เจาะแนวคิด Millennial Developers
ในยุคนี้ เป็นยุคที่เราได้เห็น นักธุรกิจรุ่นใหม่ในกลุ่ม Millennial หรือคน Gen Me ก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารแถวหน้ากันแล้วหลายคน และด้วยพฤติกรรมที่รักอิสระ มีความคิดเป็นของตัวเอง ทำให้คนกลุ่มนี้ พร้อมที่จะก้าวออกมาทำตามเป้าหมาย เช่นเดียวกับหนุ่มวัย 30 ปี “กล้า-ชวิน อรรถกวีสุนทร” กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้ง บริษัท 1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ จำกัด ที่สร้างเส้นทางเดินของตัวเอง โดยการร่วมมือกับเพื่อน “ธัญทิพ เจียรวนนท์” ประธานบริหาร และผู้ก่อตั้ง 1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ ด้วยเป้าหมายการเป็น Millennial Developers ผู้สร้าง Boutique Project ด้วยมาตรฐานเวิลด์คลาสในทำเลที่เหมาะสม
“คุณกล้า” มาพร้อมด้วยประสบการณ์ด้านไฟแนนซ์ เคยทำงานในกลุ่มการลงทุนของเครือดุสิตธานี และเคยทำงานที่ปรึกษาทางการเงิน ที่ JP Morgan ประเทศไทย 4 ปี ทำให้เคยได้สัมผัสและเรียนรู้ถึงวิสัยทัศน์ในการลงทุน การทำธุรกิจ ของเจ้าสัวหลายๆ ท่าน ได้เห็นดีลในหลายๆ ธุรกิจ แต่ด้วยความที่อยากออกมาทำอะไรเป็นของตัวเองจึงลาออกมา และเริ่มเข้าไปช่วยงานของครอบครัวซึ่งทำด้านพัฒนาที่ดินอยู่แล้ว โดยได้ช่วยศึกษาและหาพาร์ตเนอร์ในการพัฒนาที่ดิน เพื่อสร้างเป็นโรงพยาบาลที่หาดใหญ่
แต่ด้วยความเป็นธุรกิจครอบครัว ทำให้การขับเคลื่อนค่อนข้างช้า ประจวบเหมาะกับเพื่อนชวนมาช่วยกันสร้างโปรเจ็กต์ใหญ่ ที่คุยกันแล้วคลิกมากกว่า เขาจึงออกมาร่วมเปิดบริษัทกับเพื่อน และเริ่มพัฒนาโครงการแรกชื่อ The Strand Thonglor บริเวณปากซอยทองหล่อเป็นคอนโดมิเนียมลักชัวรีแบบมิกซ์ยูส
“องค์กรที่เป็นครอบครัว ขยับไม่ไ่ด้เร็ว เราคิดว่าคงต้องใช้เวลานาน ก็เลยออกมา เพราะอยากทำอะไรที่เป็นของตัวเอง อยากได้บริหารเอง ได้มีอำนาจตัดสินใจ ได้ดีลงานเอง รวมไปถึงการสร้างทีมงาม และการวางไดเร็กชันขององค์กร”
การที่มีประสบการณ์ด้านไฟแนนซ์ ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมากกับการเริ่มงานโปรเจ็กต์แรก “คุณกล้า” บอกว่า เขามีความถนัดด้านไฟแนนซ์ ส่วนธัญญ่า (ธัญทิพ) มาสายอาคิเทค ก็มีวิสัยทัศน์และรูปแบบโปรดักต์ในใจ แต่งานชิ้นแรก ก็ไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบ แม้จะมี บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นพาร์ตเนอร์ แต่กว่าจะรวมที่ดินเป้าหมายที่ปลายซอยทองหล่อได้ ก็ถือเป็นงานใหญ่ที่หิน
พอสมควร เพราะเป็นการรวมที่ดิน 13 โฉนด 27 เจ้าของเข้าด้วยกัน
แล้วทำไมต้องเลือกโปรเจ็กต์แรก ที่ทองหล่อ?...ผู้บริหารหนุ่มคนนี้ตอบทันทีเลยว่า เขาและธัญญ่า ต้องการสร้างโครงการที่ทั้งคู่มีความถนัดและมีความเข้าใจ รวมทั้งอยากอยู่เอง ที่สำคัญงานโปรเจ็กต์แรกต้องเป็นโปรเจ็กต์ที่สร้างแบรนด์ บ่งบอกคาแรกเตอร์ของ 1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ ที่เน้นการสร้างบูติก
ลักชัวรี โปรเจ็กต์ หรือ มินิมัลลักชัวรี โปรเจ็กต์ ซึ่งทองหล่อถือว่าตอบโจทย์ทั้งหมด
“เป้าหมายของเราคือ การเป็นบูติก ลักชัวรี ดีเวลอปเปอร์ เราอยากสร้างแบรนด์ และสร้างรากฐานให้มั่นคงก่อน ในปีหนึ่งเราจะลอนช์ไม่เกิน 2 โครงการ และไม่ได้จำกัดว่าโลว์ไรส์ หรือไฮไรส์์ ตอนนี้เราเริ่มมองและศึกษาโปรเจ็กต์ใหม่แล้ว”
จากประสบการณ์ทำงานด้านไฟแนนซ์ ทำให้เขาค่อนข้างเห็นประโยชน์ในการคิด การศึกษาตลาด การมองคู่แข่ง การคุมต้นทุน และด้วยความเป็นคนรุ่นใหม่ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี เรื่องของ ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์
เมชัน ถือว่าเป็นประโยชน์กับองค์กรเล็กๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นใหม่ได้ดีมาก เพราะเทคโนโลยีเหล่านั้น เข้ามาช่วยเรื่องการจัดเก็บข้อมูล การทำงานที่ีรวดเร็ว การควบคุมต้นทุน การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) รวมทั้งการแก้ไขจุดบกพร่องได้ทันถ่วงที
ผู้บริหารหนุ่มคนนี้บอกว่า แม้ไฟแนนซ์จะช่วยซัพพอร์ตการทำงานตรงนี้ได้ดี แต่การทำงานไม่เหมือนกัน เพราะตอนทำไฟแนนซ์ การเคลื่อนไหวของงานค่อนข้างเร็ว และเขามีหน้าที่แค่เป็นคนกลาง แต่เมื่อมาทำงานตรงนี้ มันคือความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นเยอะมาก ต้องลงรายละเอียดทุกอย่าง ทั้งความรับผิดชอบต่อทีมงาน พาร์ตเนอร์ และลูกค้า เล่นเอานอนไม่หลับกันเลยทีเดียว
การจับงานโปรเจ็กต์แรก “คุณกล้า” ยังไม่สรุปว่าตัวเองประสบความสำเร็จหรือไม่ แม้ขณะนี้จะขายโครงการไปแล้วกว่า 50% เขาบอกเพียงว่า ถือเป็นก้าวแรกที่ดี แต่ความท้าทายในการทำงาน ยังมีอีกเยอะ โดยเฉพาะการเนรมิตโปรเจ็กต์ The Strand Thonglor ให้เสร็จสมบูรณ์ และเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ แม้ภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงปีนี้จะไม่ค่อยดีนัก แต่เขายังเชื่อมั่นว่า อนาคตทุกอย่างจะปรับเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
สำหรับโปรเจ็กต์ The Strand Thonglor “คุณกล้า” บอกว่า ไม่มีอะไรที่น่ากังวลแล้ว แต่สำหรับโปรเจ็กต์ถัดไป ก็ต้องศึกษารายละเอียดให้มากขึ้น ทั้งรูปแบบโครงการ และทำเลที่ตั้ง ซึ่งแน่นอนว่ายังอยู่ในทำเลย่านซีบีดี (Central Business District) หรือย่านศูนย์กลางธุรกิจ ทุกอย่างต้องศึกษาอย่างละเอียด
หน้า 22 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3454 วันที่ 21-23 มีนาคม 2562
