ธอส. ออก "สลาก" แสนล้าน! ดิ้นระดมทุนรับ "กู้บ้าน"

17 มี.ค. 2562 | 13:15 น.

ธอส. เตรียมออกสลาก 3 ปี วงเงิน 1 แสนล้านบาท ทำสถิติิใบละ 10 ล้านบาท ดึงลูกค้ารายใหญ่ฝากเงินระยะยาว หวังลดต้นทุน ด้านตลาดทุนประเมินขึ้นกับดอกเบี้ยที่เสนอ หากผลตอบแทนจูงใจจะเห็นการโยกเงิน หวั่น! ดึงสภาพคล่องในระบบ

ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ที่ผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ไปเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2562 และอยู่ระหว่างรอประกาศในราชกิจจานุเบกษา นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ภายใต้กฎหมายใหม่จะทำให้ธนาคารสามารถระดมทุนด้วยการออกสลากออมทรัพย์ได้เป็นครั้งแรก

ดังนั้น วันที่ 16 ก.ย. นี้ จึงมีแผนที่จะออกสลากออมทรัพย์ อายุ 3 ปี วงเงิน 1 แสนล้านบาท โดยแบ่งเป็น สลากใบละ 1 ล้านบาท วงเงิน 20,000 ล้านบาท สลากใบละ 10 ล้านบาท วงเงิน 30,000 ล้านบาท และสลากใบละ 500 บาท วงเงิน 50,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ สลากออมทรัพย์ ธอส. จะมีการจับรางวัลเดือนละ 2 ครั้ง คือ ทุกวันที่ 1 และ 16 ทำให้คนที่ซื้อสลากมีโอกาสลุ้นรางวัล 60 งวด และหากซื้อสลาก 1 ล้านบาท และ 10 ล้านบาท และถูกรางวัลทันที จะถือว่า ได้ผลตอบแทน 20% เพราะรางวัลที่ 1 สำหรับสลาก 1 ล้านบาท จะเป็นเงินสด 2 แสนบาท 5 รางวัล สลาก 10 ล้านบาท จะเป็นเงินสด 5 แสนบาท อาจจะเป็น 5 หรือ 10 รางวัล ส่วนสลาก 500 บาท อยู่ระหว่างการคำนวณต้นทุน โดยอาจจะมีการผสมกันระหว่างเงินสดกับทองคำ

"ธนาคารต้องการระดมทุนระยะยาวขึ้น เพื่อรองรับการปล่อยสินเชื่อ เพราะปัจจุบัน เงินฝากที่มี ส่วนใหญ่จะเป็นฝากประจำ 3 เดือน 6 เดือน และ 12 เดือน เพราะผู้ฝากเงินเองก็ต้องการรอดูดอกเบี้ยด้วย ดังนั้น การที่เราจะสามารถหาเงินฝากที่ยาวขึ้นจะทำให้ต้นทุนลดลง โดยคาดว่า ดอกเบี้ยสลากออมทรัพย์จะประมาณกว่า 1% ใกล้เคียงกับเงินฝากประจำ 3 ปี และเพื่อเป็นการเตรียมพร้อม จะเปิดให้ฝากเงินกับเราก่อนตั้งแต่เดือน พ.ค. และจะโยกไปซื้อสลากได้ทันที และหากมียอดซื้อเข้ามามาก จึงจะกำหนดวงเงินสูงสุดต่อคน โดยต้องพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง"

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน กล่าวว่า การออมเงินในรูปแบบของสลากออมทรัพย์ถือว่าถูกจริตกับคนไทย ซึ่งส่วนใหญ่ต้องการรักษาเงินต้นให้คงอยู่และได้ลุ้นรางวัล หรือ ผลตอบแทน ส่วนตลาดจะตอบรับเร็ว หรือ ช้า ต้องขึ้นอยู่กับราคาและผลตอบแทนค่อนข้างดีที่สามารถจะจูงใจผู้ซื้อได้

"ผมมอง ธอส. จะค่อย ๆ ขายสลากเป็นรอบ ๆ ซึ่งวงเงิน 1 แสนล้านบาทนั้น สามารถขายได้ โดยไม่กระทบกับสภาพคล่องในระบบ เพราะสภาพคล่องมีเพียงพอ แต่ขึ้นอยู่กับผลตอบแทนที่จะจ่ายในราคาตลาดอย่างไร เพราะถ้าต้นทุนแพงก็จะเป็นภาระ ขณะที่ แนวโน้มธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ก็ไม่รีบร้อนจะปรับขึ้นดอกเบี้ย และเฉพาะเมืองไทยเองยังไม่มีประเด็นกดดันให้ต้องขึ้นดอกเบี้ย"

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของออมสิน ปัจจุบัน ได้ล็อกต้นทุนได้ระดับหนึ่ง ซึ่งมีสภาพคล่อง 2.5 แสนล้านบาท แม้ดอกเบี้ยจะปรับขึ้นก็ไม่เดือดร้อน โดยที่ผ่านมา ออมสินทยอยออกสลากออมทรัพย์รอบแรกวงเงิน  3 หมื่นล้านบาท สามารถปิดการขายภายในระยะเวลาเดือนครึ่ง ส่วนรอบที่ 2 วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ใช้เวลาประมาณกว่า 3 เดือน จะปิดการขายทั้งหมด ส่วนหนึ่งเพราะช่วงนั้น คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้นทำให้ตลาดลังเล
 

นายเมธา ปิงสุทธิวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ กล่าวว่า ถ้า ธอส. ออกสลากออมทรัพย์ถึง 1 แสนล้านบาท ก็อาจจะกระทบธนาคารพาณิชย์บ้าง โดยเฉพาะรายย่อยที่สนใจซื้อ แต่ถ้าราคาต่อหน่วย 10 ล้านบาท ถือเป็นรายใหญ่ ซึ่งมักจะจัดสรรเงินลงทุน โดยเกลี่ยพอร์ตทั้งสัดส่วนและระยะเวลาที่สอดคล้องกัน

"ในตลาดมีโปรดักต์ ทั้งพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้เอกชน และเงินฝากพิเศษ ซึ่งแบงก์ใหญ่มีการปรับดอกเบี้ยให้ลูกค้ารายใหญ่บ้าง หรือ ออกบัญชีเงินฝาก ประจำดอกเบี้ยพิเศษ 4 เดือน 7 เดือน ทั้งแบงก์และลูกค้า ช่วงนี้ไม่ล็อกเงินฝากระยะยาว เช่น ระยะเวลาฝากไม่ถึง 1 ปี"

แหล่งข่าวจากธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ กล่าวว่า คาดเดาตลาดได้ยากในช่วงนี้ เพราะต้องรอแนวโน้มการจัดเก็บภาษีกองทุน ซึ่งหากเกิดขึ้นในปีนี้ อาจจะเป็นโอกาสให้ ธอส. เข้ามารับช่วงพอดี แต่การตัดสินใจก็ต้องขึ้นอยู่กับรายละเอียด หรือ Feature ของสลากออมทรัพย์ที่จะออกมา ว่า จะจูงใจผู้ซื้ออย่างไร โดยเฉพาะผลตอบแทน ซึ่งตลาดเงินฝากช่วงนี้ มีเงินฝากประจำพิเศษ 24 เดือน และประเภทเงินฝากประจำก็จะจ่ายดอกเบี้ยที่ระดับ 1.7-1.5% ต่อปี

อย่างไรก็ตาม การที่ ธอส. จะเสนอขายสลากออมทรัพย์ 
1 แสนล้านบาท ส่วนตัวมองว่า
เป็นจำนวนค่อนข้างสูง ถ้าดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนจูงใจผู้ซื้อ ก็จะเห็นการแย่งสภาพคล่อง หรือ การย้ายฐานลูกค้าจากสถาบันหนึ่งไปอีกสถาบันหนึ่ง โดยเฉพาะรายย่อย ขณะที่ ปัจจุบัน พันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 ปี จะจ่ายผลตอบแทนที่ 1.8-1.9% ต่อปี แต่หากสลาก ธอส. จ่ายผลตอบที่อัตรา 3% เชื่อว่าจะขายหมดแน่ เพราะในตลาดยังมีหุ้นกู้เอกชน ซึ่งเป็นคู่แข่งอีกหลายราย
 

ธอส. ออก "สลาก" แสนล้าน! ดิ้นระดมทุนรับ "กู้บ้าน"