ฐานโซไซตี : เปิด 3 กลุ่มใหญ่ พร้อมร่วมประมูล ชิงขุมทรัพย์ดิวตี้ฟรี

03 เม.ย. 2562 | 12:46 น.

มาคุยกับฐาน ทันทุกข่าวสาร แค่เพิ่มเราเป็นเพื่อน คลิกเลย!!!!! LINE : @THANSETTAKIJ 
ฐานโซไซตี  : เปิด 3 กลุ่มใหญ่ พร้อมร่วมประมูล ชิงขุมทรัพย์ดิวตี้ฟรี
ฐานโซไซตี  : เปิด 3 กลุ่มใหญ่ พร้อมร่วมประมูล ชิงขุมทรัพย์ดิวตี้ฟรี
ฐานโซไซตี  : เปิด 3 กลุ่มใหญ่ พร้อมร่วมประมูล ชิงขุมทรัพย์ดิวตี้ฟรี
เผือกร้อนดิวตี้ฟรี กว่าจะถอยทีละสเต็ปดูยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน ประมูลชิง “ขุมทรัพย์ดิวตี้ฟรี” ครั้งนี้จึงไม่ธรรมดา ล่าสุดบอร์ด ทอท. “ประสงค์ พูนธเนศ” ลดแรงต้านจากกระแสสังคมหรือใคร “บีบ” มิทราบ? จึงได้ถอยมาตั้งหลักอีกครั้ง ออกประกาศเมื่อวันที่ 28 มีนาคมว่าจะหั่นสัญญาสัมปทานดิวตี้ฟรีสนามบินออกเป็น 2 สัญญาแยกเป็นสุวรรณภูมิ 1 สัญญาและอีก 3 สนามบินภูมิภาค 1 สัญญา แต่ยังยึดหลักการเดิมคือหาผู้ประกอบการเพียงรายเดียวเท่านั้น 


“ทอท.” ชิงนาทีทองดีเดย์ขายซองประมูลกันตั้งแต่วันที่ 1-18 เมษายนนี้ โดยจะแยกขายซองดิวตี้ฟรี สนามบินสุวรรณภูมิและพื้นที่เชิงพาณิชย์ในสุวรรณภูมิก่อน จากนั้นจะขายซองประมูลดิวตี้ฟรี อีก 3 สนามบินคือหาดใหญ่ ภูเก็ต เชียงใหม่ ตามมาฟังดูเหมือนดีที่ทอท.ออกมายอมถอย! ออกปรับทีโออาร์ ตามที่บิ๊กตู่ “ติง”แต่เรื่องนี้ยังไม่จบแค่นี้! เพราะเรื่องใหญ่ที่จะเป็นปัญหาตามมาและยังไม่“เคลียร์ให้ชัด” คือการตีความว่า “เข้าข่ายพ.ร.บ.ร่วมทุน” หรือไม่ ซึ่ง ณ ขณะนี้ ทอท.ยังไม่ได้“ไขเรื่องนี้” ให้กระจ่าง

ยิ่งไล่เลียงดูก็จะเห็นภาพชัดว่า บอร์ดนโยบายพ.ร.บ.ร่วมทุน PPP ปี 2562 ที่เพิ่งทำคลอดเมื่อเดือนที่แล้ว และเพิ่งเริ่มจัดประชุมนัดแรก เมื่อวันศุกร์ที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมี “นายกฯลุงตู่” เป็นประธาน ขุนคลัง อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ บิ๊กกระทรวงหูกวาง อาคม เติมพิทยาไพสิฐเข้าร่วมประชุมพร้อมหน้า มีเพียงรองนายกฯ “สมคิดจาตุศรีพิทักษ์” ที่ไม่ได้เข้า เพราะขอลาราชการ 2 วัน โดยเป็นการประชุมหลังจากที่บอร์ดทอท.ไฟเขียวเรื่องหั่นสัญญาสัมปทานเป็น 2 สัญญาเพียงวันเดียว

วาระสำคัญของการประชุมในวันนั้นคือตั้ง คณะอนุกรรมการด้านก.ม. โดยให้อัยการสูงสุดเป็นประธาน ไขปมให้กระจ่างเรื่องสัมปทานดิวตี้ฟรีโดยตรง และ “กำชับ” ให้ผลออกมาอย่างเร็วที่สุด ซึ่งถ้าเข้าข่าย พ.ร.บ.ร่วมทุนตามที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกต ก็คงเป็นหนังคนละม้วนกับที่ บิ๊กทอท.ออกมาประกาศปาวๆ และถ้ายังฝืนลุยไฟกันต่อไปเรื่องนี้ก็ต้องมีคนรับผิดชอบที่ไม่ใช่แต่รัฐบาล แต่ต้องเป็นบอร์ดและผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง เพราะรัฐบาล “ทหาร” คงไม่อยากมีมลทินติดตัว เจอปัญหา “ถูกฟ้องร้อง” ตามมาในภายหลัง จึงต้องอาศัย “อัยการสูงสุด” มานั่งหัวโต๊ะ ทำเรื่องนี้ให้เคลียร์คัต สะอาด โปร่งใส ว่างั้นเถอะ

ตัดภาพไปที่ภาคเอกชนขาใหญ่ค้าปลีกเมืองไทย เตรียมพร้อมที่จะพาเหรด เปิด “ศึกชิงขุมทรัพย์” ทั้งดิวตี้ฟรีและพื้นที่ค้าปลีก กันครบทุกค่ายแล้ว ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มเซ็นทรัล เดอะมอลล์ สยามพิวรรธน์ เกษตร หรือแม้แต่ กลุ่มบางกอกแอร์เวย์ส ทุนไทยแท้แล้วยังมีกลุ่มทุนเลือดผสมบิ๊ก “ทุนดิวตี้ฟรีข้ามชาติ” ล็อตเต้-ดีเอฟเอส ที่จับขั้วกับทุนไทย และเจ้าเก่าอย่าง “คิงเพาเวอร์” ที่เชื่อว่าครั้งนี้ยอมทุ่มหมดหน้าตัก สู้ไม่ถอย เพื่อช่วงชิงบัลลังก์คืน ประเมินเบื้องต้นน่าจะมี 3 กลุ่มใหญ่ที่เป็นตัวแปรสำคัญ ในการประมูลครั้งนี้ ที่เหลือต้องวัดกำลังภายในกันละว่าระหว่างทุนเจ้าถิ่นกับหน้าใหม่ที่ท้าชิงว่าใครจะมาเหนือเมฆกว่ากัน ยิ่งช่วงเปลี่ยนขั้วรัฐบาล การเมืองร้อนๆแบบนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอมิใช่รึ?

มาคุยกับฐาน ทันทุกข่าวสาร แค่เพิ่มเราเป็นเพื่อน คลิกเลย!!!!! LINE : @THANSETTAKIJ 
ฐานโซไซตี  : เปิด 3 กลุ่มใหญ่ พร้อมร่วมประมูล ชิงขุมทรัพย์ดิวตี้ฟรี

ประกาศเปิดตัวฮือฮาอย่างเป็นทางการกับเม็ดเงินทุ่มจัดอีเวนต์ร่วม 6 ล้านบาท กับโฉมใหม่ของโครงการ “ดุสิตเซ็นทรัลพาร์ค” มูลค่า 3.6 หมื่นล้านบาท ที่จัดงานแถลงข่าวผ่านสายตาสื่อมวลชนต่อด้วยงานเลี้ยงภาคคํ่าที่เชิญแขกเหรื่อวีไอพี เซเลบริตี ร่วม 700 คนมาร่วมงาน อย่างเป็นทางครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา โดยเลือกที่จะเปิดล็อบบี้ โรงแรมดุสิตธานีอีกครั้ง หลังปิดสวิตช์ไปเมื่อ 3 เดือนที่แล้วกลับมาให้การต้อนรับแขกเหรื่อ มีการลงทุนทาสีเสากลางล็อบบี้ใหม่เป็นโทนสีขาวเพื่อเข้ากับบรรยากาศ ของการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ทั้งโรงแรม-ศูนย์การค้า-ออฟฟิศ-ที่อยู่อาศัย

โครงการนี้เกิดขึ้นจากการร่วมทุนระหว่าง 2 บิ๊กธุรกิจยาวนานตำนานโรงแรมดุสิตธานีกว่า 70 ปี โดย“ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย” กับค่ายเซ็นทรัลก็อยู่ในวงการค้าปลีกมากว่า 70 ปี โดยพี่ใหญ่ของตระกูล “คุณสัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์” ที่เป็นผู้บุกเบิก และเซ็นทรัลเปิดตัวมิกซ์ยูสแห่งแรกด้วยการเช่าที่ดินการรถไฟฯ ผุดห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว ออฟฟิศให้เช่า และโรงแรม เมื่อ 40 ปีก่อน

มาถึงวันนี้ “วัลยา จิราธิวัฒน์” บอกว่า ดุสิต เซ็นทรัลพาร์ค จะเป็นมากกว่ามิกซ์ยูส เป็น “Super Core CBD” ทำให้เกิด “นิว จังชัน” ใหม่เชื่อมโยงทุกย่านสำคัญของกรุงเทพมหานครต่อจิ๊กซอว์เชื่อม 4 ย่านสำคัญ 4 ทิศมุ่งตรงสู่ใจกลางเดียว คือ ทิศเหนือ ย่านราชประสงค์ ทิศใต้ย่านเจริญกรุง ทิศตะวันออกสุขุมวิท ทิศตะวันตกคือเยาวราช ซึ่งมีทั้งย่านธุรกิจสำคัญกับร่องรอยของอารยธรรม โดยอาศัยข้อได้เปรียบที่ว่าเป็นจุดตัดของ รถไฟฟ้า 2 สาย คือ MRT และ BTS และมีสวนลุมพินี ปอดใหญ่ของคนกรุง แถมทุกอาคารการออกแบบ จะเห็นวิวสีเขียวของสวนลุม แนวคิดของโครงการจึงออกมาเป็น “Here For Bangkok”

ถัดจากแยกสีลม ถนนพระราม 4 ไปอีก 1 แยกก็จะเจอ สี่แยกสวนลุมพินีตัดกับถนนสาทรก็จะเห็นการตอกเสาเข็ม “One Bangkok” มูลค่า 1.2 แสนล้านบาท ของ “เจ้าสัว เจริญ สิริวัฒนภักดี” ดุสิตเซ็นทรัลพาร์ค ตั้งเป้าเปิดตัวเต็มโครงการในปี 2566 หรืออีก 4 ปีข้างหน้าใกล้เคียงกับของเจ้าสัวเจริญ ทั้ง 2 โครงการมีหลายสิ่งที่คล้ายกันและกำลังชิงความได้เปรียบในการปักหมุดความเป็น “แลนด์มาร์ก” แห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร ที่นอกเหนือจากทำเลที่ตั้งแล้ว ที่เหลือก็ต้องวัดกันด้วยฝีมือล้วนๆ ใครจะเหนือชั้นกว่ากัน ไม่นานเกินรออีก 4 ปีรู้เรื่อง


|คอลัมน์ : ฐานโซไซตี
|โดย : พริกกะเหรี่ยง
|หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3458 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 4-6 เม.ย.2562