ปฏิกิริยา : ล่าชื่อโค่นบัลลังก์ 7 กกต.วิกฤติศรัทธาที่บาดลึก
มาคุยกับฐาน ทันทุกข่าวสาร แค่เพิ่มเราเป็นเพื่อน คลิกเลย!!!!! LINE : @THANSETTAKIJ
นับแต่สิ้นสุดการเลือกตั้งทั่วไป 2562 เมื่อวันที่ 24 มีนาคม สิ่งที่เราทุกคนคาดหวังคือผลการเลือกตั้งที่เราจะได้รัฐบาลจากการเลือกตั้งเสียที แต่จวบจนวันนี้ประชาชนทุกคนยังไม่ทราบผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด
กลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกโซเชียลถึงขณะนี้ โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ชุดปัจจุบันได้อ้างว่า ต้องรอไปก่อน เพราะจะต้องทำตามกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อันมีความซับซ้อนของกระบวนการนับจำนวนสส.หรือ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทำให้การประกาศผลคะแนนอย่างเป็นทางการทำไม่ได้เหมือนการเลือกตั้งรอบที่ผ่านมา
ความกระตือรือร้นและมุ่งมั่นในการออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งของประชาชนครั้งนี้ พลันถูกลดค่าไปทันที เมื่อได้เกิดเหตุสนั่นโลกโซเชียลหลายต่อหลายกรณี จากการแสดงผลงานผ่านหน้าที่ของกกต.ชุดนี้
ทั้งถูกตั้งคำถาม และจับตาอย่างมากถึงความโปร่งใสตรงไปตรงมา
ทั้งการวินิจฉัยบัตรดี บัตรเสีย หรือบางเขตมีคะแนนผู้สมัครมากกว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ รวมทั้งการส่งบัตรเลือกตั้งจากประเทศนิวซีแลนด์ล่าช้า จนถูกวินิจฉัยให้เป็นบัตรเสียทั้งหมด
ทั้งใส่ข้อมูลผู้สมัครผิด บัตรเลือกตั้งผิดเขต บัตรเกิน บัตรเสียเป็นล้าน ชื่อเด็ก 7 ขวบ คนตาย กลับมีสิทธิเลือกตั้ง ส่งบัตรล่าช้ายกเป็นบัตรเสีย และอีกสารพัดปัญหา
เรียกได้ว่ากกต.ชุดนี้ถูกโจมตีอย่างหนักหน่วงทีเดียว
เหตุการณ์โอละพ่อที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ ที่ปกติแล้วจะมีหน้าที่ตรวจสอบดูแลการเลือกตั้ง แต่มาคราวนี้ดูเหมือนจะกลายเป็นจำเลยเสียเอง อันเนื่องมาจากผลงานในการดูแลการเลือกตั้งในครั้งนี้ ที่ดูจะบาดตาบาดใจประชาชนที่เป็นพลังบริสุทธิ์ไม่น้อย!!
โลกออนไลน์ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเซ็งแซ่ว่าการทำงานของกกต.ช่างสวนทางกับงบประมาณการเลือกตั้งกว่า 5,800 ล้านบาทเสียเหลือเกิน
ภาพการทำหน้าที่ที่ไม่มีประสิทธิภาพดังกล่าว นำไปสู่ให้ผู้คนที่ใช้อินเตอร์เน็ต ออกมารณรงค์ล่ารายชื่อถอดถอน กกต. ผ่านเว็บไซต์ชื่อดังเว็บหนึ่ง มีผู้สนับสนุน 848,926 คน ณ.วันที่ 9 เมษายน2562 เวลา 22.35น. ใกล้ 1,000,000 คน! ล่าสุดได้มีความเคลื่อนไหวจาก ภาคประชาชน จากสถาบันการศึกษา ตั้งโต๊ะล่ารายชื่อเพื่อ “ถอดถอนกกต..”
นอกจากนี้ยังมี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ล่ารายชื่อประชาชนเพื่อกล่าวหาและนำไปสู่การถอดถอน 7 กกต.ยื่นให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนและมีความเห็นตามคำร้อง เพื่อเสนอเรื่องไปยังอัยการสูงสุด ให้ดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป
หากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ประทับฟ้อง ผู้ถูกกล่าวหาหรือ 7 กกต. ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคําพิพากษาต่อไป
ต้องยอมรับว่ากกต.ชุดนี้ถูกโจมตีอย่างดุเดือด นอกจากการเข้าชื่อถอดถอนแล้ว การออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของกกต.บนโลกโซเชียลก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน
แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ กกต .ชุดนี้ก็กระโจนเข้ากองไฟด้วย สนุกกันล่ะสิ
มาคุยกับฐาน ทันทุกข่าวสาร แค่เพิ่มเราเป็นเพื่อน คลิกเลย!!!!! LINE : @THANSETTAKIJ
อย่างกรณีล่าสุดได้ออกเอกสารฟ้องหมิ่นประมาทสื่อมวลชนและทำตัวเป็นมาเฟียนั้น เป็นการใช้สิทธิทางกฎหมาย เมื่อกกต.เห็นว่าข้อความตามที่โพสต์เป็นเท็จ ทำให้กกต.เกิดความเสียหาย ทำให้สาธารณชนเกิดความเข้าใจผิด ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง
กระผมก็พอเข้าใจนะครับว่ากกต.คงต้องการรักษาศักดิ์ศรี และเป็นสิทธิอันชอบธรรม
แต่กระผมเห็นว่า เรื่องที่จะกู้ศักดิ์ศรีที่ท่านควรรีบทำมีค่ากว่าเรื่องนี้ คือ เคลียร์ปัญหาการเลือกตั้ง และพยายามประชาสัมพันธ์ความคืบหน้าของงาน โดยไม่กระทบต่อกฎหมาย
ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนรอคอย น่าจะดีกว่ามั้ย ท่านคิดเองได้อยู่แล้ว
การเข้าชื่อของประชาชนเป็นการสะท้อนความรู้สึกและความคิดเห็นผ่านช่องทางโซเชียลทางเดียวที่ทำได้สะดวกที่สุดในขณะนี้ และเป็นตัวชี้วัด ความศรัทธา ปัญหาเคลือบแคลงหลายอย่างที่เกิดขึ้นตลอดวันเลือกตั้ง กลับไม่มีการชี้แจงที่ชัดเจน และแสดงถึงความบกพร่อง ขาดความเป็นมืออาชิพ ขาดระบบการจัดการที่ดี
หากจะกล่าวแรง ๆ คือทำงานเหมือนเล่นขายของ ทั้งๆที่ คณะกรรมการ กกต.แต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิ ได้รับมอบหมายให้ทำงานระดับประเทศ นับเป็นวิกฤติศรัทธาที่บาดลึกระบอบประชาธิปไตยของไทยเรา
อย่าให้ใคร ๆ เขาว่า กกต.ชุดนี้เป็นบุคคลแห่งปีที่มีมลทินเลยครับ..
มาคุยกับฐาน ทันทุกข่าวสาร แค่เพิ่มเราเป็นเพื่อน คลิกเลย!!!!! LINE : @THANSETTAKIJ
|คอลัมน์ : ปฏิกิริยา
| โดย : ชิษณุชา เรืองศิริ
| ฐานเศรษฐกิจออนไลน์