ชู "มาตรการภาษี" โด๊ปท่องเที่ยว! "ไทยเที่ยวไทย" ลดหย่อน 3 หมื่น ชงฟรีวีซ่า VOA ถึง ต.ค.
โด๊ปท่องเที่ยว! ชูมาตรการภาษีกระตุ้น ททท. จ่อหารือกระทรวงการคลัง ดึงคนไทยเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด นำใบเสร็จลดหย่อนภาษีสูงถึง 3 หมื่นบาท ส่วนเมืองหลักหักได้ 1.5 หมื่นบาท ทั้งชง ครม. ขอขยายฟรีวีซ่า VOA อีก 6 เดือน ดึงทัวร์จีนเที่ยวไทย
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี แถลงหลังเดินทางไปมอบนโยบายแก่คณะผู้บริหารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2562 ว่า ได้มอบนโยบายหลัก ๆ ให้ ททท. เร่งไปดำเนินการหลายประการ อาทิ
เรื่องการทำแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวเป็นเป้าหมายระยะสั้น ในระยะ 3-4 เดือนนี้ โดยจัดทำโครงการพิเศษ ดึงนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามาเที่ยวเมืองไทย โดยมองหาประเทศที่มีกำลังซื้อสูงและดึงให้ไปเที่ยวเมืองรอง เพื่อให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยสินค้าท้องถิ่น เพื่อช่วยชาวบ้านให้ขายสินค้าได้
นอกจากนี้ ยังให้ไปประสานกับหน่วยงานที่เป็นองค์กรที่คุมจำนวนนักท่องเที่ยวมาก ๆ เพื่อให้ ททท. ไปหารือกับองค์กรเหล่านี้ นำนักท่องเที่ยวเข้ามา นอกจากนั้นยังเห็นว่า ภาคใต้มีโครงการ "ไทยแลนด์ ริเวียร่า" มีการพัฒนารถไฟรางคู่จากชุมพรไประนองที่เริ่มแล้ว ก็ต้องไปพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้เหมาะสม เพื่อให้สายการบินต้นทุนต่ำบินลงมากยิ่งขึ้น ซึ่ง ททท. ต้องไปกำหนดเป้าหมายจัดกิจกรรมต่าง ๆ ว่า มีอะไรบ้าง เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม
"อยากให้การท่องเที่ยวเติบโต เพราะหลายประเทศปรับลดประมาณการทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) เมืองไทยเศรษฐกิจยังบาลานซ์ได้กับต่างประเทศ แต่เราไม่ควรประมาท การเมืองยังไม่แน่นอน นักลงทุนไม่มั่นใจ อารมณ์คนก็ไปตามสถานการณ์ ข้าราชการก็ต้องสร้างความเชื่อมั่น อย่าปล่อยให้เศรษฐกิจซบรอจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ เพราะหลังสงกรานต์ก็เข้าสู่หน้าฝน เป็นโลว์ซีซัน ต้องกระตุ้นอย่างเร่งด่วน"
รองนายกฯ ยังกล่าวอีกว่า การส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองต้องมีความชัดเจนว่า เที่ยวเมืองไทยมีกิจกรรมอะไรที่จับต้องได้ ซึ่งการประชุมในวันนี้จึงได้เชิญกรมพัฒนาธุรกิจของกระทรวงพาณิชย์มาร่วมด้วย เพื่อต่อยอดสินค้าและส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกันกับ ททท. ส่วนโครงการ "ไทยแลนด์ ริเวียร่า" ซึ่งเป็นกลไกลสำคัญในการกระจายนักท่องเที่ยวไม่ให้กระจุกอยู่ในเมืองใหญ่ อย่าง 'ภูเก็ต' ให้มาชุมพร ระนอง หรือจังหวัดอื่น ๆ ภายใต้โครงการนี้
ด้าน นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า แผนงานที่ ททท. เตรียมดำเนินการสำคัญ ๆ ได้แก่ 1.การขยายระยะเวลามาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ณ หน้าด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival : VoA) สำหรับชาวต่างชาติ 20 ประเทศ อัตรา 2,000 บาทต่อคน ออกไปจนถึงสิ้นเดือน ต.ค. 2562 เนื่องจากเห็นว่า น่าจะครอบคลุมไปถึงวันหยุดยาว อย่าง "วันชาติจีน" ที่น่าจะดึงดูดคนจีนเข้ามาเที่ยวได้เพิ่มมากขึ้น หลังจากมาตรการเดิมจะสิ้นสุดในวันที่ 30 เม.ย. นี้
"ที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือน พ.ย. ถึง มี.ค. พบว่า มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา 2.3 ล้านคน และมีชาวจีนถึง 1.7 ล้านคน รัฐบาลสูญเสียรายได้ 4.6 พันล้านบาท แต่มีรายได้เข้ามาถึง 4 แสนล้านบาท ซึ่งการขยายออกไป เชื่อว่า ผลทางเศรษฐกิจจะคุ้มค่าแน่นอน"
ผู้ว่าการ ททท. ยังกล่าวอีกว่า นอกจากการขยายวีซ่าหน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้ว ททท. ยังมีแผนเสนอให้ขยายเวลาปิดด่านชายแดนถาวร หนองคาย มุกดาหาร อุบลราชธานี สุรินทร์ สระแก้ว เชียงราย แม่ฮ่องสอน ทุกวันศุกร์ เป็น 24 ชม.
โครงการ My first passport เพื่อส่งเสริมนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ โครงการ I love Thailand โครงการ Passport Privileges โครงการ Big partner โครงการ One Plus One โครงการ Give me five โครงการ Eat thai visit thai เป็นต้น
ส่วนตลาดในประเทศได้เตรียมหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อขยายมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับนักท่องเที่ยวคนไทยให้ต่อเนื่อง โดยนำค่าใช้จ่ายจากการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ค่าที่พัก อาหาร นำมาลดหย่อนภาษีได้คนละ 15,000 บาท ตามค่าใช้จ่ายจริง และถ้าเป็นการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองรอง 55 จังหวัด สามารถลดหย่อนได้ถึง 30,000 บาท หรือ 2 เท่าจากปีที่แล้ว
"เราจะนำเสนอกระทรวงการคลังให้มีผลทันปีงบประมาณ 2562 เพื่อให้ต่อเนื่อง โดยจะหารือก่อนช่วงสงกรานต์ ตามที่ท่านรองนายกฯสมคิดสั่งการ เพื่อให้มาตรการดังกล่าว คลอดมาพร้อมกับแพกเก็จกระตุ้นเศรษฐกิจของกระทรวงการคลัง"
สำหรับแผนส่งเสริมตลาดในประเทศของ ททท. ยังมีการเตรียมดำเนินการอีกหลายโครงการ อาทิ โครงการสุขใจเที่ยวทั่วไทยไปได้ทุกเดือน โครงการ 100 ชุมชนต้องห้ามพลาด โครงการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น Local FC โครงการพักหลักร้อย บินหลักพัน ชิงรางวัลหลักล้าน ซึ่งจะร่วมกับสายการบินต้นทุนต่ำ เป็นต้น
ทั้งนี้ เป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยวปี 2562 ททท. คาดการณ์ไว้ว่าจะมีรายได้รวม 3.46 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.5% แบ่งเป็น รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.28 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% รายได้จากคนไทยเที่ยวในประเทศ 1.18 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10%
