"บล.โกลเบล็ก" ชี้! "หุ้นไทย" ผันผวน เหตุรอดูผลเลือกตั้ง 24 มี.ค.

19 มี.ค. 2562 | 07:30 น.

บล.โกลเบล็ก ระบุ หุ้นไทยแกว่งตัวผันผวน เหตุนักลงทุนรอดูผลเลือกตั้ง 24 มี.ค. นี้ แม้ปัจจัยบวกต่างประเทศมีสัญญาณที่ดีขึ้น แนะจับตาการประชุม FED - กนง. และขยายกำหนดเส้นตาย Brexit ของอังกฤษ ชูกลุ่มค้าปลีก-ท่องเที่ยว-โรงพยาบาล


วิลาสินี บุญมาสูงทรง

 

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เปิดเผยว่า ภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจยบวก จากบลูมเบิร์กเปิดเผยถึงผลสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ ที่บ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียงครั้งเดียวปีนี้ในเดือน ก.ย. รวมทั้งการที่จีนยืนยันที่จะใช้มาตรการที่แข็งแกร่งในการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศที่ชะลอตัวลงจากผลกระทบของข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน และนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน

ส่วนปัจจัยกดดันตลาดหุ้นในช่วงนี้ มองว่า นักลงทุนมีแนวโน้มชะลอการลงทุนเพื่อรอฟังผลการเลือกตั้ง ในการดูว่า พรรคไหนเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยนักลงทุนต่างชาติมีสถานะขายสุทธิ 1.11 หมื่นล้านบาท นับตั้งแต่ต้นปี และจับตาการ BREXIT ใกล้ถึงเส้นตายในวันที่ 29 มี.ค. แต่ยังมีความไม่แน่นอนจากข้อตกลง BREXIT ที่ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาอังกฤษ และสมาชิกสหภาพยุโรปจะยอมให้เลื่อนกำหนดวันออกไปจากเดิมหรือไม่

นอกจากนี้ แนะนำจับตาวันที่ 19-20 มี.ค. ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ประชุมพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบาย วันที่ 20 มี.ค. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 2 ส่วนกำหนดการที่รัฐสภาอังกฤษจะพิจารณาข้อตกลง BREXIT ในวันนี้ มีแนวโน้มเลื่อนออกไปเป็นสัปดาห์หน้า วันที่ 21-22 มี.ค. จะมีการประชุมสุดยอดของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งสมาชิกทั้ง 27 ชาติ ของ EU จะต้องให้ความเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์ต่อการขยายกำหนดเส้นตาย Brexit ของอังกฤษ จากเดิมในวันที่ 29 มี.ค. 2562 ส่วนวันที่ 24 มี.ค. วันเลือกตั้งทั่วไปของไทย

นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มผันผวน โดยคาดจะเคลื่อนไหวของดัชนีอยู่ในกรอบ 1,600-1,645 จุด ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนหุ้นกลุ่ม Defensive ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก แนะนำ HMPRO, CPALL กลุ่มท่องเที่ยว แนะนำ AOT, CENTEL, ERW ซึ่งได้ประโยชน์จาก Free Visa on Arrival กลุ่มโรงพยาบาล เราชอบ BCH

รวมทั้งหุ้นที่ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกหลังเข้าร่วม Analyst Meeting ได้แก่ หุ้น PLAT มีความสามารถในการทำกำไรในระดับสูงและรายได้ค่าเช่าในอนาคตมีโอกาสเติบโตสูงจากสัญญาเช่าระยะยาวที่จะสิ้นสุดสัญญาในปลายปี 2563 และปลายปี 2564 คิดเป็น 15% และ 18% ของพื้นที่ให้เช่า และหุ้น BCH รายได้มีแนวโน้มเติบโต จาก 1) WMC จะเปิดศูนย์เด็กหลอดแก้วราวเดือน ก.ค. 2562, 2) ร.พ.เกษมราษฎร์ (รามคำแหง) มีแนวโน้มเริ่มสร้างกำไรในปี 2562, 3) การรับรู้รายได้เต็มปีจากศูนย์เฉพาะทาง 3 ศูนย์ ร.พ.เกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่เปิดบริการในไตรมาส 4/2561

 

สำหรับแนวทางการลงทุนใน "ทองคำ" แนวโน้มราคาทองคำแกว่งขึ้นแบบ Sideway Up รอผลโหวตของสภาอังกฤษในคืนวันอังคาร ที่คาดว่าจะรับรองมติให้รัฐบาลเจรจาขอขยายเวลาเส้นตาย Brexit ออกไป แต่ยังมีความไม่แน่นอนว่า EU จะอนุมัติหรือไม่ ทำให้มีความเป็นไปได้ ทั้ง Hard Brexit และ Soft Brexit หรือ กระทั่ง No Brexit ขึ้นอยู่กับคำตอบของ EU

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบทางลบจากสงครามการค้าที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยโลกมีแนวโน้มจะชะลอการปรับขึ้น และในกรณีที่ปัญหาสงครามการค้ายังไม่ถูกแก้ไข ยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งมีโอกาสมากขึ้นที่อัตราดอกเบี้ยอาจกลับทิศเป็นขาลงได้ จึงคาดราคาทองคำยังไม่น่าจะกลับเป็นขาลง แต่การจะปรับขึ้นต่อต้องรอให้มีปัจจัยสนับสนุนใหม่ ๆ เข้ามา ระยะสัปดาห์มองกรอบระหว่าง 1,290–1,310 ดอลลาร์ คาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาผันผวนตามค่าเงินสกุลหลัก ทั้งดอลลาร์ ปอนด์ และยูโร ส่วนเงินบาทจะยังไม่มีผลต่อราคาทองคำในประเทศอย่างมีนัยสำคัญ

"บล.โกลเบล็ก" ชี้! "หุ้นไทย" ผันผวน เหตุรอดูผลเลือกตั้ง 24 มี.ค.