนที่เหลือ
ส่วนความตกลงที่อาจเกิดขึ้นคือ ทั้ง 2 ฝ่ายลดภาษีนำเข้าให้แก่กัน, จีนลดภาษีสินค้าเกษตร เคมีภัณฑ์ และยานยนต์ให้สหรัฐฯ และสหรัฐฯลดภาษีเครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้าให้จีน และความตกลงที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นคือจีนยอมลดการอุดหนุนสินค้าอุตสาหกรรม หรือยอมให้สหรัฐฯตัดสินฝ่ายเดียวและถูกลงโทษหากฝ่าฝืนความตกลง
หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3,462 วันที่ 18-20 เมษายน 2562
