ย่องแดนจิงโจ้ ส่องสวนทุเรียนเมืองดาร์วิน

จากข่าวที่ออกมาเมื่อเร็วๆนี้ เกี่ยวกับความสำเร็จในการปลูกผลไม้เขตร้อนในประเทศออสเตรเลีย ทำให้มุมมองของชาวเอเชียเกี่ยวกับประเทศที่เรียกอีกอย่างว่าดินแดนดาวน์อันเดอร์ (เนื่องจากตั้งอยู่ใต้เส้นศูนย์สูตรและลงไปทางซีกโลกใต้) เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม  “ออสเตรเลีย” ซึ่งเป็นทั้งประเทศและทวีปเกาะกว้างใหญ่ มีสภาพภูมิอากาศที่แตกต่างกันโดยพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศมีสภาพภูมิอากาศเขตร้อนมีฝนฤดูร้อนและมรสุม ขณะที่พื้นที่ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ มีภูมิอากาศแบบเมืองหนาว ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้พื้นที่ดินแดนที่เรียกว่า นอร์เทิร์นเทอริทอรี (Northern Territory) ทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งมีเมืองดาร์วิน เป็นเมืองหลวง สามารถเพาะปลูกพืชผลการเกษตรแบบเมืองร้อนของเอเชีย เช่น ไม้ผลต่างๆซึ่งรวมถึงทุเรียน ขนุน ส้มโอ มะม่วง และแก้วมังกร

สำนักข่าวเอบีซีของออสเตรเลียเคยรายงานข่าวเกี่ยวกับสวนทุเรียนที่ “ใหญ่ที่สุด”ในประเทศออสเตรเลียเอาไว้เมื่อเดือนธันวาคม 2561 ว่าเป็นสวนทุเรียนของคนตระกูลเซีย (Siah) ตั้งอยู่ในเมืองดาร์วิน การเพาะปลูกเริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว และผลผลิตเมื่อปี 2561 ของสวนแห่งนี้อยู่ที่ประมาณ 35 ตัน จัดจำหน่ายไปทั่วประเทศออสเตรเลีย รวมทั้งที่เมืองแอดิเลด ซึ่งเป็นที่ที่มีการถ่ายทำอัดคลิปชายผิวขาวผมทองสาธิตการผ่าทุเรียนอย่างคล่องแคล่วทำให้เกิดการส่งต่อ แชร์คลิปทางโซเชียลมีเดียและกลายเป็นเรื่องเด่นที่ได้รับความสนใจไปทั่วโลก ที่สำคัญคือมันทำให้คนทั่วโลกรับรู้ว่าออสเตรเลีย ดินแดนดาวน์อันเดอร์ สามารถเพาะปลูกทุเรียน “ราชาแห่งผลไม้” ที่เป็นผลไม้สุดโปรดปรานของชาวเอเชีย โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีการเพาะปลูกกันมากและเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภค

นาย ฮัน เชียง เซีย (Han Shiong Siah) เจ้าของสวนทุเรียนแห่งเมืองดาร์วิน เปิดเผยว่า กระแสชื่นชมและความสนใจที่สวนของเขาได้รับจากทั่วโลกในช่วงปีที่ผ่านมา (2561) เป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย ที่สำคัญคือเขาเชื่อว่า ผู้ที่ชื่นชมทุเรียนจากสวนของเขาส่วนใหญ่ไม่คาดคิดมาก่อนว่า ออสเตรเลีย ก็สามารถเพาะปลูกทุเรียนได้ในเชิงพาณิชย์ แต่แม้จะได้รับความสนใจล้นหลามและมีลูกค้ามาอุดหนุนมาก ทุเรียนส่วนใหญ่ของเขาก็เน้นที่การปลูกขายภายในประเทศ เรื่องการส่งออกนั้น เขามองว่ายังต้องใช้เวลาอีกหลายปี เพราะก่อนจะไปถึงจุดนั้น เขามีแผนปรับปรุงสวน บำรุงต้นทุเรียน เพิ่มผลผลิตให้ได้มากพอ และเพิ่มคุณภาพของทุเรียนด้วย ในเบื้องต้นเขามองว่าการส่งออกน่าจะมุ่งไปที่นิวซีแลนด์เป็นจุดหมายแรก

ฮัน เชียง เซีย เป็นชาวออสเตรเลียเชื้อสายมาเลเซีย เขานำพันธุ์ทุเรียน HEW1 มาปลูกเมื่อกว่า 30 ปีที่แล้วและพบว่า มันไปได้ดีกับสภาพอากาศที่ค่อนข้างแห้งแล้งของเมืองดาร์วิน ปัจจุบัน ราคาจำหน่ายอยู่ที่กิโลกรัมละ 27 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วทุเรียนจะมีน้ำหนักลูกละ 2-4 กิโลกรัม เขามั่นใจว่ามีตลาดรองรับแม้ทุเรียนสดของเขาจะต้องแข่งขันกับทุเรียนแช่แข็งที่ต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ และถึงแม้หลายคนจะยังรังเกียจกลิ่นทุเรียน บ้างก็ว่าเหมือนกลิ่นถุงเท้าเน่าๆผสานกลิ่นกระเทียม แต่เขาก็เห็นว่ามีคนออสเตรเลียเปิดใจยอมรับและหลงใหลทุเรียนมากขึ้นเรื่อยๆ บางคนถึงกับมาขอซื้อหน้าสวนกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ เขาเองในฐานะผู้ขายก็ต้องพิถีพิถันกับการบรรจุทุเรียนลงกล่องโฟมแล้วห่อให้แน่นหนา เพื่อไม่ให้กลิ่นทุเรียนเล็ดลอดออกมาในขณะขนส่ง

นอกจากทุเรียนแล้ว บริษัท ทรอปิคัล ไพรมารี โพรดัคท์ส (ทีพีพี) ของเขา ยัง ปลูกผลไม้อื่นๆอีกด้วย เช่น ขนุน ส้มโอ และมะม่วง ผลผลิตทุเรียนของเขาเพิ่มขึ้นจากปีละ 20 ตันมาเป็น 30-35 ตัน และล่าสุดเคยผลิตได้สูงสุดถึง 40 ตัน ฤดูกาลที่ทุเรียนออกผลในเมืองดาร์วิน คือต้นเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม ส่วนขนุนจะออกในช่วงพฤษภาคมถึงกันยายน  (ผลผลิตขนุนอยู่ที่ปีละ 60-90 ตัน) สวนแห่งนี้มีพื้นที่เพาะปลูกผลไม้รวมทุกชนิดที่ราวๆ 350 เอเคอร์ หรือประมาณ 885.5 ไร่   

แหล่งจำหน่ายทุเรียนจากสวนของบริษัททีพีพี ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวตระกูลเซียคือตลาดขายส่งในเมืองซิดนีย์ เมลเบิร์น และแอดิเลด จากนั้นก็จะมีการจัดจำหน่ายสินค้าไปตามร้านค้าปลีก รวมทั้งร้านขายสินค้าจากเอเชีย