ข้าพระบาท ทาสประชาชน : อย่าชักนํ้าเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน

10 เม.ย. 2562 | 14:00 น.

 

มาคุยกับฐาน ทันทุกข่าวสาร แค่เพิ่มเราเป็นเพื่อน คลิกเลย!!!!! LINE : @THANSETTAKIJ 
ข้าพระบาท ทาสประชาชน : อย่าชักนํ้าเข้าลึก  ชักศึกเข้าบ้าน
ข้าพระบาท ทาสประชาชน : อย่าชักนํ้าเข้าลึก  ชักศึกเข้าบ้าน
ข้าพระบาท ทาสประชาชน : อย่าชักนํ้าเข้าลึก  ชักศึกเข้าบ้าน
เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2562 สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหา คือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ด้วยเหตุที่ต้องหาว่า “ร่วมกันทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือด้วยวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่แสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบในราชอาณาจักร

หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน และช่วยเหลือผู้อื่นซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษโดยให้พำนักแก่ผู้อื่น โดยซ่อนเร้น หรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดๆ เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม” ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ต้องหาไปที่ สน.ปทุมวัน พบกับ พ.ต.ท. เจริญสิทธิ์ จงอิทธิ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ในวันที่ 6 เมษายน 2562 เวลา 10.00 น.


หมายเรียกของพนักงานสอบสวนดังกล่าว เป็นขั้นตอนหนึ่งของการเรียกผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหา อันเป็นการกล่าวหาว่า ผู้ต้องหาได้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และ มาตรา 189 ที่มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และ ไม่เกิน 2 ปี ตามลำดับ ในขั้นตอนนี้ ถ้าผู้ต้องหามาพบพนักงานสอบสวน โดยไม่มีเจตนาหลบหนี สามารถมาพร้อมทนายความ เพื่อรับฟังการสอบสวน และการตั้งข้อกล่าวหานั้นได้ ตามสิทธิของผู้ต้องหา ซึ่งหากเป็นไปตามนี้ พนักงานสอบสวนก็ไม่สามารถที่จะควบคุมตัวผู้ต้องหา เนื่องด้วยผู้ต้องหาเข้าพบพนักงานสอบสวนด้วยตนเอง

หลังรับทราบข้อกล่าวหาและให้การแล้ว พนักงานสอบสวนสามารถปล่อยตัวผู้ต้องหาได้ โดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ประกันตัวได้ จนกว่าจะมีการสอบสวนสรุปสำนวน ส่งพนักงานอัยการเพื่อสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลต่อไป เมื่อส่งฟ้องแล้วก็เป็นอำนาจศาลที่จะพิจารณาเรื่องการประกันตัวหรือปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดี

การตั้งข้อหาความผิดเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องปกติและมิใช่คดีอุกฉกรรจ์ที่มีโทษร้ายแรง ประกอบกับพฤติกรรมการกระทำความผิดของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็เป็นความผิดที่ได้กระทำและเกิดขึ้นก่อนที่นายธนาธร จะจัดตั้งพรรคอนาคตใหม่ และลงเลือกตั้ง และเมื่อนายธนาธร เป็นประชาชนคนหนึ่งที่ถูกกล่าวว่ากระทำความผิดอาญา พนักงานสอบสวนย่อมมีอำนาจดำเนินคดีได้ เพราะทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย จะกล่าวอ้างหรือกล่าวหาว่า นี่เป็นการกลั่นแกล้งคงฟังไม่ขึ้น

การถูกตั้งข้อกล่าวหาและถูกดำเนินคดีอาญาของบุคคลใดๆ ตามประมวลกฎหมายอาญา เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ตามกฎหมายไทย ที่ใช้ระบบกล่าวหา เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงและมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่า ได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น และมีเหตุจะอ้างและควรเชื่อได้ว่า ผู้นั้นเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดนั้น เมื่อมีผู้กล่าวหา พนักงานสอบสวนก็มีอำนาจดำเนินการสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย หากเป็นการกล่าวหาแจ้งความเท็จก็ดี และพนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนโดยมิชอบก็ดี ผู้ต้องหาหรือผู้เสียหายก็สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้นั้นหรือพนักงานสอบสวนได้

มาคุยกับฐาน ทันทุกข่าวสาร แค่เพิ่มเราเป็นเพื่อน คลิกเลย!!!!! LINE : @THANSETTAKIJ 
ข้าพระบาท ทาสประชาชน : อย่าชักนํ้าเข้าลึก  ชักศึกเข้าบ้าน

เช่นเดียวกัน กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมายของไทย เป็นไปตามหลักสากล ได้รับการยอมรับเชื่อถือ และเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชนได้ และข้อกล่าวหาที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ถูกกล่าวหา ก็เป็นข้อกล่าวหาธรรมดา มิใช่ข้อกล่าวหาร้ายแรงอุกฉกรรจ์หากไปพบพนักงานสอบสวนตามปกติเยี่ยงประชาชนอื่นๆ โดยเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายของบ้านเมือง เรื่องก็ดำเนินตามกระบวนการยุติธรรม พรรคของท่านและตัวท่าน ก็จะได้รับความเคารพนับถือ และชื่นชมในการปฏิบัติตนเป็นพลเมืองที่ดี เป็นแบบอย่างแก่สังคมและคนรุ่นใหม่ ที่ท่านชอบอ้างและอาศัยอิงแอบเป็นฐานคะแนน นักการเมืองคนอื่นๆ และนักกิจกรรมทางการเมืองคนอื่นๆ ที่เคยถูกตั้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีสารพัดข้อกล่าวหา ไม่เห็นมีใครออกมาโวยวาย ร้องแรกแหกกระเชอกล่าวหาโจมตีกระบวนการยุติธรรม อย่างเช่น นายธนาธร

พฤติกรรมของหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ก่อนถึงวันเข้าพบพนักงานสอบสวน ที่มีการโพสต์ข้อความเชิงปลุกระดมให้มวลชนออกมาปกป้องตนเอง และกล่าวหาว่าตนถูกอำนาจมืดเล่นงาน ป่าวประกาศให้มวลชนทราบว่านี่เป็นเกมสกปรกทางการเมือง หวังเตะตัดขาพรรคอนาคตใหม่ไปโน้น ทำให้เป็นที่สงสัยในพฤติกรรม และในวันที่ไปเข้าพบพนักงานสอบสวน ก็มีการจัดตั้งมวลชนออกมาให้กำลังใจ ชูป้ายสลอนยกย่องเชิดชูตนเอง เยี่ยงวีรบุรุษของแผ่นดิน ทั้งที่ยังไม่มีคุณูปการใดต่อบ้านเมือง พร้อมกับชูป้ายโจมตีด่าทหาร ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ โยงทุกเรื่องเข้าสู่การเมือง อันเป็นเกมถนัดของนักกิจกรรมฝ่ายซ้ายในอดีต

ที่เลวร้ายที่สุดคือมีการเชื้อเชิญองค์กรต่างชาติ ตัวแทนนักการทูตประเทศต่างๆ ให้เข้ามาเกี่ยวข้องกับคดี สังเกตการณ์ ประหนึ่งว่าประเทศไทยอยู่ในยุคบ้านป่าเมืองเถื่อน ระบบกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมไม่น่าเชื่อถือและไม่น่าไว้วางใจ

เท่านั้นยังไม่พอครับ บรรดาพวกต่างชาติตานํ้าข้าวพวกนี้ยังออกมาเสนอหน้าเรียกร้องให้รัฐบาลไทยเคารพกฎหมาย เคารพสิทธิมนุษยชน ประหนึ่งนายธนาธรเป็นเทวดา ถูกกฎหมายเถื่อนอำนาจมืดเล่นงาน ทั้งๆ ที่เป็นการดำเนินคดีตามปกติของกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมของประเทศอธิปไตย เป็นกิจการภายในประเทศของไทย ซึ่งต่างชาติทั้งหลายไม่มีสิทธิใดๆ ที่จะ “เผือก” เข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด พฤติกรรมแบบนี้แหละของพรรคอนาคตใหม่ และนายธนาธร ที่อาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 116 อีกกระทงหนึ่ง เจือสมกับข้อกล่าวหาของพนักงานสอบสวนอย่างยิ่ง
ข้าพระบาท ทาสประชาชน : อย่าชักนํ้าเข้าลึก  ชักศึกเข้าบ้าน

การกระทำของนายธนาธร กับพวก และพรรคอนาคตใหม่ หากจะเป็นพรรคการเมืองของคนรุ่นใหม่ ยากจะเป็นอนาคตใหม่ของประเทศไทยจริง จึงควรหยุดพฤติกรรมเช่นนี้เสีย กรณีดังกล่าวควรเคารพกฎหมายและเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามปกติ เยี่ยงประชาชนพลเมืองไทย ที่ต้องเคารพกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย และบรรดาองค์กรต่างชาติ เจ้าหน้าที่สถานทูตต่างชาติบางประเทศ ที่เข้ามา “เผือก” ในกิจการภายในของประเทศอื่น ควรหยุดแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทยเสีย สมควรมีมารยาทในทางการทูต ที่อารยประเทศทั้งหลายพึงปฏิบัติต่อกัน

ช่วงเวลาที่ผ่านมาในยุครัฐบาล “ระบอบทักษิณ” ในการชุมนุมทางการเมืองของประชาชน อันเป็นการใช้สิทธิ เสรีภาพทางการเมือง ภายใต้รัฐธรรมนูญ กลับมีการใช้อำนาจมืดอุ้มฆ่า ทนายสมชาย นีละไพจิตร และนายเอกยุทธ อัญชันบุตร และสังหารประชาชนมากมาย ภายใต้ข้ออ้างปราบปรามยาเสพติดถึง 2,500 ศพ, มีการใช้กองกำลังอันธพาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปาระเบิดสังหารใส่ผู้ชุมนุมที่คิดต่างทางการเมืองมากมายนับ 10 นับ 100 ศพ มีการใช้กำลังปราบปรามประชาชนในเหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2551 บาดเจ็บหลายร้อยคนและเสียชีวิตนับ 10

มีการละเมิดสิทธิเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนต่อประชาชนมากมาย รัฐบาลในระบอบทักษิณ มีการตั้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯ และ กปปส. ด้วยข้อหาร้ายแรงอุกฉกรรจ์เกินกว่าความเป็นจริง เช่น ข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจร ก่อจลาจล ก่อการร้าย กบถ ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ และข้อหาอื่นๆ อีกมากมายยิ่งกว่านายธนาธร ที่ถูกต้องข้อกล่าวหา คนเหล่านั้นก็ไม่เคยโวยวายปลุกระดมมวลชนมาปกป้องตน และบรรดาองค์กรต่างชาติ ตัวแทนเจ้าหน้าที่สถานทูตพวกนี้ ไปมุดหัวอยู่ที่ใด ถ้าสนใจปัญหาสิทธิ เสรีภาพ ประชาชนไทย ในเวลาที่รัฐบาลระบอบทักษิณ กระทำยํ่ายีกับประชาชนไทย ทำไมไม่เสนอหน้าออกมาประณาม เรียกร้องให้รัฐบาลเคารพสิทธิประชาชน

กะอีแค่ข้อหาเล็กน้อยของนายธนาธรดังกล่าว ไฉนจึงกระโดดออกมา จนลืมมารยาททางการทูต ออกมาร่วมกับนายธนาธรสร้างกระแส ปลุกระดมมวลชนสร้างสถานการณ์ โดยไม่เคารพขื่อแปของบ้านเมืองไทย

พฤติกรรมเช่นนี้ ไม่สง่างามสำหรับพรรคการเมือง ที่จะอ้างตนเป็นคนรุ่นใหม่ได้เลย หยุดชักนํ้าเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้านเสียเถอะคุณธนาธร หากจะเป็นนักการเมืองที่ดี อย่าเดินตามรอยคนไร้แผ่นดิน หากคิดจะเป็นคนรุ่นใหม่จริงๆ

 

 


|คอลัมน์ : ข้าพระบาท ทาสประชาชน
|โดย : ประพันธุ์ คูณมี
|หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3460 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 11-13 เม.ย.2562