อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือน มี.ค. 2019 เร่งตัวมาอยู่ที่ 1.24%

02 เม.ย. 2562 | 03:48 น.


อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือน มี.. 2019 เร่งตัวมาอยู่ที่ 1.24% ตามการเพิ่มขึ้นของราคาอาหารสดและราคาน้ำมัน

• อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือน มี.ค. อยู่ที่ 1.24%YOY เร่งขึ้นจาก 0.73%YOY ในเดือนก่อนหน้า ตามราคาอาหารสดและราคาพลังงานเป็นสำคัญ โดยดัชนีราคาหมวดอาหารสดปรับเพิ่มขึ้น 3.75%YOY จากราคาข้าว-แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง ราคาเนื้อสัตว์และราคาผักผลไม้ เป็นสำคัญ โดยการสูงขึ้นของราคาผักผลไม้นับเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน จากปัญหาภัยแล้งที่ทำให้ปริมาณผลผลิตเข้าสู่ตลาดน้อยลง ในส่วนของดัชนีราคาพลังงานพลิกปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ 2.07%YOY หลังจากราคาลดลงติดต่อกัน 3 เดือน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบโลกมีการปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา (ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เฉลี่ยเดือน มี.ค. อยู่ที่ 66.41 เทียบกับเดือน ก.พ. ที่อยู่ที่ 64.13 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล)

• สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.58%YOY ทรงตัวในอัตราใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้าที่ 0.60%YOY ตามทิศทางการทรงตัวของราคาสินค้าในหมวดอาหารสำเร็จรูป ราคาค่าเช่า ที่พักอาศัย และราคาหมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล เป็นสำคัญ

• ทั้งนี้ ภาพรวมอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในไตรมาสแรกของปี 2019 อยู่ที่ 0.74%YOY ชะลอลงจาก 0.84%YOY ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2018 โดยหมวดสินค้าที่มีราคาลดลง คือ สินค้าหมวดพลังงาน ที่ราคาปรับลดลง -0.78%YOY ตามทิศทางการลดลงของราคาน้ำมันดิบโลกในช่วงไตรมาสแรกของปี 2019 อย่างไรก็ดี ราคาสินค้าหมวดอาหารสดมีทิศทางเร่งขึ้นที่ 2.51%YOY ตามราคาข้าว เนื้อสัตว์ และผักผลไม้ เป็นสำคัญ ขณะที่ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยไตรมาสแรกอยู่ที่ 0.62%YOY ชะลอลงจากไตรมาสที่ 4 ปี 2018 ที่อยู่ที่ 0.71%YOY

 


อีไอซีปรับลดประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปี 2019 มาอยู่ที่ 0.9%YOY จากคาดการณ์เดิมที่ 1.0%YOY เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในช่วงไตรมาสแรกออกมาชะลอมากกว่าที่คาด โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องที่ประมาณ 0.6% โดยอีไอซีประเมินว่า ราคาพลังงานจะเป็นปัจจัยกดดันสำคัญที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อมีทิศทางชะลอลงจากปีก่อน เนื่องจากคาดว่า ราคาน้ำมันในปี 2019 จะมีค่าเฉลี่ยต่ำกว่าปีก่อนหน้าประมาณ 7% (คาดการณ์ราคาน้ำมันเบรนท์เฉลี่ยปี 2019 อยู่ที่ประมาณ 66 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล เทียบกับปี 2018 ที่มีค่าอยู่ที่ 71 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล)

อย่างไรก็ดี ในส่วนของราคาอาหารสด คาดว่าจะมีทิศทางเร่งขึ้นจากปีก่อนจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดจากปัจจัยภัยแล้งเป็นสำคัญ ทั้งนี้ จากข้อมูลรายงาน "การเฝ้าระวังปรากฎการณ์เอลนีโญ ลานีญา" ของกรมอุตุนิยมวิทยา [1] เมื่อเดือน มี.ค. พบว่า ในช่วงเวลาปัจจุบัน ประเทศไทยมีสภาวะเอลนีโญกำลังอ่อน (แล้งไม่มาก) โดยกรมอุตนิยมวิทยาคาดว่า ไทยจะมีสภาวะดังกล่าวไปจนถึงเดือน เม.ย. และจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้ง จึงทำให้คาดว่า การที่ราคาอาหารสดปรับเพิ่มสูงขึ้นเกินระดับปกติจะเป็นเพียงเหตุการณ์ชั่วคราวเท่านั้น ในส่วนของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานนั้น คาดว่าจะมีระดับทรงตัวใกล้เคียงกับปีก่อนหน้าที่ประมาณ 0.8% โดยคาดว่า ค่าแรง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการปรับเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน จะมีการขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากตลาดแรงงานยังคงมี Slack ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันการเพิ่มขึ้นของค่าแรง ขณะที่ แนวโน้มการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำตามนโยบายของหลายพรรคการเมืองนั้น หากเกิดขึ้นจริง ก็น่าจะต้องมีระยะเวลาผ่อนปรนก่อนการบังคับใช้ เพื่อให้ผู้ประกอบการปรับตัว ซึ่งอาจทำให้ค่าแรงยังไม่สามารถปรับเพิ่มได้ทันที จึงทำให้คาดว่า นโยบายดังกล่าวน่าจะมีผลกระทบน้อยในปีนี้

• คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อปี 2019 ที่ต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมายนโยบายการเงิน จะเป็นการลดโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงที่เหลือของปี โดยอีไอซีประเมินว่า หากอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปีอยู่ต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมายนโยบายการเงินที่ 1% ก็จะเป็นข้อจำกัดสำคัญของการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในระยะต่อไป ทั้งนี้ อีไอซีประเมินว่า กนง. จะดำเนินนโยบายการเงินโดยพิจารณาพัฒนาการของข้อมูลเศรษฐกิจเป็นสำคัญ (Data Dependent) และหากมีการปรับดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ก็จะเป็นไปในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป

ที่มา : Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์

 

อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือน มี.ค. 2019 เร่งตัวมาอยู่ที่ 1.24%