สรรพสามิตเข้ม! เก็บ "ภาษีเบียร์" หลัง 6 เดือน รายได้ร่วง 27%

10 เม.ย. 2562 | 09:31 น.


สรรพสามิตออกประกาศเข้าจัดเก็บ "ภาษีเบียร์-น้ำมัน" หลัง 6 เดือน รายได้ 2 รายการ พลาดเป้า 27,000 ล้านบาท พบรายได้ยาเส้นพุ่ง 200% หลังโครงสร้างภาษีใหม่ เพิ่มส่วนต่างราคายาสูบ คนแห่สูบยาเส้นมากขึ้น

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้สรรพสามิตช่วง 6 เดือนของปีงบประมาณ 2561 (ต.ค. 61 - มี.ค. 62) รวม 289,638.94 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 20,501.03 ล้านบาท หรือ 7.62% แต่ต่ำกว่าเอกสารงบประมาณ 4.7% หรือประมาณ 14,000 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักมาจาก "ภาษีเบียร์" ที่จัดเก็บได้ 36,753.51 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 27% หรือประมาณ 14,6000 ล้านบาท และ "ภาษีน้ำมัน" แม้จะจัดเก็บได้สูงสุดที่ 97,044.20 ล้านบาท แต่ต่ำกว่าเป้าหมาย 12.5% หรือประมาณ 13,000 ล้านบาท

 

สรรพสามิตเข้ม! เก็บ "ภาษีเบียร์" หลัง 6 เดือน รายได้ร่วง 27%

 

ทั้งนี้ สาเหตุที่รายได้ภาษีเบียร์ลดลง ส่วนหนึ่งจากโครงสร้างภาษีใหม่ ทำให้ผู้ประกอบการปรับลดขนาดและดีกรีลง แต่ปริมาณการผลิตไม่เปลี่ยนแปลง จึงเห็นว่า รายได้จัดเก็บต่ำกว่าข้อเท็จจริง จึงจะมีมาตรการตามมา คือ จะไปแก้ไขจุดเสี่ยงในการส่งออกเบียร์ ซึ่งได้รับยกเว้นภาษีและมีสัดส่วนประมาณ 13% จากเดิมจะมีการตรวจปล่อยหน้าโรงงานอย่างเดียว แต่จะแก้ไขเป็นตรวจปล่อยหน้าโรงงานครั้งหนึ่ง แล้วตรวจสอบอีกครั้งที่ด่าน เพื่อดูว่ามีการส่งออกจริง ไม่ได้มีการเวียนกลับมาขายในประเทศ
 


ส่วนเบียร์ที่ผลิตเพื่อขายในประเทศจะไปควบคุมทุกขั้นตอน โดยได้หารือกับผู้ประกอบการแล้วว่าจะให้มีการรายงานทั้งระบบ ตั้งแต่ขบวนการผลิต วัตถุดิบที่ใช้ และกากของเสีย จากเดิมที่ให้เป็นการรายงานกระดาษสอบทาน ก็ให้รายงานที่เป็นปัจจุบันมากขึ้น

 

สรรพสามิตเข้ม! เก็บ "ภาษีเบียร์" หลัง 6 เดือน รายได้ร่วง 27%

 

สำหรับภาษีน้ำมันที่ลดลง ส่วนหนึ่งเป็นไปตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับลดลง ประกอบกับผู้ประกอบการมีการใช้เอทานอลและ B20 มากขึ้นด้วย แต่จะมีการตรวจเข้มขึ้น คล้าย ๆ กับภาษีเบียร์ ที่จะมีการตรวจตั้งแต่น้ำมันดิบเท่าไหร่ เข้าโรงกลั่นแล้วเหลือเท่าไหร่ ปริมาณขาย รวมถึงน้ำมันนอกระบบและน้ำมันจากนโยบายรัฐในการช่วยเหลือผู้ประกอบการประมง หรือ น้ำมันเขียว มีการนำไปใช้จริงหรือไม่ หรือวนกลับมาขายในฝั่งแทน
 


ด้าน "ภาษียาสูบ" ขณะนี้ ต่ำกว่าเป้าหมายน้อยเพียง 0.15% แต่มีประเด็นที่น่าเป็นห่วง คือ "ภาษียาเส้น" ที่จัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นถึง 200% หลังโครงสร้างภาษีสรรพสามิตยาสูบใหม่มีผลบังคับใช้ ทำให้ส่วนต่างภาษีห่างกันมากระหว่าง 40% กับ 0.005% ทำให้ราคาต่างกันมาก ส่วนหนึ่งเกิดจากการนับรวมยาสูบพื้นเมืองเข้ามาเก็บภาษีด้วย แต่จะมีการปรับภาษียาเส้นเพิ่มขึ้นหรือไม่ ยังต้องรอนโยบายจากรัฐบาลใหม่ด้วยว่าจะมีการปรับภาษียาสูบเหลืออัตราเดียวที่ 40% ในวันที่ 1 ต.ค. นี้หรือไม่ ซึ่งในขั้นนี้ กรมสรรพสามิตยังยืนยันที่จะเดินหน้าตามที่กฎหมายกำหนด