'เพื่อไทย' เปิดสูตรปาร์ตี้ลิสต์ ชี้! กฎหมายไม่เปิดช่องต่ำกว่า 7.1 หมื่นคะแนน ได้ ส.ส.

10 เม.ย. 2562 | 08:03 น.


'เพื่อไทย' ออกแถลงการณ์เปิดวิธีคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ชี้ ก.ม. ไม่มีช่องทางใดให้พรรคที่มีคะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 71,065 คะแนน ได้ ส.ส. ยื่นหนังสือ กกต. ให้ทบทวนการคำนวณใหม่ให้ถูกต้องตาม รธน. และกฎหมาย

วันนี้ (10 เม.ย.) พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง "กรณีปัญหาการคำนวณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ" ระบุว่า

ตามที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้เผยแพร่ข่าวสารอ้างว่า กกต. ได้เห็นชอบวิธีการคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ตามที่สำนักงาน กกต. ได้เสนอ โดยอ้างว่าเป็นวิธีที่ได้เสนอต่อคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ซึ่งเป็นวิธีที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2561 มาตรา 128 และมาตรา 129 ประกอบกับเจตนารมณ์ของระบบเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งผลจากการคำนวณตามวิธีการดังกล่าวทำให้มีพรรคการเมืองได้รับจัดสรร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ไม่น้อยกว่า 25 พรรค ซึ่งรวมถึงพรรคที่มีคะแนนเฉลี่ยต่ำกว่าคะแนนต่อ ส.ส. 1 คนด้วยนั้น

พรรคเพื่อไทยเห็นว่า การนำวิธีการคำนวณดังกล่าวมาใช้จะเป็นการขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ฯ มาตรา 128 และยังขัดต่อหลักตรรกวิทยาด้วย ดังเหตุผลต่อไปนี้

1.การที่พรรคการเมืองใดจะได้รับจัดสรร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคการเมืองนั้นต้องได้รับคะแนนไม่ต่ำกว่าจำนวนคะแนนต่อ ส.ส. 1 คน เนื่องจากตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 (1) และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 (1) ให้ความสำคัญต่อทุกคะแนนเสียง จึงให้นำทุกคะแนนที่ลงให้กับทุกพรรคการเมืองมารวมกันแล้วหารด้วย 500 คือ จำนวน ส.ส. ทั้งหมด เพื่อให้ได้ค่าเฉลี่ยต่อ ส.ส. 1 คน ซึ่งจากคะแนนรวมของทุกพรรค 35,532,647 คะแนน หารด้วย 500 ผลลัพธ์ คือ 71,065 คะแนน ซึ่งตัวเลขนี้จะเป็นตัวกำหนด ส.ส.พึงมี ของแต่ละพรรคด้วย จึงเห็นได้ว่า หลักการที่ว่าทุกคะแนนเสียงมีค่าและไม่เป็นคะแนนตกน้ำนั้น ได้นำมาใช้ในการคิดคำนวณในส่วนนี้แล้ว

2.จำนวน "ส.ส.ที่แต่ละพรรคพึงมี" นั้น ต้องยึดจำนวนตามที่คำนวณได้เป็นเกณฑ์จะนำไปเฉลี่ยให้กับพรรคที่มีคะแนนต่ำกว่า 71,065 คะแนนมิได้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 (2) และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 (2) ให้นำคะแนนที่แต่ละพรรคได้รับจากทุกเขตเลือกตั้งหารด้วยคะแนนต่อ ส.ส. 1 คน (71,065) ผลลัพธ์ คือ จำนวน ส.ส.ที่พรรคนั้นจะพึงมีได้ เบื้องต้น และเมื่อนำผลลัพธ์ดังกล่าวไปลบด้วยจำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขต ของพรรคนั้น ผลลัพธ์ คือ จำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ที่พรรคนั้นจะได้รับเบื้องต้น ตามมาตรา 128 (3) จะเห็นได้ว่า จำนวน ส.ส.ที่พึงมี ของแต่ละพรรคก็ดี หรือ จำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ที่แต่ละพรรคจะได้รับเบื้องต้นก็ดี ล้วนมีฐานมาจากที่พรรคนั้นต้องมีคะแนนไม่ต่ำกว่าคะแนนต่อ ส.ส. 1 คน (71,065 คะแนน) ทั้งสิ้น

 


3.พรรคการเมืองใดที่มีคะแนนต่ำกว่าคะแนนต่อ ส.ส. 1 คน คือ ต่ำกว่า 71,065 คะแนน ซึ่งไม่มีจำนวน ส.ส.ที่พึงมี และไม่มี ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ที่จะได้รับเบื้องต้น ตามมาตรา 128 (3) ก็ย่อมไม่มีสิทธิได้รับจัดสรรจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ตามมาตรา 128 (4) เพราะตามมาตรา 128 (4) ให้จัดสรร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ให้เฉพาะกับพรรคที่มีสิทธิจะได้รับ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ตามมาตรา 128 (3) เท่านั้น โดยให้จัดสรรเป็นจำนวนเต็มก่อน ถ้ายังไม่ครบ 150 คน จึงไปพิจารณาว่า พรรคใดมีเศษจากการคำนวณมากกว่ากัน ดังนั้น เมื่อพรรคใดไม่มี ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ที่จะได้รับเบื้องต้น ก็ไม่มีสิทธิได้รับการจัดสรรดังกล่าว และเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า จำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จากทุกพรรคที่มีคะแนนอยู่ในเกณฑ์ 71,065 คะแนนขึ้นไป มีจำนวน 152 คน เกินมา 2 คน จึงไม่ต้องไปพิจารณาเรื่องเศษจากการคำนวณและไม่ต้องไปพิจารณาตามมาตรา 128 (6) ด้วยเช่นกัน

 

'เพื่อไทย' เปิดสูตรปาร์ตี้ลิสต์ ชี้! กฎหมายไม่เปิดช่องต่ำกว่า 7.1 หมื่นคะแนน ได้ ส.ส.


4.พรรคที่จะได้รับการจัดสรร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ตามมาตรา 128 (5) แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ฯ ต้องเป็นพรรคที่มี ส.ส.พึงมี เสียก่อน เนื่องจากการคำนวณตามมาตรา 128 (5) ต้องพิจารณาตามมาตรา 128 (2) เป็นหลัก โดยจัดสรรภายใต้เงื่อนไข ดังนี้

(1) ถ้าพรรคนั้นมี ส.ส.เขต เท่ากับหรือสูงกว่าจำนวน ส.ส.ที่พรรคนั้นพึงมี ตามมาตรา 128 (2) ให้พรรคนั้นมี ส.ส. ตามจำนวนที่ได้รับจาก ส.ส.แบบแบ่งเขต และไม่มีสิทธิได้รับจัดสรรแบบ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ

(2) ให้นำ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ไปจัดสรรให้แก่พรรคที่มี ส.ส.แบบแบ่งเขต ต่ำกว่าจำนวน ส.ส.ที่พรรคนั้นจะพึงมี ตามมาตรา 128 (2)

(3) การจัดสรรข้างต้นต้องไม่มีผลให้พรรคนั้นมี ส.ส. เกินจำนวนที่พึงมีตามมาตรา 128 (2)

ดังนั้น ถ้าพรรคการเมืองใดไม่มี ส.ส.ที่พึงมี ตามมาตรา 128 (2) ตั้งแต่ต้นก็ไม่มีสิทธิได้รับจัดสรร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ตามมาตรา 128 (5) ได้

5.พรรคการเมืองที่มีคะแนนต่ำกว่า 71,065 คะแนน ซึ่งเป็นพรรคที่ไม่มี ส.ส.พึงมี ตามมาตรา 128 (2) ไม่มีจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ที่จะได้รับเบื้องต้น ตามมาตรา 128 (3) ซึ่งไม่มีสิทธิจะได้รับจัดสรรแบบบัญชีรายชื่อ ตามมาตรา 128 (4) และ (5) พรรคนั้นก็ย่อมไม่อยู่ในเกณฑ์จะได้รับจัดสรร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ตามมาตรา 128 (7) เพราะพรรคเหล่านั้นไม่มีจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ที่จะได้รับมาตั้งแต่ต้น จึงไม่มีจำนวน ส.ส. ที่จะมาคูณกับจำนวน 150 และหารด้วยผลบวกของ 150 กับจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ที่เกิน 150 คนได้

ดังนั้น เมื่อพิจารณาตามข้อกฎหมายแล้ว ไม่มีช่องทางใดเลยที่พรรคซึ่งมีคะแนนต่ำกว่า 71,065 คะแนน จะได้รับจัดสรร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้มีหนังสือลงวันที่ 10 เม.ย. 2562 ถึงคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อให้ทบทวนการคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เสียใหม่ให้ถูกต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายต่อไปแล้ว