'ทีนิวส์' ลั่น! จะตรวจสอบและเป็นศัตรูกับ 'ธนาธร' ไปชั่วนิรันดร์ตราบที่ยัง "ชังเจ้า"

22 มี.ค. 2562 | 13:36 น.

'ทีนิวส์' ประกาศจะตรวจสอบและเป็น "ศัตรู" กับ 'ธนาธร' และพรรคอนาคตใหม่ไปชั่วนิรันดร์ ตราบใดที่ยังมีอุดมการณ์ "ชังเจ้า"

ประกาศว่า ตัวเองเป็นคนกล้า ก็กล้าประกาศชัด ๆ ไปเลยว่า คิดอย่างไรกับสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่าแฝงพฤติกรรม "คนขลาด" เอาหลังพิง "เด็กไม่รู้อิโหน่อิเหน่" โจมตีทีนิวส์

กรณีที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้โพสต์ข้อความกล่าวหาสำนักข่าวทีนิวส์ ว่า ทำข่าวใส่ร้ายตนเองและพรรคอนาคตใหม่ ว่า มีความคิดล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น โดยอ้างจากข้อความบนเฟซบุ๊กของผู้รายงานข่าวคนหนึ่งของสำนักข่าวทีนิวส์ โดยระบุว่า ตนไม่ได้เขียนข่าวตามหลักเสรีภาพสื่อนั้น สำนักข่าวทีนิวส์ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง แล้วพบว่า

นายเอกชัย เรืองฉาย ผู้รายงานข่าวคนดังกล่าว ได้เข้ามาทำงานที่สำนักข่าวทีนิวส์ตั้งแต่เดือน ส.ค. 2561 โดยก่อนหน้านี้ไม่มีที่ไหนรับเข้าทำงาน ในช่วงทดลองงาน 4 เดือนแรก มีแนวโน้มที่จะไม่ผ่านทดลองงาน แต่สำนักข่าวทีนิวส์ยังให้โอกาสในการทำงานจนได้ผ่านทดลองงานในที่สุด และได้ทำงานมาจนถึงขณะนี้ โดยผู้รายงานข่าวคนดังกล่าวรับรู้รับทราบในอุดมการณ์และจุดยืนในการนำเสนอข่าวของสำนักข่าวทีนิวส์เป็นอย่างดี

โดยสำนักข่าวทีนิวส์ยืนยันหยัดในอุดมการณ์ในการหน้าที่ของสื่อในการนำเสนอข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรมในการรายงานข่าว พร้อมกับความรับผิดชอบที่สื่อพึงมีต่อสถาบันหลักของชาติในช่วงเวลาที่มีการแบ่งขั้ว เลือกข้างที่ชัดเจน ระหว่างฝ่ายที่มีความ "จงรักภักดี" กับฝ่ายที่มีอุดมการณ์ "ชังเจ้า" โดยการตรวจสอบข้อเท็จจริงของฝ่ายที่ไม่หวังดีกับสถาบันฯ ที่สำนักข่าวทีนิวส์ได้ทำมาโดยตลอด

 

'ทีนิวส์' ลั่น! จะตรวจสอบและเป็นศัตรูกับ 'ธนาธร' ไปชั่วนิรันดร์ตราบที่ยัง "ชังเจ้า"

 

ภายใต้จุดยืนและอุดมการณ์เช่นนี้ สำนักข่าวทีนิวส์มีระบบระเบียบในการทำงานข่าว โดยจะมีการประชุมข่าวรวมและการประชุมข่าวย่อยในแต่ละกลุ่มข่าว โดยได้ให้เสรีภาพและอิสระผู้รายงานข่าวสามารถเสนอประเด็นข่าวที่ตนเห็นว่าสำคัญ โดยมีบรรณาธิการ หัวหน้าข่าว เพื่อนผู้ร่วมงานคนอื่น ๆ ช่วยกันแตกประเด็น ขยายมุมมอง ข้อเท็จจริง ซึ่งผู้รายงานข่าวคนดังกล่าวก็ได้ปฏิบัติตามแนวทางนี้เหมือนผู้รายงานข่าวคนอื่น ๆ ทั้งนี้ ทีนิวส์ไม่เคยนำเสนอข่าวตรวจสอบนายธนาธรและพรรคอนาคตใหม่และพรรคการเมืองอื่น ๆ โดยมิใช่ข้อเท็จจริง ซึ่งผู้รายงานข่าวคนดังกล่าวก็ยอมรับในแนวทางปฏิบัติเช่นนี้และร่วมทำงานกันด้วยดี ก่อนหน้าที่จะมีการฟ้องร้องของพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งหากไม่เห็นด้วยกับทิศทางข่าวก็สามารถถอนตัวไม่ร่วมงานกับทีนิวส์ได้ตั้งแต่แรก

ในวันที่ 4 มี.ค. 2562 ได้มีรายงานข่าวข้อเขียนของ ม.จ.จุลเจิม เรื่อง "พรรคอนาคตใหม่มีความคิดล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์" โดยผู้รายงานข่าวคนดังกล่าวผ่านสื่อของสำนักข่าวทีนิวส์จริง โดยเป็นการนำเสนอประเด็นที่ไม่ได้นำเสนอผ่านที่ประชุมข่าวและผู้รายงานข่าวคนดังกล่าวสมัครใจทำรายงานชิ้นนั้นเอง โดยได้รายงานต่อหัวหน้าเพื่อทราบเท่านั้น มิได้มีการบังคับแต่อย่างใด โดยปรากฏในเนื้อหาข่าวดังกล่าวเป็นเพียงการนำเสนอข้อเขียนของ ม.จ.จุลเจิม ล้วน ๆ โดยไม่ได้มีการวิเคราะห์ หรือ นำเสนอข้อมูลใด ๆ มากไปกว่านั้น
 

ต่อมาในวันที่ 6 มี.ค. 2562 พรรคอนาคตใหม่ได้ฟ้องร้อง ม.จ.จุลเจิม และสำนักข่าวทีนิวส์ (เพียงสื่อเดียว) และสำนักข่าวทีนิวส์ได้ออกแถลงการณ์ยืนหยัดอุดมการณ์ ยืนยัน 'ธนาธร' เป็นอันตราย โดยยืนยันจะต่อสู้กับพรรคอนาคตใหม่ในศาล โดยได้รับผิดชอบเรื่องการเป็นคดีความทั้งหมดและยังได้ให้ผู้รายงานข่าวคนดังกล่าวทำหน้าที่ต่อโดยมิได้กล่าวโทษใด ๆ ยังให้ปฏิบัติงานต่อ

ผ่านล่วงเลยมา 16 วัน ในวันที่ 22 มี.ค. 2562 ผู้รายงานข่าวคนดังกล่าวได้โพสต์ข้อความระบุว่า เป็นการประกาสจุดยืนส่วนตัวผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งนายธนาธรได้นำข้อความดังกล่าวไปขยายผล โดยมีการระบุว่า "จะมีการถอนฟ้องผู้รายงานข่าวคนดังกล่าว" (ซึ่งเป็นเพียงสัญญาว่า "จะ") ในที่สุด

ซึ่งก่อนหน้านั้น ผู้รายงานข่าวคนดังกล่าวได้เล่าให้เพื่อร่วมงานฟัง ว่า ตนได้ไปปรึกษากับเพื่อนที่รู้กฏหมายและเพื่อนได้ให้ "คำแนะนำ" บางอย่าง จนนำไปสู่การโพสต์ข้อความของตนบนเฟซบุ๊กและการถอนฟ้องของนายธนาธรในเวลาต่อมา ซึ่งผู้รายงานข่าวคนดังกล่าว ได้กล่าวภายหลังว่า "ตนรู้สึกดีใจที่จะได้รับการถอนฟ้อง แต่ตอนนี้ไม่ได้ดีใจแล้ว" และเมื่อถามว่า นายธนาธรเอาไปโพสต์ นายเอกชัยก็ตอบว่า "ผมเจออะไรอยู่ คือ ผมตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของเขาด้วย"

นายธนาธรได้กล่าวถึงการกระทำของผู้รายงานข่าวคนดังกล่าวว่าเป็นความกล้า และเรียกร้องให้แสดงความกล้าออกมา แต่เราจะเรียกพฤติกรรมต่อไปนี้ว่าเป็นความกล้าได้หรือไม่

สำนักข่าวทีนิวส์ไม่เคยบังคับใครให้ต้องมีอุดมการณ์เหมือนกัน หรือกระทั่งถ้ามีอุดมการณ์ที่ตรงข้ามหากชัดเจน เราก็จะได้ร่วมต่อสู้กันด้วยความสง่างามในฐานะ "ศัตรู" ที่มีเกียรติต่อกัน แต่คนที่ประกาศมีอุดมการณ์ประชาธิปไตย อุดมการณ์เสรีนิยม แต่หากไร้ซึ่งอุดมการณ์แห่งความเป็นคน คนที่ฉวยโอกาสใช้ "คนอื่น" เป็นเครื่องมือ เป็น "เบี้ย" เป็น "หมาก" ที่จะหวังทำลายฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับตน มิหนำซ้ำยังกล้าอ้างความสูงส่งของหลักการ ความดีงามต่าง ๆ เหล่านี้หรือที่เรียกว่าเป็น "ความกล้า"

คนที่กล้าไม่มีใครที่พูดปลิ้นปล้อน ซ่อนความ ถ้านายธนาธรมีความกล้าจริง ไม่มีความจำเป็นต้องไปเอาโพสต์ของ "เด็ก" ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่แต่กลัวโดนฟ้องร้องมาโจมตีสำนักข่าวทีนิวส์ ไม่ต้องไปยุแยงให้ใครลุกขึ้นมา "กล้า" เริ่มที่ตัวเองก่อน

กล้าพูดออกมาเลยว่าจะจงรักภักดี

กล้าพูดออกมาเลยว่าจะไม่สนับสนุนฝ่ายชังเจ้า ถ้านายธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้มีความคิดความหวังที่จะล้มล้างเปลี่ยนแปลงการปกครองจริง กล้า ๆ พูดออกมาเลย

หรือไม่ทั้งนายธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ก็กล้าประกาศรับรองคำพูดของนายปิยะบุตร เลขาฯ พรรคที่ว่า "กษัตริย์มีพระราชดำรัสสดกับประชาชนไม่ได้ สิ่งที่กษัตริย์จะตรัสต่อประชาชนควรเป็นสิ่งที่ยกร่างโดยฝ่ายบริหาร" ให้ชัดเจนไปเลย

และนายธนาธรไม่ต้องมาแสดงความเห็นอกเห็นใจ "สื่อ" ใด ๆ หรอก เพราะถ้าเราต่างเชื่อว่า ต่างฝ่ายต่างมีอุดมการณ์และจุดยืนที่ชัดเจน และนายธนาธรไม่ล้มเลิกความคิดและการสนับสนุนฝ่าย "ชังเจ้า" ก็ขอให้เรามาเผชิญหน้าเป็นศัตรูกันในสมรภูมิแห่งความถูกต้อง มาเผชิญหน้ากันอย่างคนกล้า และทีนิวส์จะเป็น "ปีศาจ" ที่จะคอยตามตรวจสอบนายธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ให้ยิ่งกว่านี้เป็นทวีคูณ จนกว่ากาลจะสลาย แล้วสุดท้ายก็ให้ความดี ความจริงมาชี้วัดว่าใครกันแน่ที่จะหยัดยืนอยู่

สำนักข่าวทีนิวส์
22 มีนาคม 2562

 

'ทีนิวส์' ลั่น! จะตรวจสอบและเป็นศัตรูกับ 'ธนาธร' ไปชั่วนิรันดร์ตราบที่ยัง "ชังเจ้า"