พปชร. เรียกร้องจับขั้วรัฐบาล หลังรู้ผลคะแนนทางการ

29 มี.ค. 2562 | 08:20 น.


พปชร. แถลงการณ์ 3 ข้อ เรียกร้องจับขั้วการเมือง หลัง กกต. รับรองผลทางการ ชี้! ทุกพรรคมีสิทธิตั้งรัฐบาล จี้ กกต. แจงข้อกังขาสังคม ปัดฮุบ! กระทรวงเศรษฐกิจ ขอสื่อเลิกตั้งคำถามปักหมุดจ้องซื้องูเห่า

พรรคพลังประชารัฐนัดประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์และนโยบายของพรรค โดยมี นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค เป็นประธาน มีแกนนำและคณะกรรมการยุทธศาสตร์เข้าร่วม เช่น นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์ภาคอีสาน, นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลาง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์ภาคเหนือ, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ประธานยุทธศาสตร์ กทม., นายสุชาติ ตันเจริญ, นายสันติ พร้อมพัฒน์, นายอิทธิพล คุณปลื้ม แกนนำพรรค, นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค

นายอุตตม อ่านแถลงการณ์ของพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า จากผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. ที่ผ่านมา พรรคพลังประชารัฐขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ให้ความไว้วางใจเลือกผู้สมัครและพรรคพลังประชารัฐ จนได้รับคะแนนสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 8,433,137 คะแนน โดยมีผู้สมัครที่ชนะการเลือกตั้งครบทุกภูมิภาคของประเทศ ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ และกรุงเทพฯ ดังนั้น 1.พรรคพลังประชารัฐขอยึดมั่นและจะทำหน้าที่ภายใต้รัฐธรรมนูญ เพื่อปกป้องรักษาประโยชน์ของประเทศชาติและพี่น้องประชาชน ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

 

พปชร. เรียกร้องจับขั้วรัฐบาล หลังรู้ผลคะแนนทางการ

 


2.พรรคพลังประชารัฐขอเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมืองเคารพการตัดสินใจของพี่น้องประชาชนในทุกคะแนนเสียงที่ได้เลือกผู้สมัคร หรือ พรรคการเมืองใดก็ตาม ย่อมถือว่าเป็นสิทธิของประชาชน ผู้ใดก็ตามไม่ควรที่จะนำไปไกล อ้างว่าประชาชนที่สนับสนุนฝ่ายตนเองเป็นฝ่ายที่ชอบธรรมแต่ฝ่ายเดียวเท่านั้น เพราะจะนำไปสู่การแบ่งแยกพี่น้องประชาชนอันอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคมเหมือนเดิม

และ 3.พรรคพลังประชารัฐมีจุดยืนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ว่า ทุกพรรคการเมืองสามารถรวบรวมเสียงในการจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ในระหว่างที่ กกต. ยังไม่สามารถประกาศและรับรองผลการเลือกตั้งอย่างทางการ โดยเฉพาะการคำนวณจำนวน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ดังนั้น การรวบรวมเสียง ส.ส. เพื่อสนับสนุนการรัฐบาล ย่อมยังจะไม่มีผลทางการเมืองที่จะประกาศชัดเจนว่า ขั้วการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีเสียงสนับสนุนครบถ้วนถูกต้องแล้ว

นายอุตตม ยังกล่าวถึงความมั่นใจในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ว่า ขณะนี้ กกต. ยังไม่ได้แถลงผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ การพูดเรื่องจัดตั้งรัฐบาลถือว่ายังไม่สิ้นสุด แต่การเจรจาเป็นเรื่องปกติทางการเมือง ดังนั้น เราจะยังไม่แถลงสิ่งใด ๆ ก่อนเวลาที่จะรับทราบผลอย่างเป็นทางการจาก กกต. ส่วนจะได้คะแนนเกินกึ่งหนึ่งหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพูดคุยกับพรรคการเมืองอื่น ๆ แต่ขอยังไม่พูดว่าจะฟอร์มรัฐบาลได้ หรือ รัฐบาลเป็นของเรา เพราะขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการ จึงไม่ขอเอ่ยชื่อพรรคการเมืองที่ได้ไปคุยมา

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวพรรค พปชร. จะกุมกระทรวงเศรษฐกิจไว้ทั้งหมด จึงทำให้พรรคการเมืองอื่นไม่กล้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาล ... นายอุตตม กล่าวว่า ยังไม่มีการต่อรองตำแหน่งใด ๆ ทั้งสิ้น รวมถึงไม่มีการกว้านซื้อตัว ส.ส. ตามที่มีกระแสข่าวอย่างแน่นอน

 


ด้าน นายสนธิรัตน์ กล่าวถึงกรณีที่ กกต. ถูกวิจารณ์ว่าทำหน้าที่เข้าข้างพรรคพลังประชารัฐ ว่า พรรคเราก็เหมือนพรรคอื่นที่เข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งภายใต้กฎเกณฑ์เดียวกัน ไม่มีใครช่วย และ กกต. ก็ไม่ได้ช่วย ตรงกันข้าม ทางพรรคก็อยากเรียกร้องให้ กกต. ชี้แจงข้อกังขาของสังคมไทยที่มีต่อ กกต. เช่น การประกาศคะแนนที่ล่าช้ามาจากสาเหตุใด การประกาศคะแนนจาก 95% เป็น 100% คะแนนที่เพิ่มขึ้นมาจากไหน การนับคะแนนบัตรดี บัตรเสีย และระบบการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่พรรคมีคะแนนรวมมากขึ้น จาก 7 ล้านกว่าคะแนน เป็น 8 ล้านกว่าคะแนน แต่กลับมีตัวเลข ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลดลง จึงอยากให้ กกต. ชี้แจงความชัดเจน เพราะพรรคก็มีข้อกังขาเช่นกัน ดังนั้น กกต. ต้องพิสูจน์ตัวเอง

นายสนธิรัตน์ ย้ำว่า ขอให้ทุกฝ่ายเคารพทุกเสียงของประชาชน และไม่ควรถูกนำไปกล่าวอ้างเพื่อสร้างความชอบธรรม ซึ่งพรรคมีความกังวลเรื่องการแบ่งฝ่ายนำไปสู่ความขัดแย้ง ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ

"บรรยากาศในขณะนี้ ที่น่าเป็นห่วง คือ การใช้คำพูดปักหมุดแล้วขยายผล แล้วสังคมก็จะหลงตามคำพูดนั้น ๆ ดังนั้น ในแต่ละคำถามที่เกิดขึ้น ผมขอให้ใช้ความเป็นจริงและข้อเท็จในการติดตามสถานการณ์ อย่างเช่น กรณีที่ระบุว่า มีการซื้อตัวต่าง ๆ จะซื้อได้อย่างไร เมื่อคะแนนยังไม่นิ่ง แล้วมาโยนให้ทางพรรคเป็นผู้ทำงูเห่า ดังนั้น ผมขอถามกลับว่า มาทำงูเห่าทางพรรคพลังประชารัฐบ้างหรือเปล่า มาซื้อตัวคนของพรรคผมบ้างหรือไม่ อันนี้ คือ คำถาม ดังนั้น อย่าไปปักหมุดอะไรทั้งสิ้น ส่วนความเคลื่อนไหวในการฟอร์มทีมรัฐบาลเป็นเรื่องของพรรคแกนนำ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ

แต่การฟอร์มรัฐบาลครั้งนี้แตกต่างจากอดีตโดยสิ้นเชิง เพราะมีเงื่อนเวลาของงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งสำคัญที่สุดของพี่น้องชาวไทย ดังนั้น การประกาศผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจึงมีขึ้นหลังพระราชพิธี บัดนี้ การเลือกตั้งเสร็จแล้ว อาจจะเห็นโฉมหน้ารัฐบาลได้บ้าง แต่ยังไม่สามารถเห็นบทสรุป จึงต้องรอให้ กกต. ประกาศผลอย่างเป็นทางการ และตอนนั้นจึงจะนำไปสู่การรวบรวมเสียงที่ชัดเจน ระหว่างนี้พรรคก็จะทำงานของพรรคและเตรียมร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากที่สุดในเดือน เม.ย. เป็นต้นไป" นายสนธิรัตน์ กล่าว