'มาสด้า' ชู "ไฮบริด" ปูทาง EV
ผลงานของ "มาสด้า ประเทศไทย" ที่คว้าตำแหน่งการขายอันดับ 1 ของภูมิภาคอาเซียน ติดต่อกันมากว่า 10 ปี และเมื่อดูจากเป้าหมายที่วางไว้ในปีนี้ คาดว่าจะรั้งตำแหน่งต่อเป็นปีที่ 11 ซึ่งความสำเร็จที่เกิดขึ้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มีผู้ที่ช่วยขับเคลื่อน คือ ประธานบริหารคนไทยคนแรก อย่าง "ชาญชัย ตระการอุดมสุข" ที่ช่วยกางแผนงานเพื่อผลักและดันให้มาสด้าก้าวมาถึงจุดนี้
⁍ ยอดขาย 2 เดือนพุ่ง
2 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค. – ก.พ.) ตลาดรถยนต์แข็งแกร่งอย่างมาก โดยเฉพาะรายใหญ่ ๆ ซึ่งยอดขายรวมทั้งหมดทำได้ 1.6 แสนคัน ส่วนมาสด้ายังคงรักษาระดับยอดขายอยู่ที่ 10,446 คัน เพิ่มขึ้น 5.1% หรือคิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 6.5% โดยในช่วงที่ผ่านมา มาสด้ามีรถไม่พอจำหน่าย มีแบล็กออร์เดอร์ของมาสด้า2 ที่บางรุ่นต้องรอนานกว่า 3 เดือน อย่างไรก็ดี ในไตรมาส 2 คาดว่าจะเริ่มกลับสู่สถานการณ์ปกติ กล่าวคือ แบคออร์เดอร์จะเฉลี่ยไม่เกิน 1 เดือน
ขณะที่ เป้าหมายยอดขายในปี 2562 คาดว่าทำได้ 7.5 หมื่นคัน และครองส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 6.7%
⁍ กลยุทธ์การตลาด
หลายค่ายมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาด ทำให้ลูกค้ามีตัวเลือกมากขึ้น ดังนั้น การแข่งขันจะอยู่ที่แบรนด์ การบริการหลังการขาย เทคโนโลยี ซึ่งมาสด้ามั่นใจว่า เรามีเทคโนโลยีค่อนข้างดี และในปีนี้ เราจะเปิดตัวรถตามที่ประกาศไว้ คือ 6 รุ่น ส่วนบริการหลังการขาย เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้ดีขึ้นทุกด้าน บริการให้รวดเร็ว ลูกค้าไม่จำเป็นต้องรอนาน และเราจะขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการภายในปี 2562 ให้มีจำนวนทั้งสิ้น 144 แห่ง ขณะที่ การขาย เราพยายามพูดคุยกับสถาบันการเงินที่เป็นพันธมิตร อย่าง ทิสโก้และธนชาต เพื่อให้แคมเปญมีความดึงดูดใจ
⁍ ความคืบหน้าอีโค อีวี
รอดูความชัดเจนและทิศทางต่าง ๆ จากภาครัฐก่อน ว่า จะส่งเสริมอย่างไร ซึ่งในส่วนของเราเอง พยายามหาข้อมูลและพร้อมสนับสนุน ส่วนประเด็นเกี่ยวกับ "ไมลด์ ไฮบริด" หรือ "ไฮบริด" นั้น แตกต่างกันแค่ไซซ์ของแบตเตอรี และไม่ว่าใครจะทำรูปแบบไหน ถือเป็นการปูพื้นฐานไปสู่อีวีได้ในอนาคต สิ่งสำคัญอีกประการ หากค่ายรถจะทำอะไรต้องมองไปที่ซัพพลายเออร์ ว่า มีความพร้อมด้วยหรือเปล่า
ส่วนทิศทางของรถยนต์ไฟฟ้าในไทย ขอยกตัวอย่าง ประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบัน มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 0.3% ของยอดขายรถยนต์รวมทั้งหมด และมีสถานีชาร์จิ้ง สเตชัน ทุก ๆ 30 กิโลเมตร สิ่งที่เรากำลังจะบอก คือ แม้จะมีจำนวนสถานีเยอะ แต่รถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้รับความนิยมมากเท่าไร เพราะราคายังแพง และแม้ว่าจะมีการสนับสนุนจากรัฐ แต่ก็เป็นระยะเวลาแค่ 1 ปีเท่านั้น ข้อคิดอีกข้อ คือ เทคโนโลยีต้องมีการพัฒนา โดยเฉพาะแบตเตอรี่ ที่ต้องศึกษาถึงเรื่องอุณหภูมิความเหมาะสมต่าง ๆ
หน้า 28 -29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3,459 วันที่ 7-10 เมษายน 2562
