รอเผา "ปาล์ม" อีกแสนตันปั่นไฟฟ้า! จี้คู่สัญญาเร่งส่งมอบ-จูงใจจ่ายเงินเร็ว
พาณิชย์แจงโค้งสุดท้ายมาตรการใช้น้ำมันปาล์มดิบปั่นไฟฟ้า ช่วยดันราคาปาล์มเกษตรกร ล่าสุด เหลือส่งมอบอีกแสนตัน เร่งคู่สัญญาดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 20 เม.ย. จูงใจจ่ายเงินเร็วขึ้น เป้าช่วยลดสต๊อกเหลือ 2.7 แสนตัน
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ได้ลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อจัดประชุมเกี่ยวกับมาตรการใช้น้ำมันปาล์มดิบเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าตามมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ ซึ่งคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ ได้มีมติเมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2562 เห็นชอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพิ่มอัตราการใช้น้ำมันปาล์มดิบในการผลิตกระแสไฟฟ้า จากเดิมวันละ 1,000 ตัน เป็นวันละ 1,500 ตัน และรับมอบน้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ) ตามสัญญาซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบส่วนที่เหลือทั้งหมด จัดเก็บที่คลังรับฝาก จ.สุราษฎร์ธานีและฉะเชิงเทราโดยเร็ว โดย กนป. ได้เสนอคณะรัฐมนตรีทราบแล้วเมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2562
ดังนั้น เพื่อดำเนินการให้เป็นตามมติ กนป. กรมการค้าภายในได้ร่วมกับ กฟผ. จัดประชุมชี้แจงหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีดำเนินการ มาตรการใช้น้ำมันปาล์มดิบในการผลิตกระแสไฟฟ้าให้แก่คู่สัญญาของ กฟผ. ทั้งนี้ กฟผ. ได้ทำสัญญาซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบกับผู้ประกอบการที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกครบตามเป้าหมาย 160,000 ตัน และถึงปัจจุบันได้รับมอบน้ำมันปาล์มดิบที่ท่าเทียบเรือโรงไฟฟ้าบางปะกงแล้ว จำนวนประมาณ 60,000 ตัน จากมติ กนป. ดังกล่าว คู่สัญญาของ กฟผ. ที่เดิมกำหนดให้ส่งมอบน้ำมันปาล์มดิบในช่วงเดือน เม.ย. ถึง ก.ค. 2562 ซึ่งคงเหลือประมาณ 100,000 ตัน จะต้องส่งมอบน้ำมันปาล์มดิบที่เหลือทั้งหมด ภายในวันที่ 20 เม.ย. 2562 ณ คลังรับฝากที่ กฟผ. จัดหาในพื้นที่สุราษฎร์ธานีและฉะเชิงเทรา เพื่อดึงผลผลิตออกจากระบบไม่ให้หมุนเวียนในตลาด
"กฟผ. ได้ปรับเงื่อนไขการชำระเงินค่าน้ำมันปาล์มดิบให้เร็วขึ้น ทั้งนี้ เพื่อให้คู่สัญญาได้ดำเนินการรับซื้อผลผลิตผลปาล์มน้ำมันจากเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันให้เร็วขึ้นตามเป้าหมายของรัฐบาล โดยรับซื้อผลปาล์มในปริมาณที่สอดคล้องกับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบที่ขายให้แก่ กฟผ."
นอกจากมาตรการข้างต้นแล้ว กรมการค้าภายในได้ขอความร่วมมือกระทรวงมหาดไทยส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 โดยมอบหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกับบริษัทผู้ค้าน้ำมันกระจายการจำหน่าย บี20 ลงสู่ระดับพื้นที่ให้มากขึ้นในทุกวิถีทาง รวมทั้งเชื่อมโยงการนำน้ำมัน บี100 ให้เกษตรกรนำไปใช้กับเครื่องมือทางการเกษตร ในส่วนของ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นแหล่งผลิตปาล์มน้ำมันสำคัญของประเทศ ภายใต้การบริหารของผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่ผลักดันการพัฒนาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มจนเป็นสุราษฎร์ธานีโมเดล ที่เป็นรูปแบบให้แก่จังหวัดแหล่งผลิตปาล์มอื่น จากการลงพื้นที่พบว่า จ.สุราษฎร์ธานี มีสถานีบริการที่จำหน่าย บี20 กระจายอยู่ค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่น
สำหรับมาตรการใช้น้ำมันปาล์มดิบเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าที่กรมการค้าภายใน และ กฟผ. ได้เร่งรัดดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง บัดนี้ ใกล้บรรลุเป้าหมายในการดูดซับน้ำมันปาล์มดิบส่วนเกินครบ 160,000 ตันแล้ว และราคาผลปาล์มน้ำมันก็มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับการเร่งรัดผลักดันการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 เพิ่มขึ้น จะช่วยเพิ่มพื้นที่รองรับผลปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มที่ออกสู่ตลาดต่อเนื่องได้จำนวนหนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้สถานการณ์ปัญหาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มคลี่คลายลงได้ในไม่ช้า
"ราคาผลปาล์มขณะนี้อยู่ที่ 2.60-2.70 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งการส่งมอบจะต้องจบภายในเดือน พ.ค. เพื่อที่จะดูว่าจะสามาถดูดซับน้ำมันปาล์มออกจากระบบได้เร็วที่สุด สำหรับสต๊อกขณะนี้ มี 3.7แสนตัน ซึ่งถ้าสามารถดูดซับส่วนเกินไปได้ 1 แสนตัน น่าจะช่วยให้สต็อกเหลือ 2.7 แสนตัน"
