เบียร์แอลกอฮอล์ตํ่ามาแรงแบรนด์ดังชิงส่งนวัตกรรมปลุกตลาด

แม้ภาพรวมตลาดเบียร์เมืองไทยกว่า 1.47 แสนล้านบาทปีที่ผ่านมา จะติดลบถึง 4% ซึ่งเป็นผลมาจากสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ชะลอตัว แต่เมื่อผ่านไตรมาสแรกภาพรวมตลาดเบียร์ก็กลับมาสดใสอีกครั้ง ซึ่งเป็นผลมาจากมู้ดของผู้บริโภคเริ่มกลับมาในทิศทางที่ดีขึ้น จากภาพรวมเศรษฐกิจที่เริ่มดีดตัวกลับมาขณะที่เรื่องของ “นวัตกรรม” ไม่ว่าจะเป็น แพ็กเกจจิ้ง รสชาติ หรือแม้กระทั่งความหลากหลายของเซ็กเมนต์เบียร์ในเมืองไทยที่มีมากขึ้น กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่จะเข้ามาผลักดันตลาดให้มีมูฟเมนต์จนนำไปสู่การเติบโตที่ดีอีกครั้ง

ขณะที่อานิสงส์จากความนิยมในตัวเบียร์แอลกอฮอล์ตํ่า (Lower Alcohol) ยังส่งผลให้ผู้ประกอบการแจ้งเกิดเบียร์ไร้แอลกอฮอล์หรือที่เรียกอย่างเป็นทางการว่า “เครื่องดื่มมอลต์ไม่มีแอลกอฮอล์” ออกมาเปิดศึกครั้งใหม่นี้ ไม่ว่าจะเป็น “ไฮเนเก้น” ที่แจ้งเกิด “ไฮเนเก้น 0.0” หรือจะเป็น บริษัท กัปตัน บาร์เรล จำกัด ที่ส่ง “บาวาเรีย 0.0% มอลต์ ดริ้งค์” เข้าชิงตลาด ซึ่งแน่นอนว่าแม้เบียร์ไร้แอลกอฮอล์จะยังไม่สามารถผลักดันยอดขายหลักให้แก่แบรนด์ได้ แต่ทว่าถือเป็นเวทีสำคัญในการสร้างแบรนด์ไปยังกลุ่มเป้าหมายในแง่ของภาพลักษณ์ที่ดีจนเกิดเป็นแบรนด์ลอยัลตีได้ในอนาคต

นางสาวพชรชนก ศิลอุดม ผู้จัดการฝ่ายการตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์เมนสตรีม กลุ่มบริษัท ทีเอพีฯผู้นำเข้าและทำตลาดเครื่องดื่มเบียร์ภายใต้แบรนด์ไฮเนเก้น, ไทเกอร์, เชียร์, กินเนสส์ เปิดเผยว่า เทรนด์ของตลาดเบียร์ในปัจจุบันแน่นอนว่าเบียร์แอลกอฮอล์ตํ่า (Lower Alcohol) ถือเป็นเทรนด์ของนักดื่มทั่วโลก รวมถึงนักดื่มในประเทศไทย เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่นิยมรักษาภาพลักษณ์ที่ดีและสุขภาพมากขึ้น จนเกิดเป็นเบียร์ปริมาณแอลกอฮอล์ตํ่าและเครื่องดื่มมอลต์ไร้แอลกอฮอล์ขึ้นในตลาดและได้รับความนิยมไปทั่วโลก นั่นเองจึงเป็นที่มาของการเปิดตัว “เชียร์ ซีเลคชั่น” สูตรใหม่ เชียร์ ซีเลคชั่นสยามไวเซ่น วีทเบียร์สไตล์เยอรมัน ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์เพียง 4% เพื่อรองรับเทรนด์ดังกล่าวพร้อมทั้งเน้นเจาะกลุ่ม Upper Mainstream ที่มีกำลังซื้อและเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“แม้จะโฟกัสการทำตลาดไปที่เชียร์ ซีเลคชั่น แต่ทว่ากลุ่มเบียร์เชียร์หลักก็จะยังคงเดินหน้าทำตลาดเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าเดิมที่แน่นอนว่ามีการจับจ่ายอย่างต่อเนื่องแม้จะไม่หวือหวาเท่ากลุ่มคนรุ่นใหม่หรือ Upper Mainstreamโดยจะเน้นการทำกิจกรรมทางการตลาดไปยังพื้นที่หัวเมืองต่างจังหวัดด้วยกลยุทธ์ Music Marketing ผ่านกิจกรรมคอนเสิร์ต ในการสร้างการจดจำให้กับแบรนด์มากขึ้น”

อย่างไรก็ตามย้อนไปช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมากลุ่มทีเอพี ภายใต้แบรนด์ ไฮเนเก้น ก็ปรับเกมรุกตลาดเครื่องดื่มมอลต์ไม่มีแอลกอฮอล์ ในชื่อ“ไฮเนเก้น 0.0” (ไฮเนเก้น ศูนย์จุดศูนย์) โดยมีเป้าหมายหลักไม่ใช่การสร้างยอดขายและกำไรหากแต่เป็นเรื่องของการสร้างแบรนด์ในไทยให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังเป็นการสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ดีและมีสินค้าที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย

เช่นเดียวกับ“เชียร์ ซีเลคชั่น” สูตรใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรับเทรนด์คนรุ่นใหม่ รวมทั้งการปรับแพ็กเกจจิ้งครั้งใหญ่นี้ทำอย่างไรจึงจะสามารถตอบโจทย์ Upper Mainstream หรือเมนสตรีมระดับบน ที่มีอายุ 20-44 ปี ที่ว่ากันว่ามีพฤติกรรมที่นิยมทดลองดื่มเบียร์ที่หลากหลาย และแปลกใหม่ แต่จะต้องมีราคาที่จับต้องได้ ซึ่งจะแตกต่างจากเมนสตรีมแบบเดิมที่มีอายุตั้งแต่ 20-49 ปี มีรายได้ปานกลาง ชอบความคุ้มค่าและเปอร์เซ็นต์แอลกอฮอล์สูงๆ ทั้งนี้จากโจทย์ดังกล่าว แพ็กเกจจิ้งใหม่ของ “เชียร์ ซีเลคชั่น” จึงตกผลึกมาที่ลวดลายในธีมไทยๆอย่าง ไก่ฟ้าพญาลอ นกประจำชาติไทยประจำรัชกาลที่ 4 มาอยู่บนตัวแพ็กเกจจิ้งของเชียร์ ซีเลคชั่น (ข้าวไรซ์เบอร์รี่) และเชียร์ ซีเลคชั่น สยามไวเซ่น ที่มีการดีไซน์แพ็กเกจจิ้งให้น่าสนใจด้วยการนำหน้ายักษ์เข้ามาไว้บนแพ็กเกจจิ้ง ด้วยต้องการสร้างการเติบโตไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมาที่มีการเติบโต 24%

ขณะที่ก่อนหน้านี้เมื่อค่ายสิงห์ ที่ปรับแพ็กเกจจิ้งแต่งตัวใหม่ให้น้องร่วมพอร์ตอย่าง “ลีโอ” ในลุคใหม่ กับ 3 สีประจำแบรนด์อย่าง สีเงิน แดง ดำ ที่มาพร้อมจำนวนลิมิเต็ดเอดิชันเพียง 6 แสนขวด โดยวางจำหน่ายผ่านเฉพาะช่องทางร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่นทั้ง 1 หมื่นสาขาทั่วประเทศ (ยกเว้นสาขาในปั๊มนํ้ามัน) ออกมาเพื่อกระตุ้นตลาดพร้อมทั้งรองรับความต้องการในช่วงซัมเมอร์นี้อีกด้วย 

รายงาน | หน้า 30 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3460 ระหว่างวันที่ 11-13 เมษายน 2562