ต่างชาติแห่ร่วมทุนไทย 5 ปี มูลค่าโครงการกว่า 5.75 แสนล้าน

25 มี.ค. 2562 | 23:45 น.

ทุนต่างชาติแห่ลงทุนในอสังหาฯไทยต่อเนื่อง มีจีน-ญี่ปุ่นเป็นหลัก ล่าสุด ฝรั่งเศสกับยูเครนโผล่เป็นผู้ซื้อใหม่ เหมาบิ๊กล็อตที่ภูเก็ต คอลลิเออร์ส 5 ปี มูลค่าโครงการร่วมทุนสูงกว่า 5.75 แสนล้านบาท

นายบานาบี้ สเวนสัน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยฯ เปิดเผยถึงแนวโน้มการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไทยของต่างชาติยังคงคึกคักต่อเนื่อง เนื่องจากทำเลที่ตั้งของไทยค่อนข้างเหมาะสมกับการลงทุน โดยแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน คือ กลุ่มทุนขนาดใหญ่ ที่มาร่วมทุนพัฒนาโครงการกับดีเวลอปเปอร์ไทย ซึ่งประเทศหลักยังคงเป็นจีนและญี่ปุ่น ส่วนใหญ่พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย หรือ คอนโดมิเนียม พื้นที่ในกรุงเทพมหานคร มีทั้งหมด 35 บริษัท

จากการเก็บข้อมูลของบริษัทฯ พบว่า ช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา มีโครงการร่วมทุนระหว่างบริษัทอสังหาฯ ของไทยกับทุนต่างชาติจำนวนมาก มูลค่าโครงการรวมสูงถึง 5.75 แสนล้านบาท โดยมี บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นรายแรก ๆ ที่ผนึกพันธมิตรญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปี 2562 ที่จะเปิดอีก 7 โครงการ รวมมูลค่าโครงการทั้งหมด 147,000 ล้านบาท ส่วนรายล่าสุด บมจ.เอสซี แอสเสท ที่ประกาศร่วมทุนกับ Nishietsu Group จากญี่ปุ่น

 

ต่างชาติแห่ร่วมทุนไทย 5 ปี มูลค่าโครงการกว่า 5.75 แสนล้าน

 

ด้าน กลุ่มลูกค้ารายย่อยที่ซื้อลงทุน จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย มีชาวต่างชาติถือครองคอนโดมิเนียมในปี 2561 มากกว่า 49,000 ยูนิต มูลค่าสูงถึง 234,000 ล้านบาท การโอนกรรมสิทธิ์บ้าน ณ ไตรมาส 3 ปี 2561 สูงถึง 30,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2560 ทั้งปี มีเพียงแค่ 27,000 ล้านบาท ซึ่งในเม็ดเงินการโอนกรรมสิทธิ์ 30,000 ล้านบาทนี้ จำแนกสัดส่วนเป็นจีนและฮ่องกง 33% มูลค่าซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 75,000 ล้านบาท ถัดมาสหรัฐอเมริกาและสิงคโปร์ ตามลำดับ โดยยังคงสนใจลงทุนในเมืองท่องเที่ยวหลัก ๆ ใน 4 เมืองหลัก ซึ่งอันดับ 1 คือ กรุงเทพฯ ทำเลที่สนใจ คือ พระราม 9 และรัชดาฯ เป็นหลัก รวมถึงกระจายไปทำเลบางนา อันดับ 2 ภูเก็ต ล่าสุด มีผู้ซื้อจากประเทศใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามา อาทิ จากประเทศฝรั่งเศสและยูเครน และพฤติกรรมการซื้อแบบบิ๊กล็อต เหมายกตึก โดยปัจจัยที่ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติในลักษณะแบบนี้ 1.ทำเล 2.ผลตอบแทนที่จะได้จากสินทรัพย์นั้น ๆ

อันดับ 3 เชียงใหม่ เป็นเมืองยอดฮิตของผู้ซื้อลงทุนชาวจีนและเกาหลี ทำเลที่สนใจยังคงเป็นย่านนิมมานเหมินทร์ อันดับ 4 เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ลูกค้าหลักเป็นจีนกับรัสเซีย แต่ระยะหลังเริ่มมีญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น ทำเลที่สนใจยังคงเป็นโซนเขาพระตำหนัก ตัวเมืองพัทยา ล่าสุด กระจายออกไปบริเวณนาจอมเทียน

ด้าน นายภัทรชัย ทวีวงศ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยฯ กล่าวเสริมว่า การที่ดีเวลอปเปอร์ไทยจับมือร่วมทุนกับต่างชาติ โดยเฉพาะจากญี่ปุ่นมากที่สุด รองลงมา จีน จึงมีกำลังซื้อลูกค้าต่างชาติของเขาเป็นทุนเดิม อย่างเช่น โครงการของออริจิ้น ย่านทองหล่อ หรือ พญาไท ซึ่งร่วมทุนกับกลุ่มโนมูระจากญี่ปุ่น ก็ปรับโครงการบางส่วนให้กับกำลังซื้อต่างชาติ หรือว่าลูกค้าในส่วนการร่วมทุน ซึ่งเป็นลูกค้าญี่ปุ่นไป แต่อีก 2 อาคาร จะเป็นลูกค้าคนไทย

 

ต่างชาติแห่ร่วมทุนไทย 5 ปี มูลค่าโครงการกว่า 5.75 แสนล้าน

 

ฉะนั้น กำลังซื้อต่างชาติที่จะมาพร้อมกับโครงการร่วมทุนอีกค่อนข้างมาก ตามดีเวลอปเปอร์ของตนเอง เพราะมองว่า ประเทศไทยยังเป็นทำเลที่น่าลงทุน ให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ในภาพรวมการปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมจะอยู่ที่ 4-6% รวมกับภาษีจากส่วนต่าง หรือ Capital Gain ที่แต่ละปียังปรับตัวอีก 3-5% ทำให้พื้นที่กรุงเทพฯ และพื้นที่โดยรอบ ยังเป็นโอกาสของนักลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาในไทย

หน้า 27 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3,455 วันที่ 24-27 มีนาคม 2562

 

ต่างชาติแห่ร่วมทุนไทย 5 ปี มูลค่าโครงการกว่า 5.75 แสนล้าน