โบรกมองขึ้นค่าแรงไม่เกิดเร็ว หนุน CPALL/ AEONTS กระทบหุ้นกลุ่มรับเหมา

โค้งสุดท้ายเลือกตั้งดุ แข่งนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นตํ่า โบรกฯคาดผ่านหลายขั้นตอนก่อนอนุมัติไม่ขึ้นรวดเร็วชี้หากเกิดขึ้นจริงกระทบกลุ่มรับเหมาก่อสร้างแน่นอน แต่เอสเอ็มอีน่าเป็นห่วงที่สุด เพราะไม่แข็งแกร่งเท่าบจ.

เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งปี 2562 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 มีนาคมนี้ ทำให้บรรดาเหล่านักการเมืองทั้งหลายต้องรีบทำคะแนนกันอย่างขยันขันแข็ง โดยเฉพาะการชูนโยบายของพรรคตนเองเพื่อดึงความสนใจและคะแนนเสียงให้มากที่สุด และที่สำคัญ นโยบายนั้นต้องเกี่ยวกับผลประโยชน์ของประชาชนโดยตรง ซึ่งที่ผ่านมานโยบายที่ถือว่าได้รับการตอบรับมากที่สุด คือ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นตํ่า ที่เรียกเสียงฮือฮา รวมถึงความสงสัยว่าหากพรรคที่มีนโยบายดังกล่าว จะสามารถทำได้จริงหรือไม่ (ตารางประกอบ)

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า นโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นตํ่าในการหาเสียงของพรรคการเมือง มองว่า หากจะเกิดขึ้นจริง จะยังไม่ใช่เร็วๆ นี้ เพราะต้องผ่านอีกหลายขั้นตอน และหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องยังไม่มีการตอบรับมากนัก

สำหรับหุ้นกลุ่มที่มีความเกี่ยวข้องกับแรงงานมากที่สุด คือ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่มีความจำเป็นต้องใช้แรงงานค่อนข้างมากและมีโครงสร้างค่าแรงที่ค่อนข้างสูง อาจจะได้รับผลกระทบมากกว่ากลุ่มอื่น รวมถึงยังมีกลุ่มโรงแรม แต่ผลกระทบอาจจะมีจำกัด เพราะมีการจ่ายค่าแรงเกินอัตราค่าแรงขั้นตํ่าอยู่แล้ว ทั้งนี้ กลุ่มที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือ กลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) เพราะมีขนาดเล็ก ความแข็งแกร่งมีไม่มากพอเท่ากับบจ.ที่อยู่ในตลาดหุ้น ซึ่งจะได้รับผลกระทบมากที่สุด

ด้านบล.เออีซีฯ ระบุว่า กลุ่มค้าปลีก เป็นกลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์หลังเลือกตั้ง รวมถึงได้อานิสงส์บวกจากนโยบายค่าแรงขั้นตํ่าที่พรรคการเมืองหลัก นำมาใช้เป็นนโยบายหลักในการหาเสียง ซึ่งมีค่าเฉลี่ยของค่าแรงขั้นตํ่าใหม่สูงกว่าระดับปัจจุบันที่วันละ 330 บาท ประมาณ 25-26.9% และคาดว่าจะช่วยหนุนกำลังซื้อกลุ่มรากหญ้าให้ปรับตัวดีขึ้น โดยหุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์ คือ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (CPALL) และ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) (AEONTS) 

ส่วนหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่มีงานในมือและมีการใช้แรงงานจำนวนมากอย่าง บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) (STEC) อาจจะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรง โดย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ไม่คิดว่ารัฐบาลจะปรับขึ้นค่าแรงขั้นตํ่าอย่างมีนัย แต่จะปรับแบบค่อยเป็นค่อยไปในระยะหลายปี 

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในปี 2562-2563 STEC จะมีกำไรเพิ่มขึ้น 19-20% จากรายได้ที่เติบโตแข็งแกร่ง รวมถึงราคาเหล็กที่ลดลง 2.3% ในเดือนมกราคม 2562 หลังลดลง 6.3% ในไตรมาส 4 ปี 2561 

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ  3,455 วันที่ 24-27 มีนาคม 2562