ผู้นำจีนจับมือยุโรปเซ็น MOU หนุนโครงการ Belt and Road

20 มี.ค. 2562 | 04:14 น.

การเดินทางเยือนยุโรปในช่วงปลายสัปดาห์นี้ของ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ถูกจับตาว่าเป็นการเยือนกระชับไมตรีและเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างจีนกับพันธมิตรในสหภาพยุโรป (อียู) ท่ามกลางบริบทที่การเผชิญหน้าทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกายังอึมครึม เนื่องจากการเจรจาสงบศึกการค้าที่เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายยังไม่มีข่าวคราวความคืบหน้า อีกทั้งการนัดหารือระดับ ผู้นำที่เคยมีข่าวว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีกำหนดจะพบกันที่สหรัฐฯในวันที่ 27 มีนาคมนี้ ก็ได้รับการยืนยันว่าคงต้องเลื่อนออกไปก่อน โดยวงในระบุว่า ผู้นำจีนต้องการความมั่นใจว่าเดินทางไกลไปถึงฟลอริดาแล้ว ต้องได้ข้อตกลงติดมือกลับมา ไม่ใช่ล้มเหลวกลับบ้านมือเปล่าเหมือนเมื่อครั้งการประชุมซัมมิตผู้นำสหรัฐฯและเกาหลีเหนือที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนามเมื่อวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง

หนึ่งในหมายกำหนดการที่ถูกจับตามากที่สุดคือการเดินทางเยือนประเทศอิตาลี ที่คาดว่าจะมีการลงนามทำข้อตกลงและบันทึกความเข้าใจ (MOU) ทางเศรษฐกิจกว่า 20 ฉบับด้วยกัน และหนึ่งในนั้นคือโครงการลงทุนร่วมบนแนวเส้นทางสายไหมยุคใหม่ ที่รู้จักกันดีในนาม โครงการ 1 แถบ 1 เส้นทาง หรือ Belt and Road Initiative (BRI) ที่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญของจีนในการสร้างความร่วมมือกับนานาประเทศผ่านรูปแบบการลงทุนในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ในเบื้องต้นข่าวระบุว่า รัฐบาลและภาคเอกชนอิตาลีมีความสนใจที่จะจับมือร่วมทุนกับจีนในหลายโครงการ ไล่เลียงตั้งแต่การลงทุนในด้านการเงินการธนาคาร ธุรกิจพลังงาน ไปจนถึงการดึงทุนจีนเข้ามาลงทุนหรือเป็นสปอนเซอร์สโมสรฟุตบอลในอิตาลี อย่างไรก็ตาม มีการแตกเสียงคัดค้านในฝ่ายการเมืองของอิตาลีเอง ที่บางกลุ่มโดยเฉพาะในฝั่งชาตินิยม ออกมาติงเตือนการผูกสัมพันธ์กับจีนมากเกินไปอาจเป็นภัยต่อความมั่นคง รวมทั้งการยอมให้ยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมของจีนอย่างบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยีฯเข้ามามีบทบาทในการวางเครือข่ายโทรคมนาคม 5G ในประเทศอิตาลี

ผู้นำจีนจับมือยุโรปเซ็น MOU หนุนโครงการ Belt and Road

ในบรรดาเอกชนอิตาลีที่เตรียมประเด็นหารือกับคณะของผู้นำจีนนั้นได้แก่ บริษัท สแนมฯ (Snam) ผู้เชี่ยวชาญด้านก๊าซธรรมชาติและการวางท่อก๊าซ บริษัท อันซาลโด อิเนอร์เกียฯ (Ansaldo Energia) ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี และธนาคารท้องถิ่นของอิตาลีอีกหลายแห่ง ข่าวระบุว่า นายลุยกี ดี ไมโอ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจของอิตาลี เป็นหัวหน้าคณะเตรียมความพร้อมในการจัดทำข้อตกลง 20 ฉบับที่จะมีการลงนามระหว่างจีนและอิตาลีในวาระโอกาสการเดินทางเยือนของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในครั้งนี้ (21-23 มีนาคม 2562)

 

เป็นที่คาดหมายว่าข้อตกลงความร่วมมือที่กำลังจะเกิดขึ้น จะเปิดโอกาสให้เอกชนของอิตาลี อาทิ บริษัท สแนมฯ ที่เข้าไปเปิดตลาดก๊าซธรรมชาติในจีนเมื่อปี 2561 ที่ผ่านมาพร้อมด้วยข้อตกลงด้านการค้าและการลงทุน 3 ฉบับ สามารถขยายโอกาสในเชิงรุกมากขึ้น โดยครั้งนี้คาดว่า บริษัทจะเซ็น MOU กับกองทุนเส้นทางสายไหมของจีน (China’s Silk Road Fund) เพื่อร่วมมือด้านการลงทุนในต่างประเทศ นอกจากนี้ยังคาดว่าจะมีการเซ็น MOU ระหว่างบริษัท ไชน่า คอมมิวนิเคชั่นส์ คอนสตรัคชั่น คอมปานีฯ (CCCC) กับการท่าเรือ 2 แห่ง (ท่าเรือเจนัวและทริเอสเต) ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลีอีกด้วย

 

นอกจากอิตาลีแล้ว ผู้นำจีนและคณะมีหมายกำหนดการเยือนประเทศฝรั่งเศสและโมนาโกด้วย โดยการเยือนอย่างเป็นทางการจะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 21-26 มีนาคมศกนี้ 

 

หน้า 12 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3454 ระหว่างวันที่ 21 - 23 มีนาคม 2562

ผู้นำจีนจับมือยุโรปเซ็น MOU หนุนโครงการ Belt and Road