กลุ่มไทยอีสเทิร์นผนึก ม.เกษตรลงMOUรุกยกระดับยางพารา-ปาล์มน้ำมัน

23 มี.ค. 2562 | 08:47 น.

กลุ่มไทยอีสเทิร์น จับมือ ม.เกษตร ลงMOU รุกยกระดับยางพารา ปาล์มน้ำมัน ตั้งเป้าพัฒนาอุตสาหกรรมเติบโตอย่างยั่งยืน คาดมูลค่าทะลุกว่า 2 หมื่นล้าน
    
นายเฉลิม  โกกนุทาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทไทยอีสเทิร์น  เผยว่า กลุ่มบริษัทได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(MOU) ระหว่าง บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด และ บริษัท ไทยอีสเทิร์น อินดัสเตรียล แลนด์ จำกัด กับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการก่อตั้งศูนย์การเรียนรู้ การทําวิจัยด้านยางพาราและปาล์มน้ำมัน  เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน  โดยความร่วมมือครั้งนี้ จะส่งผลดีต่อภาคเกษตรกรรมโดยรวม  โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยางพาราและปาล์มน้ำมัน ได้แก่
    กลุ่มไทยอีสเทิร์นผนึก ม.เกษตรลงMOUรุกยกระดับยางพารา-ปาล์มน้ำมัน      1. ด้านองค์ความรู้ เช่น การคิดค้นหลักสูตรเพื่อสร้างบุคลากรรองรับอุตสาหกรรมเกษตรด้านยางพาราและปาล์มน้ำมัน รวมถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่เกษตรกรเพื่อพัฒนาผลผลิตต่อไป
2. ด้านงานวิจัย จะร่วมกันวิจัย คิดค้น สร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร ซึ่งจะผลักดันให้เกิดความร่วมมือกันระดับสากลในอนาคต  สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของกลุ่มบริษัทฯ " Your Global Partner for Sustainability" (พันธมิตรทางธุรกิจระดับโลกที่ยั่งยืน)
    
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัท เริ่มต้นจากครอบครัวเกษตรกร พัฒนาสู่อุตสาหกรรมเกษตรด้วยการก่อตั้งโรงงานผลิตน้ำมันปาล์ม เมื่อปี 2535 เพื่อรองรับผลผลิตที่จังหวัดชลบุรี และขยายสู่ธุรกิจอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงงานผลิตน้ำยางข้น ยางแท่ง ยางแท่งเกรดพิเศษ รวมถึงขยายพื้นที่เพาะปลูก ขยายสาขา ขยายกำลังการผลิต ปัจจุบันกลุ่มบริษัทมี 5  ธุรกิจ ประกอบด้วย ยางพารา ปาล์มน้ำมัน พลังงาน ขนส่ง และธุรกิจสำหรับร่วมทุน 
     กลุ่มไทยอีสเทิร์นผนึก ม.เกษตรลงMOUรุกยกระดับยางพารา-ปาล์มน้ำมัน นับว่า กลุ่มบริษัทเป็นโรงงานยางแท่งที่ใหญ่สุดในภาคตะวันออก  และเป็นกลุ่มที่ผลิตน้ำมันเมล็ดในปาล์ม (CPKO) ที่ใหญ่สุดในประเทศไทย  โดยมีโรงงานยางในภาคตะวันออก 3 โรง  โรงงานปาล์ม 2 โรง ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 โรงงาน นอกจากนี้ กลุ่มบริษัท ยังดำเนินธุรกิจ logistic เพื่อสนับสนุนการขนส่ง สร้างความสะดวกให้กับเกษตรกรผู้ผลิต มีจุดรับซื้อวัตถุดิบทั้งภาคกลาง ตะวันออก ตะวันออกเฉียงเหนือและ เหนือ ครบวงจร
    
สำหรับธุรกิจยางนั้น จะเน้นลูกค้ากลุ่มพรีเมี่ยม เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของลูกค้าในระดับ Global Brand เช่น กลุ่มผลิตยางล้อรถยนต์ บริดจ์สโตน /มิชลิน / Pirelli / Apollo / Continental / Sumitomo รวมถึงกลุ่มถุงมือยาง   ส่วนปาล์มน้ำมัน กลุ่มบริษัทจัดส่งให้ผู้ผลิตกลุ่มผลิตน้ำมันปรุงอาหาร และกลุ่มผลิตน้ำมัน B100 ซึ่งทั้งหมดอยู่ในระดับ Top 5 ของประเทศ  ทั้งนี้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในสินค้าของกลุ่มบริษัท เนื่องจากกลุ่มบริษัทมีการบริหารจัดการที่ดี ภายหลักใต้ธรรมาภิบาล  ทำให้เกิดพันธมิตรทางธุรกิจระดับโลกที่ยั่งยืน นั่นหมายความว่า จะเป็นพันธมิตรที่ก้าวเข้าไปสู่ธุรกิจที่ยั่งยืนร่วมกันต่อไปในอนาคต
  กลุ่มไทยอีสเทิร์นผนึก ม.เกษตรลงMOUรุกยกระดับยางพารา-ปาล์มน้ำมัน นายเฉลิม กล่าวต่อว่า ปีที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทมียอดขายรวมทั้งยางพาราและปาล์มน้ำมันกว่า 8,000 ล้านบาท โดยเฉพาะธุรกิจยางพารา  ซึ่งได้ขยายกำลังการผลิตยางแท่งจากเดิมเพิ่มขึ้นอีก 30 % และในปีนี้มีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตปาล์มน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก 50% รวมถึงแผนการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพในสายพลังงานอีกด้วย   สำหรับการเติบโตนั้นกลุ่มบริษัทได้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่อง  เป็นไปแบบมั่นคงและยั่งยืน ซึ่งความยั่งยืนนั้นนอกจากจะเกิดจากการบริหารจัดการที่ครอบคลุม ทันสมัย และมีธรรมาภิบาลแล้ว สิ่งสำคัญอย่างยิ่ง คือการสร้างเสริมบุคลากรให้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะการจัดการที่ตรงตามสายงาน ตอบสนองต่ออุตสาหกรรมการเกษตรโดยตรง  รวมถึงการเดินหน้างานวิจัยและพัฒนา เพื่อความก้าวหน้าอย่างยั่งยืนของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของความร่วมมือในครั้งนี้ 

อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือในครั้งนี้ ยังไม่สามารถประเมินค่าเป็นตัวเลขได้  แต่สามารถประเมินค่าความยั่งยืนที่จะเกิดขึ้นได้ และคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าการลงทุนภายในเขตประกอบการเพิ่มขึ้นกว่า 2 หมื่นล้านบาท
   กลุ่มไทยอีสเทิร์นผนึก ม.เกษตรลงMOUรุกยกระดับยางพารา-ปาล์มน้ำมัน  

"ประเทศไทยมีเศรษฐกิจรากฐานกว่า 70% เป็นอุตสาหกรรมเกษตร ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ ส่งผลให้ประเทศไทยมีข้อได้เปรียบด้านกายภาพ คือ ดินที่เอื้อต่อการผลิตสินค้าทางการเกษตรที่มีคุณภาพดีได้ แต่เรายังตามหลังนานาชาติในเรื่องของเทคโนโลยี ความรู้ การวิจัย รวมถึงนวัตกรรมต่างๆ อยู่ ทั้งที่ประเทศไทยมีดินดำ น้ำชุ่ม อากาศดี ขณะที่ต่างชาติมีเพียงเทคโนโลยี นวัตกรรมที่ไม่สามารถนำดินดำน้ำชุ่มไปใช้ได้ ซึ่งเราสามารถนำเทคโนโลยีเหล่านั้นมาสู่ดินดำน้ำชุ่มของไทยได้"

 ความร่วมมือในครั้งนี้ เกิดจากทั้งกลุ่มบริษัทไทยอีสเทิร์นฯ และม.เกษตรศาสตร์ เล็งเห็นถึงความสำคัญในการส่งเสริมการวิจัย พัฒนาและถ่ายทอดองค์ความรู้ เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน จึงได้ทำบันทึกข้อตกลงที่จะร่วมมือกันอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม  สนับสนุนการก่อตั้งศูนย์การเรียนรู้ทางด้านยางพาราและปาล์ม ส่งเสริมและสนับสนุนการทำวิจัยทางด้านยางพาราและปาล์ม รวมถึงการพัฒนาห้องปฏิบัติการมาตรฐานและห้องปฏิบัติการนวัตกรรมทางด้านยางพาราและปาล์มน้ำมัน
     กลุ่มไทยอีสเทิร์นผนึก ม.เกษตรลงMOUรุกยกระดับยางพารา-ปาล์มน้ำมัน

 ด้านนายจงรัก วัชรินทร์รัตน์ รักษาการแทนอธิการบดี  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ได้เผยถึงบทบาทหน้าที่ของ ม.เกษตรศาสตร์ ดังนี้  1. จัดทำหลักสูตรการสอนทางด้านยางพาราและปาล์ม   2. จัดหาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถที่เหมาะสม เพื่อเป็นวิทยากรในการถ่ายทอดองค์ความรู้ทางด้านยางพาราและปาล์ม   3. จัดหาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถที่เหมาะสม เพื่อเป็นประธานหลักสูตรทางด้านยางพาราและปาล์ม   4. ศึกษา วิจัย และพัฒนางานวิจัยทางด้านยางพาราและปาล์ม รวมถึงจัดหานักวิจัยที่มีความรู้ความสามารถที่เหมาะสมมาทำงานวิจัย   และ 5. จัดหาเครื่องมือ สถานที่ และบุคลากรให้มีความพร้อมในการรับบริการทดสอบตัวอย่าง
    

ขณะที่ผู้ประกอบการภาคเอกชน โดยนายเฉลิม โกกนุทาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าบริหาร กลุ่มบริษัทไทยอีสเทิร์น ได้เผยว่าสำหรับบทบาทหน้าที่ ของบริษัทคือ  1.ให้การสนับสนุนในการจัดทำหลักสูตรการสอนทางด้านยางพาราและปาล์ม   2.จัดเตรียมหัวข้อวิจัยและแนวทางการจัดการด้านทุนวิจัยสำหรับดำเนินการวิจัย  และ 3. ให้การสนับสนุนในการส่งตัวอย่างทดสอบของหัวข้อวิจัย   ทั้งนี้ สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาในผลงานวิจัย ผลงานประดิษฐ์คิดค้นที่เกิดขึ้นภายใต้บันทึกความร่วมมือข้อตกลงให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์หรือสิทธิร่วมกัน   ระหว่างผู้ประกอบการภาคเอกชนและ มหาวิทยาลัยฝ่ายละ 50%  มีระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ลงนามบันทึกข้อตกลงดังกล่าว

กลุ่มไทยอีสเทิร์นผนึก ม.เกษตรลงMOUรุกยกระดับยางพารา-ปาล์มน้ำมัน กลุ่มไทยอีสเทิร์นผนึก ม.เกษตรลงMOUรุกยกระดับยางพารา-ปาล์มน้ำมัน