"งูเห่า" ภาค 3 ... ตัวแปรตั้งรัฐบาล

พรรคพลังประชารัฐเดินหน้าจับขั้วจัดตั้งรับบาล 270-280 เสียง ... 'สนธิรัตน์' มั่นใจมีเสถียรภาพ เผยเงื่อนไข 'อนุทิน' เปิดทางร่วมพลังประชารัฐ ... นักวิเคราะห์คาด "งูเห่า ภาค 3" เป็นตัวแปรตั้งรัฐบาล

หลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. ที่ผ่านมา ประชาชนกำลังติดตามความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลระหว่าง "พรรคเพื่อไทย" และ "พรรคพลังประชารัฐ" ที่ต่างอ้างความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาลด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย

หากวิเคราะห์จากตัวเลขรายงานผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ล่าสุด ที่ 94% เริ่มปรากฏโฉมหน้าของรัฐบาลกันให้เห็นบ้างแล้ว จากตัวเลขกว่า 7.9 ล้านเสียง ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) (อัปเดต ณ วันที่ 28 มี.ค. 2562 ผลคะแนนเลือกตั้ง 100% อย่างไม่เป็นทางการ พรรคพลังประชารัฐ 8,433,137 คะแนน) คาดหมายว่าจะได้เก้าอี้ ส.ส. อยู่ที่ 123 ที่นั่ง ขณะที่ ชั้วพรรคเพื่อไทย (พท.) ซึ่งมีตัวเลขอยู่ที่ 7.7 ล้านคะแนน (อัปเดต ณ วันที่ 28 มี.ค. 2562 พรรคเพื่อไทย 7,920,630 คะแนน) ได้ ส.ส. 133 ที่นั่ง

อย่างไรก็ดี กกต. ยืนยันว่าจะสามารถรายงานผลการนับคะแนนได้ครบทั้งหมดภายในวันที่ 29 มี.ค. นี้ แน่นอนว่า คะแนนเสียงที่เหลืออีก 5% นี้ จะมีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของชื่อและคะแนนการเลือกตั้งเปลี่ยนแปลงไปได้ ไม่นับรวมกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้จากการเลือกตั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้นระหว่างนี้ด้วย ดังนั้น การเมืองจึงอยู่ในสภาวะที่เหนือจะคาดเดา ทุกสิ่งล้วนเป็นไปได้ (อัปเดต ณ วันที่ 28 มี.ค. 2562 : พปชร. กวาดคะแนนพุ่ง 8.4 ล้าน - พท. 7.9 ล้าน - อนค. 6.2 ล้าน - ปชป. 3.9 ล้าน)


⁍ 2 พรรค แข่งตั้งรัฐบาล

สำหรับพรรคเพื่อไทยมีความเคลื่อนไหวต่อเนื่อง หลังจากที่ "คนแดนไกล" ทวีตข้อความมาในเวลาประมาณ 10.30 น. ของวันที่ 25 มี.ค. 2562 ว่า "จะยอมแพ้ไม่ได้" จากนั้นเวลา 14.40 น. ทีมยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยตั้งโต๊ะแถลงข่าวรับลูกว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมจัดตั้งรัฐบาลท่ามกลางการตั้งข้อสังเกตของสังคม ว่า ผู้ที่แถลงข่าวในครั้งนี้ ประชาชนไม่ได้มอบอำนาจให้ เพราะทุกคนต่างมีรายชื่อเป็นปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคเพื่อไทยทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์, นายภูมิธรรม เวชยชัย และนายโภคิน พลกุล

⇲ "เพื่อไทย" ลุยรวบรวมพรรคเล็กแข่งจัดตั้งรัฐบาล

ห้วงเวลาไล่เลี่ยกัน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่มีชื่อออกมาล่าสุดว่า จะกลายมาเป็นคู่ท้าชิงเก้าอี้นายกฯ คู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จากพรรคพลังประชารัฐ ได้แถลงข่าวระบุว่า ต้องให้พรรคที่มี ส.ส. มากที่สุดเป็นคนเสนอชื่อนายกฯ โดยพรรคอนาคตใหม่จะไม่เสนอชื่อของเขา สะท้อนนัยสำคัญว่า พรรคอนาคตใหม่พร้อมจะจับมือกับพรรคเพื่อไทย ท้าชนกับพรรคพลังประชารัฐ ท่ามกลางกระแสข่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อนายธนาธรเป็นนายกรัฐมนตรี


⁍ 'อนุทิน' ผนึก พปชร.

หากแต่ความสำคัญกลับไปตกอยู่ที่ชื่อของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่เรียกได้ว่า เนื้อหอมมากที่สุดเวลานี้ ได้รับความสนใจถูกทาบทามจากทั้ง 2 ขั้วการเมืองใหญ่ ที่ต่างต้องการ 51 เสียงของภูมิใจไทย มาสร้างเสถียรภาพให้กับรัฐบาล

⇲ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
 

ในขณะที่ นายอนุทิน แห่งพรรคภูมิใจไทย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า เกณฑ์การตัดสินใจในครั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้ 4 เงื่อนไขหลักสำคัญ คือ 1.ไม่มีความขัดแย้ง 2.รักประชาชน 3.เทิดทูนสถาบัน และ 4.ต้องทำให้ประเทศเจริญรุ่งเรือง มองจากเงื่อนไขนี้ เชื่อมั่นว่า โอกาสเป็นของฝั่งพรรคพลังประชารัฐ

 

⁍ คาดเกิด "งูเห่า ภาค 3"

น่าสนใจว่า ในวันที่ 9 พ.ค. ซึ่งเป็นเส้นตายที่ กกต. ต้องประกาศรับรองผลอย่างเป็นทางการ หาก 2 ขั้วการเมือง รวมเสียงแล้วยังก้ำกึ่งกัน โดยขั้วพลังประชารัฐได้ 242 เสียง ซึ่งประกอบด้วย พลังประชารัฐ 117 ที่นั่ง, ประชาธิปัตย์ 53 ที่นั่ง, ภูมิใจไทย 51 ที่นั่ง, ชาติพัฒนา 3 ที่นั่ง, ชาติไทยพัฒนา 11 ที่นั่ง รวมพลังประชาติไทย 5 ที่นั่ง และพลังท้องถิ่นไท 2 ที่นั่ง

ขณะที่ ขั้วพรรคเพื่อไทยได้ 238 เสียง ซึ่งประกอบด้วย จากเพื่อไทย 137 ที่นั่ง, อนาคตใหม่ 80 ที่นั่ง, เสรีรวมไทย 10 ที่นั่ง, ประชาชาติ 6 ที่นั่ง และเพื่อชาติ 5 ที่นั่ง

สถานการณ์การเมืองไทยจะเดินซ้ำรอยย้อนกลับไปสู่ตำนาน “งูเห่า” ปรากฏการณ์ที่ลูกพรรคสวนมติหนุนขั้วตรงข้าม ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้ว 2 ครั้ง 2 ครา

ในปี 2540 หลังจากที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประกาศลาออก จากนั้นจึงเป็นการช่วงชิงกันจัดตั้งรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มี นายชวน หลีกภัย เป็นหัวหน้าพรรค โดยเวลานั้นมี 196 เสียง กับพรรคชาติพัฒนาที่มี พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นหัวหน้าพรรค โดยพรรคเสรีธรรมและพรรคกิจสังคมที่ร่วมรัฐบาลอยู่นั้น ได้โยกมาอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ส. 12 คน จากพรรคประชากรไทยมาร่วม ทำให้พรรคประชาธิปัตย์มี 208 เสียง เป็นรัฐบาล นี่คือ จุดเริ่มต้นของตำนาน "งูเห่า" ภาคแรก

⇲ ทักษิณ ชินวัตร

"งูเห่า ภาค 2" เกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2551 กับพรรคของ นายทักษิณ ชินวัตร หลังจากที่พรรคพลังประชาชนถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค และกลายพันธุ์มาเป็นพรรคเพื่อไทย นายเนวิน ชิดชอบ อดีตมือขวาของนายทักษิณ ได้ดึงกลุ่ม ส.ส.พรรคพลังประชาชน จำนวน 23 คน ไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย และโหวตหนุน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ


⁍ ฉก "งูเห่าเพื่อไทย" ร่วม

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ในการจัดตั้งรัฐบาลในซีกของพลังประชารัฐตั้งเป้ารวบรวม ส.ส. ให้ได้ 270-280 เสียงเท่านั้น เพราะหากดึงมาร่วมรัฐบาลมากกว่านั้นจะมีปัญหาในเรื่องการต่อรองโควตารัฐมนตรี โดยจะดึงพรรคขนาดเล็กและ ส.ส.บางกลุ่มจากพรรคเพื่อไทยเข้ามาร่วมรัฐบาล เนื่องจาก ส.ส.เขต ของเพื่อไทยหลายคนที่ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ชนะมาด้วยความสามารถของตัวเองโดยที่พรรคไม่ได้ดูแล

ประกอบกับแกนนำพรรคที่เคลื่อนไหวและออกมาแถลงข่าวกับสื่อมวลชนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เป็นผู้ดูแล ส.ส. โดยมีการส่งสัญญาณชัดเจนให้พรรคขนาดเล็กและ ส.ส. กลุ่มต่าง ๆ รีบตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล เพราะหากได้จำนวนเสียงครบตามที่กำหนดแล้วก็จะไม่รับพรรคใด หรือ กลุ่มไหนเข้ามาอีก

 

⁍ พปชร. ทาบ "ศก.ใหม่"

"การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ ทางพลังประชารัฐจะดึงพรรคเศรษฐกิจใหม่ ที่มี นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค เข้ามาร่วมรัฐบาลด้วย เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชื่นชอบวิธีคิดและการทำงานของนายมิ่งขวัญ จึงอยากได้ตัวมาช่วยงานด้านเศรษฐกิจ อีกทั้งนายมิ่งขวัญเคยมีบทเรียนที่เจ็บปวดกับนายทักษิณมาแล้ว จึงมีโอกาสสูงที่นายมิ่งขวัญจะเข้าร่วมรัฐบาล"

⇲ คำต่อคำ จุดยืน "มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์" เลือกขั้วไหน

อย่างไรก็ตาม การดึงพรรคต่าง ๆ เข้าร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐจะเกิดขึ้นหลัง กกต. รับรอง ส.ส. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

⁍ พปชร. เชื่อได้เสียงข้างมาก

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวแสดงความมั่นใจว่า จะสามารถรวบรวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยขณะนี้ ทุกอย่างกำลังเดินหน้าไป ขอให้ได้มีการพูดคุยกันก่อน

เมื่อถามว่า รวบรวมได้ถึง 280 เสียง หรือยัง? นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ขอตอบว่า เรามั่นใจ ไม่ต้องรีบ เพราะยังมีเวลา ต้องรอดูอีกหลายอย่าง แต่ภาพรวมเป็นไปในทิศทางบวก


⁍ พรรคใหญ่อู้ฟู่หมื่นล้าน

มีรายงานว่า ในศึกเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. ที่ผ่านมา มีพรรคใหญ่พรรคหนึ่งมีทุนใช้สำหรับการเลือกตั้งสูงถึง 14,000 ล้านบาท ซึ่งไม่รู้ว่าใช้เงินหมดหรือไม่ ว่ากันว่า ราคาค่าตัว ส.ส. นั้น เกรด A 8 ล้านบาท เกรด B 5 ล้านบาท เกรด C 3 ล้านบาท

ขณะที่ พรรคการเมืองใหญ่อีกพรรคหนึ่ง มีรายงานว่า สามารถระดมทุนมาใช้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้แค่ 680 ล้านบาทเท่านั้น เพราะเมื่อเรียกระดมทุนจากนายทุนต่าง ๆ ก็ได้รับคำตอบว่า อยู่ระหว่างพิจารณา


……………….

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,456 วันที่ 28 - 30 มี.ค. 2562 หน้า 01-02

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● กกต. แจงเฟซบุ๊ก 'นิติภูมิ' โพสต์เตรียมแจก 'ใบแดง 45 เขต' เป็นข่าวปลอม
● ปฏิบัติการรวบ 'ผู้แชร์ข่าวปลอม' เจอโทษคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท

บทความน่าสนใจ :
● '2 ขั้ว' ชิงนายกฯ เปิดศึกแย่งพรรคเล็ก
● ข้าพระบาท ทาสประชาชน : ยุทธศาสตร์เลือกตั้ง กับชัยชนะประชาชน