รฟม.หารือกรมทางหลวง เร่งเคลียร์แนวรับรถไฟฟ้ารางเบาภูเก็ต

21 มี.ค. 2562 | 05:48 น.

ใกล้สรุป รฟม.เร่งหารือทล.เคลียร์ปมใช้พื้นที่ทางหลวงรับเส้นทางรถไฟฟ้ารางเบาภูเก็ต ก่อนแนบเรื่องร่วมในผลการศึกษาร่วมทุนพีพีพี ด้านนายกเมืองป่าตองเสนอปรับผังเมืองแก้ปัญหาเศรษฐกิจสนับสนุนเอกชนลงทุนศูนย์ประชุมโรงแรมค่าหมื่นล้านและเศรษฐกิจของเมืองป่าตองขยายไม่น้อยกว่า 30% 

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เปิดแผยว่าตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) จัดการติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติไปเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมาโดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) เป็นประธานนั้น รฟม.ได้นำเสนอการพัฒนารถไฟฟ้าตามแผนแม่บทการขนส่งทางราง 10 เส้นทาง โดยในปี 2572 จะมีระยะทางรวม 504 กิโลเมตร

รฟม.หารือกรมทางหลวง เร่งเคลียร์แนวรับรถไฟฟ้ารางเบาภูเก็ต

สำหรับปัจจุบันมีโครงการรถไฟฟ้าที่ได้รับอนุมัติและอยู่ระหว่างการดำเนินการ ได้แก่ สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงบางซื่อ - ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค (อยู่ระหว่างดำเนินการวางระบบรถไฟฟ้าและการเดินรถ) โดยมีแผนเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ในเดือนกันยายนนี้ สายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี  และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง (อยู่ระหว่างก่อสร้างงานโยธา) สายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) (อยู่ระหว่างก่อสร้างงานโยธา) และช่วงบางขุนนนท์ - ศูนย์วัฒนธรรมฯ (อยู่ระหว่างเสนอ ครม. อนุมัติโครงการ) สายสีม่วง (ใต้) ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (อยู่ระหว่างจัดทำร่างรายงานร่วมทุน PPP)

“นอกจากนี้ รฟม.ยังมีแผนงานที่จะพัฒนารถไฟฟ้าในส่วนภูมิภาค ได้แก่ ในจังหวัดภูเก็ต เชียงใหม่ นครราชสีมา พิษณุโลก และอุดรธานี โดยรองนายกรัฐมนตรีมีแนวคิดว่าโครงข่ายในกทม.มีจำนวนมากแล้ว ควรจะขยายโครงการรถไฟฟ้าไปยังต่างจังหวัดให้มากขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดใหญ่ๆหัวเมืองหลักที่มีสภาพการจราจรหนาแน่น จำเป็นต้องใช้ระบบขนส่งมวลชนเข้าไปแก้ไขปัญหาดังกล่าว”

 

ด้านนายธีรพันธ์ เตชะศิรินุกูล รองผู้ว่าการ(กลยุทธ์และแผน) รฟม. กล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้ารางเบาที่ภูเก็ต รฟม.อยู่ระหว่างการเร่งผลศึกษาตามนโยบายคณะกรรมการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ(คณะกรรมการพีพีพี)และจะต้องปฏิบัติตามพ.ร.บ.ร่วมทุนฉบับใหม่ พร้อมกับมีการหารือร่วมกับกรมทางหลวง(ทล.) เรื่องความชัดเจนของการใช้พื้นที่ในแนวเส้นทาง โดยเฉพาะเกาะกลางของถนนเพื่อไม่ให้กระทบต่อการใช้ถนนของยวดยานอื่นๆ

รฟม.หารือกรมทางหลวง เร่งเคลียร์แนวรับรถไฟฟ้ารางเบาภูเก็ต

“กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาอยู่ระหว่างการเจรจาและวิเคราะห์รายละเอียดก่อนนำไปบรรจุไว้ในเรื่องนำเสนอคณะกรรมการพีพีพีต่อไป ดังนั้นจึงมีแนวโน้มว่าจะมีการปรับแบบอย่างไรบ้างหรือไม่ จากรูปแบบที่ศึกษามีทั้งแนวระดับดินและอุโมงค์ทางลอด เพื่อจะได้ทราบวงเงินลงทุนที่ชัดเจนจากเดิมคาดว่าจะลงทุนหลายหมื่นล้านบาท”

ด้านน.ส.เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ในฐานะประธานคณะกรรมการกฎบัตรไมซ์ป่าตอง กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการกฎบัตรไมซ์ป่าตองว่า เทศบาลเมืองป่าตองมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนในการปรับปรุงฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจเมืองป่าตองและปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์เมืองป่าตองให้เป็นเมืองศูนย์กลางไมซ์ของเอเซีย ปัจจุบันป่าตองมีโรงแรมระดับสามดาวขึ้นไปมากกว่า 2 หมื่นห้อง แต่ยังขาดศูนย์การประชุมที่สามารถรองรับการประชุมนานาชาติหรือ International convention ซึ่งมีผู้ประชุมไม่น้อยกว่า 5 พันคนขึ้นไป 

รฟม.หารือกรมทางหลวง เร่งเคลียร์แนวรับรถไฟฟ้ารางเบาภูเก็ต

“ช่วงที่ผ่านมา อัตราการเข้าพักโรงแรมจะอยู่ระดับ 85% ในช่วงฤดูการท่องเที่ยว ได้แก่ ช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ แต่นอกฤดูการท่องเที่ยวอัตราการเข้าพักโรงแรมลดลงมาต่ำเหลือ 25%  เนื่องจากช่วงนอกฤดูมีระยะเวลาเกือบ 8 เดือนจึงส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจโดยรวมของเทศบาลป่าตองประสบปัญหา ธุรกิจโรงแรมและธุรกิจสนับสนุนการท่องเที่ยวหลายแห่งขาดสภาพคล่อง ต้องใช้กลยุทธ์การลดราคาห้องพักและค่าบริการ ซึ่งทำให้ตำแหน่งด้านการท่องเที่ยวของเมืองป่าตองได้รับผลกระทบ”

รฟม.หารือกรมทางหลวง เร่งเคลียร์แนวรับรถไฟฟ้ารางเบาภูเก็ต

ทั้งนี้ภาย หลังจากที่เทศบาลได้ร่วมมือกับโครงการศึกษากลไกการพัฒนาเชิงพื้นที่ด้วยการออกแบบเมืองอย่างชาญฉลาดเพื่อยกระดับเศรษฐกิจและสังคมหรือ SG-ABC ดำเนินการโดยสมาคมการผังเมืองไทย สนับสนุนงบประมาณวิจัยโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ทำให้ทราบว่า เทศบาลสามารถวางแผนแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจของเมืองป่าตองได้ ด้วยการปรับเปลี่ยนตำแหน่งเมืองป่าตองเป็นศูนย์กลางไมซ์ระดับเอเซีย โดยการปรับปรุงผังเมืองรวมเมืองภูเก็ตให้อนุญาตใช้ที่ดินเขตชั้นในเมืองป่าตองที่มีระยะห่างจากชายหาดให้สามารถก่อสร้างศูนย์การประชุมที่มีความจุ 3 หมื่นคน พร้อมด้วยโรงแรมและคอนโดมีเนียมที่เป็นอาคารขนาดใหญ่พิเศษไม่จำกัดขนาด 

รฟม.หารือกรมทางหลวง เร่งเคลียร์แนวรับรถไฟฟ้ารางเบาภูเก็ต

“จากการจัดตั้งคณะกรรมการกฎบัตรไมซ์ป่าตองทำให้ทราบว่า ปัจจุบันมีผู้สนใจลงทุนโรงแรมและศูนย์การประชุมในเมืองป่าตองแล้ว โดยใช้ที่ขนาด 20 ไร่สร้างศูนย์การประชุมนานาชาติและโรงแรมระดับห้าดาวจำนวน 2,500 ห้อง โดยแบ่งเป็นงบลงทุนโรงแรม 7,000 ล้านบาทและศูนย์การประชุม 3,000 ล้านบาท สำหรับที่ดินราคาประมาณ 2,500 ล้านบาท รวมงบประมาณก่อสร้างประมาณ 12,500 ล้านบาท หากผังเมืองรวมเมืองและข้อกำหนดตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอนุญาตก็จะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ทันที”

ทั้งนี้ ศูนย์การประชุมที่มีความจุ 3 หมื่นที่นั่งตามแบบจำลองคาดการณ์มูลค่าทรัพย์สินพื้นที่เมืองป่าตองจะทำให้การเข้าพักโรงแรมระดับสามดาวขึ้นไปมีอัตราเฉลี่ยนอกฤดูการท่องเที่ยวที่ 65% กรณีที่จำนวนห้องพักเท่ากับปัจจุบัน และเศรษฐกิจของเมืองป่าตองจะขยายไม่น้อยกว่า 30% ระยะเวลาการพำนักจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4 วัน ธุรกิจโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องจะได้รับประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม สำหรับเทศบาลเองจะได้รับภาษีจากการขยายฐานเพิ่มขึ้นจาก 300 ล้านบาทในปัจจุบันเป็น 500 ล้านบาทในช่วง 10 ปีนับจากการเปิดบริการของศูนย์การประชุม

รฟม.หารือกรมทางหลวง เร่งเคลียร์แนวรับรถไฟฟ้ารางเบาภูเก็ต