'ธนารักษ์' ยัน! "บ้านประชารัฐ" เพื่อผู้มีรายได้น้อย
'ธนารักษ์' แจงประชาชนจอง "บ้านประชารัฐ" แล้ว 60% แม้ไม่ได้เริ่มก่อสร้าง ยัน! เพื่อผู้มีรายได้น้อย-ประชาชนทั่วไป แยกต่างหากจากโครงการบ้านสวัสดิการเพื่อข้าราชการ-ลูกจ้างรัฐ
กรณีที่ นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร โพสต์ข้อความผ่าน "หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ" ว่า "โครงการบ้านประชารัฐ" บนที่ดินราชพัสดุ ไม่ได้ทำให้ผู้มีรายได้น้อยมีความมั่นคงในชีวิต เป็นเพียงการเปลี่ยนรูปแบบจากการเช่ารายเดือน มาเป็นการเช่าระยะยาวกับรัฐ เป็นเวลา 30 ปี และกลุ่มเป้าหมายยังไม่ใช่ประชาชน แต่เป็นกลุ่มข้าราชการหรือคนของรัฐเท่านั้น ดังนั้น หากรัฐบาลยืนยันจะดำเนินโครงการต่อไป ไม่ควรใช้ชื่อบ้านประชารัฐ แต่ควรเปลี่ยนชื่อเป็นบ้านเช่าสวัสดิการของรัฐจะเหมาะสมมากกว่า
นายอำนวย ปรีมนวงศ์ อธิบดีกรมธนารักษ์ ชี้แจงว่า "บ้านคนไทยประชารัฐ" เป็นโครงการที่ให้เช่าที่ดินของรัฐเช่นเดียวกับโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติ ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการได้กรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยและได้รับการยอมรับจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ปัจจุบัน แม้ว่าจะยังไม่ได้เริ่มก่อสร้างที่พักอาศัย ก็มีประชาชนให้ความสนใจจองสิทธิโครงการ "บ้านคนไทยประชารัฐ" แล้ว 61% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด
"การดำเนิน "โครงการบ้านประชารัฐ" บนที่ดินราชพัสดุ เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าร่วมโครงการได้ โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง แต่ต้องเป็นการเช่าที่ดินกับกรมธนารักษ์ เพราะดำเนินโครงการบนที่ดินราชพัสดุและยังเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลในการปฏิรูปประเทศ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและสร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการของรัฐด้วย"
ทั้งนี้ โครงการ "บ้านคนไทยประชารัฐ" ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 2561 เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองบนที่ดินราชพัสดุ เป็นโครงการให้ผู้ประกอบการลงทุนก่อสร้างที่อยู่อาศัย ทั้งบ้านแฝด/บ้านแถว/อาคารชุดพักอาศัย โดยมีพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า 28 ตารางเมตร แล้วขายให้ประชาชนในราคา 3.5-7 แสนบาทต่อหน่วย โดยให้มีพื้นที่ส่วนกลางไม่เกิน 30% ของพื้นที่โครงการ เพื่อรองรับกิจกรรมต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของท้องถิ่นและเป็นประโยชน์
ส่วนคุณสมบัติผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ คือ (1) ประชาชนผู้ได้รับสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (2) ประชาชนที่มีรายได้สุทธิไม่เกิน 35,000 บาท/คน/เดือน และ (3) ประชาชนทั่วไป โดยจะพิจารณากลุ่มเป้าหมายลำดับที่ 1 ก่อน เมื่อ Supply เหลือ จึงพิจารณากลุ่มเป้าหมายที่ 2 และ 3 ตามลำดับ โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะได้กรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยและกรมธนารักษ์ให้สิทธิการเช่าที่ดินราชพัสดุ 30 ปี
ขณะที่ โครงการบ้านสวัสดิการเป็นการจัดสวัสดิการให้กับข้าราชการ/ลูกจ้างของหน่วยงานภาครัฐ โดยนำที่ราชพัสดุมาจัดสร้างบ้านพักอาศัยและให้สิทธิเฉพาะข้าราชการ/ลูกจ้างของหน่วยงานภาครัฐเท่านั้น และให้สิทธิการเช่าที่ดินราชพัสดุ 30 ปี
